ดอกเบี้ยสินเชื่อ
สินเชื่อรถยนต์

ดอกเบี้ย สินเชื่อรถยนต์ คำนวณอย่างไร เสียดอกเบี้ยแบบไหน?

ดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์

การจะขอสินเชื่อรถยนต์สักครั้งในชีวิต แน่นอนว่าการเลือกสินเชื่อรถยนต์มีความสำคัญสำหรับผู้ซื้อรถเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นสิ่งที่มีผลต่อค่าใช้จ่ายทั้งหมดของการเช่าซื้อหรือการกู้ยืม และเรื่องที่สำคัญที่สุดสำหรับการขอสินเชื่อรถยนต์ในแต่ละครั้งก็คือ “การทำความเข้าใจและรับรู้ถึงผลกระทบของดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อรถยนต์” ดังนั้น วันนี้ เราจะมาพูดทุกเรื่องเกี่ยวกับดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์ ว่าคำนวณอย่างไร มีแบบไหนบ้าง? 

การคำนวณดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์ คำนวณกันยังไง? 

การคำนวณดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์มีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับประเภทของดอกเบี้ยที่ใช้ ซึ่งหลักๆ มีสองแบบ คือ ดอกเบี้ยคงที่ (Flat Rate) และดอกเบี้ยลดต้นลดดอก (Effective Rate) แต่ละแบบมีวิธีการคำนวณที่แตกต่างกัน ดังนี้

ดอกเบี้ยคงที่ (Flat Rate) ดอกเบี้ยคงที่จะคำนวณจากยอดเงินกู้ทั้งหมด ไม่ลดลงตามยอดเงินกู้ที่ชำระแล้ว โดยจะคิดดอกเบี้ยเป็นรายปีและคงที่ตลอดอายุสัญญา

สูตรการคำนวณดอกเบี้ยคงที่ : ดอกเบี้ยต่อปี = เงินกู้ × อัตราดอกเบี้ยต่อปี

ตัวอย่างสถานการณ์:

- วงเงินสินเชื่อ: 500,000 บาท

- ระยะเวลาผ่อนชำระ: 48 เดือน (4 ปี)

- อัตราดอกเบี้ยคงที่: 6% ต่อปี

วิธีการคำนวณ:

1. ดอกเบี้ยต่อปี = 500,000 × 6% = 30,000 บาท

2. ดอกเบี้ยรวมตลอดสัญญา = ดอกเบี้ยต่อปี × จำนวนปี = 30,000 × 4 = 120,000 บาท

3. ยอดรวมที่ต้องชำระ = เงินต้น + ดอกเบี้ยรวม = 500,000 + 120,000 = 620,000 บาท

4. ค่างวดต่อเดือน = ยอดรวมที่ต้องชำระ ÷ (จำนวนปี × 12 เดือน) = 620,000 ÷ (4 × 12) = 12,916.67 บาท

สรุป ดอกเบี้ยต่อปีคือ 30,000 บาท ดอกเบี้ยรวมตลอดสัญญาคือ 120,000 บาท ยอดรวมที่ต้องชำระคือ 620,000 บาท และมีค่างวดต่อเดือน 12,916.67 บาท

ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก (Effective Rate) จะคำนวณจากยอดเงินกู้คงเหลือ โดยจะลดลงตามยอดเงินที่ชำระคืนแล้ว 

สูตรการคำนวณดอกเบี้ยลดต้นลดดอก : ดอกเบี้ยต่อเดือน = ยอดเงินกู้คงเหลือ × (อัตราดอกเบี้ยต่อปี/12)

ตัวอย่างสถานการณ์ :

- เงินกู้: 500,000 บาท

- อัตราดอกเบี้ยต่อปี: 6% (0.06)

- ระยะเวลากู้: 4 ปี (48 เดือน)

สมมติว่าค่างวดคงที่ต่อเดือนคือ 11,715 บาท (คำนวณโดยใช้ฟังก์ชัน PMT ในโปรแกรม Excel)

ตัวอย่างการคำนวณ 3 เดือนแรก :

เดือนที่ 1 :

ดอกเบี้ย = 500,000 × (0.06 / 12) = 2,500 บาท

เงินต้นที่ชำระ = 11,715 - 2,500 = 9,215 บาท

ยอดคงเหลือ = 500,000 - 9,215 = 490,785 บาท

เดือนที่ 2 :

ดอกเบี้ย = 490,785 × (0.06 / 12) = 2,453.93 บาท

เงินต้นที่ชำระ = 11,715 - 2,453.93 = 9,261.07 บาท

ยอดคงเหลือ = 490,785 - 9,261.07 = 481,523.93 บาท

เดือนที่ 3 :

ดอกเบี้ย = 481,523.93 × (0.06 / 12) = 2,407.62 บาท

เงินต้นที่ชำระ = 11,715 - 2,407.62 = 9,307.38 บาท

ยอดคงเหลือ = 481,523.93 - 9,307.38 = 472,216.55 บาท

จะสังเกตุได้ว่าดอกเบี้ยที่จ่ายในแต่ละเดือนจะลดลงเรื่อยๆ, สัดส่วนของเงินต้นที่ชำระในแต่ละงวดจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และยอดเงินกู้คงเหลือจะลดลงเร็วกว่าการคิดดอกเบี้ยแบบคงที่ วิธีนี้จึงทำให้ผู้กู้จ่ายดอกเบี้ยรวมน้อยกว่าวิธีคิดดอกเบี้ยแบบคงที่ เนื่องจากดอกเบี้ยจะถูกคำนวณจากยอดเงินกู้คงเหลือซึ่งลดลงทุกเดือน

อะไรที่มีผลต่ออัตราดอกเบี้ย? 

อย่างแรกก็คือเรื่องของ ประวัติเครดิต ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่ออัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อรถยนต์ของคุณ ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับประวัติเครดิตที่ไม่ดีอาจทำให้อัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น

ต่อมาคือ ระยะเวลาการกู้ยืม ซึ่งมีผลต่ออัตราดอกเบี้ยเพราะระยะเวลาที่ยาวขึ้นมักจะมีดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า ในทางกลับกัน การกู้ยืมเงินในระยะเวลาสั้นอาจทำให้อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น

และสุดท้ายคือ ประวัติการชำระหนี้ ซึ่งการมีประวัติการชำระหนี้ที่ดีสามารถช่วยลดอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อรถยนต์ของคุณ สถาบันการเงินมักจะมองเห็นผู้ที่ชำระหนี้ตรงเวลาเป็นลูกค้าที่น่าเชื่อถือและมีความสามารถในการจัดการกับการเงินได้ดี

สิ่งที่ควรระวังเมื่อคำนวณดอกเบี้ย

1. ให้ระวังค่าใช้จ่ายที่ซ่อนอยู่ ซึ่งในบางครั้งเรามักจะมีค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้ถูกนำเสนอเมื่อคำนวณดอกเบี้ย ซึ่งอาจรวมถึงค่าประกันภัย ค่าธรรมเนียมการปรับอัตราดอกเบี้ย 

2. ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการรีไฟแนนซ์ ถ้าคุณขอสินเชื่อและทำการผ่อนชำระค่างวดรถยนต์ไปสักระยะหนึ่ง แล้วอยากทำการรีไฟแนนซ์ การรีไฟแนนซ์รถยนต์อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเช่น ค่าธรรมเนียมการรีไฟแนนซ์ ค่าประกันภัยรถยนต์ใหม่ หรือค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ควรพิจารณาค่าใช้จ่ายเหล่านี้ในการวางแผนการเงิน

3. ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับเงื่อนไขการชำระเงิน สิ่งต่อมาที่ควรพิจารณาคือเงื่อนไขการชำระเงิน เช่น การชำระเงินล่วงหน้า หรือการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการชำระเงิน ซึ่งอาจส่งผลให้ค่าใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้นในระยะยาว

เรื่องที่สำคัญ! ให้หาข้อเสนอที่ดีสุดสำหรับการผ่อนรถ

ที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งก็คือ คุณควรที่จะค้นหาข้อเสนอที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ยหรือโปรโมชั่นต่างๆ ที่เหล่าสถาบันการเงินมักจะออกมาเพื่อแข่งขันกัน ซึ่งเราจะได้รับประโยชน์จากการแข่งขันนี้หากเรามีความใส่ใจและเปรียบเทียบกันอย่างรอบคอบพอ 

อยากลดดอกเบี้ยรถยนต์ต้องทำอะไร

1. รีไฟแนนซ์รถยนต์ ขอสินเชื่อใหม่กับสถาบันการเงินอื่นที่เสนออัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า และช่วยลดอัตราดอกเบี้ยและยอดผ่อนรายเดือนของคุณ

2. เจรจากับสถาบันการเงินเดิม บางครั้งสถาบันการเงินอาจยินยอมลดดอกเบี้ยให้ หากคุณมีประวัติการผ่อนชำระที่ดี

3. ชำระเงินดาวน์มากขึ้น เนื่องจากเงินกู้จะน้อยลงและความเสี่ยงของสถาบันการเงินจะลดลงด้วย

4. เลือกสินเชื่อแบบลดต้นลดดอก ซึ่งดอกเบี้ยจะคำนวณจากยอดคงเหลือของเงินกู้ หมายความว่าหากคุณชำระเงินมากกว่าขั้นต่ำในแต่ละเดือน ยอดเงินต้นจะลดลงเร็วขึ้นและดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายจะน้อยลง

5. ปรับปรุงคะแนนเครดิต ทำให้มีโอกาสที่สถาบันการเงินจะลดดอกเบี้ยรถยนต์ให้

สรุป 

การคำนวณดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อรถยนต์เป็นกระบวนการที่มีอีกหลายปัจจัยที่มีผล การหาสินเชื่อที่เหมาะสมกับความต้องการและสภาพการเงินของคุณจึงควรทำอย่างละเอียดและรอบคอบ ส่วนใครที่กำลังมองหาสินเชื่อสำหรับรถยนต์ รถตู้ รถกระบะและรถบรรทุก ที่มีความน่าเชื่อถือ บริษัท เงินให้ใจ จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสามารถขอใช้บริการได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คำนวณวงเงินสินเชื่อและสมัครสินเชื่อได้ทันทีที่ เงินให้ใจ

“กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนรถ 12.82% - 24.00% สินเชื่อโอนเล่มทะเบียนรถ แบ่งเป็นกรณีบุคคลธรรมดามีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการส่วนตัว 6.08% - 15.00% และกรณีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ 6.08% - 26.62%”

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Website : https://www.ngernhaijai.com/

Line : https://bit.ly/3zDd5Kz

เงินให้ใจ โทร : 02 078 8899

เผยแพร่ 25 ก.ค. 2567

บทความอื่น ๆ

บริหารเงิน

จัดพอร์ตการเงินยังไงให้ไม่เจ๊ง! ปลอดภัยแต่โตได้ในยุคเสี่ยง

จัดพอร์ตการเงินแบบปลอดภัยแต่โตได้ เรียนรู้เทคนิคบริหารเงินที่ช่วยสร้างความมั่นคงทางการเงินส่วนบุคคล พร้อมกลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสำหรับยุคเศรษฐกิจผันผวน

เผยแพร่ 19 มิ.ย. 2568

เงินเฟ้อ

เงินเฟ้อ 2025 มาหนักแน่! วางแผนการเงินยังไงให้รอดทุกสภาพเศรษฐกิจ

เงินเฟ้อ 2025 จะส่งผลกระทบยังไง? เงินเฟ้อคืออะไร และวางแผนการเงินอย่างไรให้รอดทุกสภาพเศรษฐกิจ จากเงินให้ใจ

เผยแพร่ 19 มิ.ย. 2568

หนี้ครัวเรือน

เจาะลึกหนี้ครัวเรือนไทย ทำไมเราถึงติดกับดักหนี้กันทุกปี?

หนี้ครัวเรือนไทยอยู่ในระดับสูง ทำไมคนไทยยังติดกับดัก? วิเคราะห์สาเหตุและแนวทางแก้หนี้อย่างยั่งยืน จากเงินให้ใจ

เผยแพร่ 19 มิ.ย. 2568