รถหน้าฝน
สินเชื่อรถยนต์

7 เทคนิคดูแลรถหน้าฝน ให้ปลอดภัย พร้อมใช้งาน

ดูแลรถหน้าฝน

ฝนตกก็มาพร้อมกับปัญหารถยนต์อีกล้านแปด เพราะฤดูฝนเป็นช่วงเวลาที่รถของคุณต้องการการดูแลเป็นพิเศษมากที่สุด แต่หลายคนมักจะละเลยการบำรุงรักษารถในช่วงนี้ เพราะคิดว่ายังไงเดี๋ยวก็จะเลอะ หรือแม้แต่มีฝนคอยล้างรถแล้ว ไม่ต้องตรวจเช็กรถก็ได้ อย่างไรก็ตามการดูแลรถในฤดูฝนมีความสำคัญไม่น้อย เพราะฝนอาจทำให้เกิดความเสียหายและปัญหาต่างๆ ต่อรถได้ ดังนั้นวันนี้ เงินให้ใจได้รวบรวม 7 เทคนิคการดูแลรถในฤดูฝนอย่างถูกวิธีเพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่ารถของคุณจะปลอดภัยและพร้อมใช้งาน

ทำไมเราต้องตรวจเช็กและดูแลรถหน้าฝน?

เพราะการตรวจเช็คและดูแลรถยนต์ในหน้าฝนเป็นสิ่งสำคัญเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพของการขับขี่ ซึ่งมีเหตุผลหลักๆ ที่คุณควรต้องใส่ใจการตรวจเล็กและดูแลรถยนต์ในช่วงหน้าฝนคือ

1. ความปลอดภัย ช่วยป้องกันปัญหาเช่น ยางรถที่เสื่อมสภาพ หรือไฟรถที่มองไม่เห็นในหน้าฝน อาจจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้

2. คุณภาพการขับขี่ที่ดีขึ้น และทำให้คุณรู้สึกมั่นใจมากขึ้นในช่วงหน้าฝน

3. ป้องกันความเสียหาย เช่น การระบายน้ำที่ไม่ดีอาจทำให้เกิดความเสียหายกับส่วนของรถได้

4. การรักษาสภาพรถ ช่วยล้างคราบสกปรกที่ติดอยู่บนรถ เช่น คราบสกปรกที่ติดบนหน้าต่างหรือตัวถัง

7 เทคนิคดูแลรถหน้าฝน

1. เช็กสภาพยางรถยนต์และลมยาง เพราะยางรถยนต์ที่เสื่อมสภาพอาจทำให้การเกาะถนนไม่ดี ซึ่งอาจทำให้รถขับได้ยากลำบากและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ อีกทั้งยางที่มีความหนาแน่นไม่เพียงพอหรือเสื่อมสภาพอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของระบบเครื่องยนต์และการควบคุมของรถ

โดยสามารถเช็คสภาพยางรถยนต์เบื้องต้นได้ด้วยตัวเองโดยการดูว่ายางรถยนต์มีการเสื่อมสภาพ ดอกยางสึก หรือใช้งานจนแทบไม่เหลือดอกยาง แก้มยางยวม หรือยางมีรอยแตกลายงาหรือไม่ หากมี แนะนำให้เปลี่ยนยางรถยนต์เพื่อความปลอดภัย ทิ้งยางเก่าแล้วหันมาใช้ยางใหม่จะดีที่สุด

2. เช็กที่ปัดน้ำฝน โดยที่ปัดน้ำฝนเป็นสิ่งที่ใช้บ่อยสุดในช่วงหน้าฝน และที่ปัดน้ำฝนที่เสื่อมสภาพก็เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุเช่นกัน ดังนั้นเราจึงควรตรวจเช็คใบปัดน้ำฝน ว่ามีสภาพที่ดีอยู่หรือไม่

ทำได้โดยการตรวจสอบดูว่าปัดน้ำฝนยังคงมีความยืดหยุ่นและความเรียบเนียน และไม่มีรอยแตกหรือขาดหายบนวิปเปอร์ หากพบว่ามีปัญหา คุณอาจต้องเปลี่ยนหรือซ่อมแซมส่วนปัดน้ำฝนให้ทันท่วงที เพื่อให้รถของคุณยังคงมีประสิทธิภาพในการดูแลรถในฤดูฝนอย่างเหมาะสม

3. เคลือบสีรถ เคลือบสีรถยนต์สามารถช่วยให้รถปลอดภัยในช่วงหน้าฝนได้ โดยเราสามารถนำรถไปเคลือบสีใหม่ในช่วงหน้าฝนหรือก่อนเข้าหน้าฝนได้ทันที เพื่อให้รถยนต์สามารถดูแล ทำความสะอาดได้ดีมากขึ้น

4. ลุยฝนแล้วควรล้างรถทันที การล้างรถทันทีหลังจากการขับรถในฝนมีประโยชน์มาก เพราะน้ำฝนสามารถเป็นสาเหตุให้เกิดความสกปรกและความเสียหายต่อสีรถได้ โดยเฉพาะย่านนิคมอุตสาหกรรมที่ฝนที่ตกลงมามีสภาพเป็นกรดสูง ดังนั้นควรล้างรถโดยเร็วเพื่อปกป้องสีและล้างความสกปรกออกจากพื้นผิวของรถ การล้างรถทันทีหลังจากฝนยังช่วยให้ป้องกันการเกิดคราบน้ำยางที่อาจเกิดจากการแห้งของน้ำฝนบนผิวรถด้วย

5. ควรเปลี่ยนและทำความสะอาดไฟหน้ารถ เพื่อให้เรามองเห็นได้ชัดเจนขึ้น และเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ นอกจากนี้การมีหลอดไฟหน้าที่มีรอยแตกร้าวจะเพิ่มความเสี่ยงให้น้ำฝนสามารถเข้าสู่หลอดไฟซึ่งอาจทำให้เกิดความชื้นภายในหลอดไฟ ทำให้เกิดคราบเหลืองหรือคราบน้ำในหลอดไฟ ทำให้คุณไม่สามารถเห็นถนนได้อย่างชัดเจน และมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ

6. ดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ในช่วงหน้าฝน โดยสามารถตรวจเช็กและดูแลได้โดยการตรวจสอบระดับน้ำในแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอ และเติมน้ำเพิ่มในกรณีที่ระดับน้ำต่ำลง โดยใช้น้ำที่มีคุณภาพดีและเหมาะสมตามคำแนะนำของผู้ผลิต

7. ตรวจดูซีลยางขอบประตู การตรวจดูซีลยางขอบประตูเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้รถป้องกันน้ำเข้าสู่ภายในและลดเสียงรบกวนจากภายนอกในช่วงหน้าฝนได้ โดยเราสามารถตรวจเช็กและดูแลได้โดยมองดูซีลยางตรงที่ขอบประตูในที่ซีลติดอยู่ ตรวจสอบว่ามีรอยถลอก รอยขาด รอยบิ่นหรือไม่ หากมีความเสียหายอาจต้องพิจารณาการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนซีลยางใหม่

สรุป

ทั้งหมดนี้ก็เป็นคำแนะนำจากเงินให้ใจ สำหรับการดูแล ตรวจเช็กและรักษาสภาพรถยนต์ในช่วงหน้าฝน เพื่อให้รถที่เรารักสามารถอยู่กับเราไปนานๆ โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนแบบนี้นั่นเอง และสำหรับใครที่กำลังมองหาสินเชื่อรถยนต์ที่ของ่าย อนุมัติง่าย ไม่ใช้เอกสารเยอะ มีความน่าเชื่อถือและดูแลโดยบริษัท เงินให้ใจ จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสามารถขอใช้บริการได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คำนวณวงเงินสินเชื่อและสมัครสินเชื่อได้ทันทีที่ เงินให้ใจ

“กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนรถ 12.82% - 24.00% สินเชื่อโอนเล่มทะเบียนรถ แบ่งเป็นกรณีบุคคลธรรมดามีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการส่วนตัว 6.08% - 15.00% และกรณีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ 6.08% - 26.62%”

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Website : https://www.ngernhaijai.com/

Line : https://bit.ly/3zDd5Kz

เงินให้ใจ โทร : 02 078 8899

เผยแพร่ 18 ก.ค. 2567

บทความอื่น ๆ

สินเชื่อธุรกิจ

5 สัญญาณที่บอกว่าได้เวลาอัปเกรดร้าน ก่อนจะพังเพราะอยู่ที่เดิมนานเกินไป

ลูกค้าหาย ยอดขายตก? เช็ก 5 สัญญาณเตือนว่าถึงเวลาต้องอัปเกรดร้าน รีแบรนด์ หรือปิดปรับปรุง เพื่อปรับตัวก่อนธุรกิจจะพังเพราะอยู่กับที่นานเกินไป

เผยแพร่ 15 ส.ค. 2568

สต๊อกสินค้า

อัปเกรดร้านให้สต๊อกเป๊ะ! เก็บของเป็นระเบียบ ขายออนไลน์ไม่มีสะดุด

จัดการสต๊อกสินค้าให้เป๊ะเหมือนมืออาชีพ! รวมเทคนิคอัปเกรดระบบหลังบ้าน จัดระเบียบสต๊อก ลดของหาย เพิ่มยอดขายได้ทันที

เผยแพร่ 15 ส.ค. 2568

เสียงรถ

ได้ยินเสียงแปลกจากรถ? เช็ก 5 สัญญาณก่อนพังยับ เสียทั้งรถ เสียทั้งเงิน

ได้ยิน เสียงเครื่องยนต์ดังแก๊กๆ, เสียงรถอื้อๆ, หรือ เสียงช่วงล่างเอี๊ยดๆ? รวม 5 เสียงแปลกจากรถที่ไม่ควรเมิน ถ้าไม่อยากเจอค่าซ่อมหลักหมื่น!

เผยแพร่ 15 ส.ค. 2568