อัปเดตรถกระบะแนะนำปี 2024 แบบไหนคุ้มที่สุด

สำหรับคนที่ทำธุรกิจส่วนตัว ต้องขนส่งหรือขนย้ายของเป็นประจำ ต้องการความคล่องตัวในการทำงาน “รถกระบะ” เป็นตัวเลือกที่นิยมอย่างมากไม่ว่าจะใช้ส่วนตัวหรือในธุรกิจ เพราะมีพื้นที่บรรจุของกว้างขวางและเครื่องยนต์ที่แรง ทำให้เดินทางได้สะดวกทุกที่ 

วันนี้ เงินให้ใจ จึงจะรวบรวมรถกระบะแนะนำปี 2024น่าสนใจและเหมาะกับการใช้งานเพื่อช่วยให้การตัดสินใจเป็นเรื่องง่ายและตรงกับความต้องการมากยิ่งขึ้น

1.Toyota HILUX REVO 2024

สำหรับรถกระบะจาก Toyota รุ่นนี้จะเป็นการปรับโฉมใหญ่ (Full Model Change) ของกระบะพันธุ์แกร่งรุ่นยอดนิยม ขุมพลังมีทั้งตัวเลือกเครื่องยนต์ดีเซลและเบนซินแรงม้าสูงกว่ารุ่นก่อน เพิ่มระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยีการขับขี่ระดับล้ำสมัย สมรรถนะการบรรทุกและลากจูงได้ดียิ่งขึ้น แต่ก็ยังคงจุดเด่นที่เป็นกระบะรุ่นท็อปพันธุ์แกร่งแห่งตระกูล Toyota โดยรุ่นนี้จะมีราคาเริ่มต้น 825,000 บาท

2. Ranger Double Cab Raptor 

รถกระบะจากฟอร์ดรุ่นนี้เป็นรุ่นพิเศษสำหรับการใช้งานหนักและออฟโรด ดีไซน์สปอร์ตหรูหรา โฉบเฉี่ยว ขุมพลังดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร แรงม้าและแรงบิดสูง ระบบขับเคลื่อน 4WD แข็งแกร่ง พร้อมระบบช่วยออฟโรด ห้องโดยสารสปอร์ต ติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน สมรรถนะการบรรทุกและลากจูงในระดับแนวหน้า โดยรุ่นนี้จะมีราคาเริ่มต้น 1,799,000 บาท

3. Mitsubishi TRITON ATHLETE

รถกระบะที่นำเสนอความท้าทายและความพิเศษด้วยดีไซน์ที่เข้มแข็งและมั่นคง มีเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยที่ทันสมัย เช่น ระบบเบรก ABS, ระบบความปลอดภัยแบบมัลติเพลกซ์, ระบบช่วยเหลือในการเริ่มต้นในการเคลื่อนที่บนทางลาด และอื่นๆ โดยรุ่นนี้จะมีราคาอยู่ที่ 1,125,000 - 1,298,000 บาท มีทั้งขับ2 และขับ4 Super Select II Full-Time 4WD Hyper Power X2

4. Isuzu D-MAX X-Series ; D-MAX X-Series Hi-Lander 

รถกระบุสุดเท่ห์ที่นำเสนอความลงตัวและความสมบูรณ์ในทุกรายละเอียด มีการผสมผสานระหว่างสไตล์และประสิทธิภาพของรุ่นที่มีอิทธิพลอย่างมากในท้องตลาดของอีซูซุอย่าง D-MAX X-Series และ D-MAX X-Series Hi-Lander มาพร้อมดีไซน์ที่ดึงดูด และคุณภาพวัสดุที่มั่นคง ซึ่งเป็นเครื่องมือที่สมบูรณ์แบบสำหรับการใช้งานทุกวัน โดยรุ่นนี้จะมีราคาอยู่ที่ 878,000 - 1,017,000 บาท 

5. Nissan Navara Double Cab

รถกระบะครอบครัวขนาดกลางที่มีความยาวและความกว้างเพียงพอสำหรับการใช้งานในเมืองและในสภาพถนนที่ท้าทาย มันเป็นผลิตภัณฑ์จาก Nissan Motor Company ที่เป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำในโลก รถกระบะรุ่นนี้มีดีไซน์ที่โดดเด่นและทันสมัย พร้อมกับคุณภาพวัสดุที่ดีในภายในและภายนอก นำเสนอความสมบูรณ์และสมรรถนะที่น่าประทับใจในตลาด นอกจากนี้ยังมีพื้นที่นั่งสบายสำหรับผู้โดยสารในห้องโดยสาร และพื้นที่บรรจุของสำหรับการบรรทุกของหนัก โดยรุ่นนี้จะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1,030,000 บาท

6. Mazda BT-50

รถกระบะที่นำเสนอความสปอร์ตและความสมบูรณ์ในรูปแบบที่น่าทึ่ง ด้วยดีไซน์ที่สวยงามและหลากหลายในฟังก์ชัน ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานทั้งในเมืองและในการเดินทางไกล และดีไซน์ภายนอกของ Mazda BT-50 มีลักษณะที่ทันสมัยและสปอร์ต และมีคุณภาพวัสดุที่มั่นคง ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบใหม่เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและสมบูรณ์ในการใช้งาน อีกทั้งยังมีเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพและระบบขับเคลื่อนที่เสถียร โดยรุ่นนี้จะมีราคาเริ่มต้นที่ 771,000 บาท

7. Mitsubishi Triton Double Cab

กระบะที่นำเสนอความแข็งแรงและความสบายในรูปแบบที่น่าทึ่ง ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัยและเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานทั้งในเมืองและในสภาพถนนที่ท้าทาย มีคุณภาพวัสดุที่คงทนทาน ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบใหม่เพื่อเพิ่มความสบายและความสมบูรณ์ในการใช้งาน ผสานกับขุมพลัง MIVEC 2.4ลิตร 181 แรงม้า แกร่งทั้งภายในและภายนอก พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน โดยรุ่นนี้จะมีราคาเริ่มต้นที่ 1,125,000 บาท

8. Ford Ranger Wildtrak 

รถกระบะขนาดกลาง 4 ประตูรุ่นยอดนิยมของฟอร์ด ดีไซน์สปอร์ตหรูหรา เน้นความแกร่งและทันสมัย มีทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ กำลังสูงสุดประมาณ 210 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด มาพร้อมกับหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่พร้อมระบบ SYNC และระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน อีกทั้งยังสามารถรับน้ำหนักบรรทุกได้มาก มีความสามารถในการลุยน้ำสูง เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งในเมืองและออฟโรด ถือว่าเป็นรถกระบะที่ผสมผสานความสามารถในการใช้งานเชิงพาณิชย์กับความสะดวกสบายของรถยนต์นั่งส่วนบุคคลได้อย่างลงตัว โดยรุ่นนี้จะมีราคาเริ่มต้นที่ 999,000 - 1,265,000 บาท

9. MG Extender

รถกระบะจากแบรนด์ MG (Morris Garages) มีทั้งแบบตอนเดียว (Single Cab) และสี่ประตู (Double Cab) เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุดประมาณ 161 แรงม้า มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวก หน้าจอสัมผัสขนาด 10 นิ้ว ระบบ i-SMART กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา และระบบปรับอากาศอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังสามารถรับน้ำหนักบรรทุกได้มากกว่า 1 ตัน เป็นทางเลือกที่น่าสนใจในตลาดรถกระบะ โดยนำเสนอฟีเจอร์ที่ทันสมัยและราคาที่แข่งขันได้ โดยรุ่นนี้ราคาเริ่มต้นประมาณ 549,000 บาท ไปจนถึงประมาณ 1,029,000 บาท (ขึ้นอยู่กับรุ่นและการตกแต่ง ราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้)

10. GWM POER SAHAR HEV 

กระบะไฮบริดรุ่นแรกในไทยที่เพิ่งเปิดจองสิทธิ์เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ด้วยระบบไฮบริดแบบ Mild Hybrid (MHEV) เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบ + มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังรวมสูงสุดประมาณ 224 แรงม้า มีดีไซน์ทันสมัย โฉบเฉี่ยว ไฟหน้า LED แบบ Matrix อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 9 วินาที ประหยัดน้ำมันกว่ารุ่นเครื่องยนต์ปกติ ซึ่งเป็นรถกระบะที่นำเสนอเทคโนโลยีไฮบริดในตลาดรถกระบะไทย ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงที่ดีขึ้นและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยราคาเริ่มต้นประมาณ 1,059,000 บาท (ราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้)

สรุป

และนี่คือรายชื่อของรถกระบะที่น่าซื้อ ซึ่งต้องบอกว่าทุกรุ่นต่างก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป เหมาะสำหรับการใช้งาน ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน

บริษัท เงินให้ใจ จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสามารถขอใช้บริการได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คำนวณวงเงินสินเชื่อและสมัครสินเชื่อได้ทันทีที่ เงินให้ใจ

“กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนรถ 12.82% - 24.00% สินเชื่อโอนเล่มทะเบียนรถ แบ่งเป็นกรณีบุคคลธรรมดามีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการส่วนตัว 6.08% - 15.00% และกรณีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ 6.08% - 26.62%”

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Website : https://www.ngernhaijai.com/

Line : https://bit.ly/3zDd5Kz

เงินให้ใจ โทร : 02 078 8899