6 สิ่งที่ต้องเช็ครถก่อนเดินทางไกล ให้รถพร้อมช่วงหยุดยาว

การวางแผนเที่ยวช่วงวันหยุดยาวเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่หลายคนรอคอย แต่ก่อนจะออกเดินทางไกล สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามคือการตรวจเช็กความพร้อมของรถยนต์ เพราะการดูแลรักษารถยนต์ที่ดีไม่เพียงช่วยให้การเดินทางราบรื่น แต่ยังช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นระหว่างทาง เงินให้ใจ จึงจะพาทุกคนมาดู 6 จุดสำคัญที่ต้องตรวจเช็กกัน

ทำไมต้องตรวจเช็กรถก่อนเดินทางไกล

การวางแผนเที่ยวช่วงวันหยุดยาวเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่หลายคนรอคอย แต่หลายครั้งทริปที่วางแผนไว้อย่างดีอาจต้องสะดุดเพราะปัญหาจากรถยนต์ที่ไม่ได้รับการเช็กสภาพอย่างละเอียดก่อนออกเดินทาง การดูแลรักษารถยนต์ที่ดีจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

การเดินทางไกลทำให้รถต้องทำงานหนักกว่าปกติ โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาวที่การจราจรหนาแน่น สภาพอากาศที่ร้อนจัด หรือเส้นทางที่ขึ้น-ลงเขา การตรวจเช็กสภาพรถก่อนเดินทางจึงมีความสำคัญด้วยเหตุผลหลายอย่าง เช่น

1. ป้องกันการเสียกลางทาง

- หลีกเลี่ยงการเสียเวลาและค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น

- ลดความเสี่ยงจากการจอดรถในจุดเปลี่ยว

- ประหยัดค่าซ่อมฉุกเฉินที่มักมีราคาแพง

2. เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง

- ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุที่เกิดจากความบกพร่องของรถ

- สร้างความมั่นใจให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร

- เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน

3. ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว

- ยืดอายุการใช้งานของชิ้นส่วนต่างๆ

- ลดการสึกหรอที่ไม่จำเป็น

- ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง

6 วิธีเตรียมรถให้พร้อมลุยเที่ยวช่วงหยุดยาว

วันหยุดยาวเป็นโอกาสดีที่หลายคนวางแผนขับรถไปท่องเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัวหรือเพื่อนฝูง ไม่ว่าจะเป็นทริปชายทะเล ขึ้นดอย หรือเที่ยวต่างจังหวัด แต่สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือการเตรียมความพร้อมของรถยนต์ที่จะพาคุณและคนที่คุณรักไปถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย

การดูแลรักษารถยนต์ก่อนออกเดินทางไกลเป็นเรื่องสำคัญ เพราะการเดินทางในช่วงวันหยุดยาวมักมีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่าง ทั้งการจราจรที่หนาแน่น สภาพอากาศที่แปรปรวน หรือเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย หากรถเกิดปัญหากลางทางอาจทำให้ทริปที่วางแผนไว้อย่างดีต้องสะดุดลง

บทความนี้จะแนะนำ 6 วิธีในการเตรียมรถให้พร้อมก่อนออกทริป เพื่อให้การเดินทางของคุณราบรื่น สนุก และปลอดภัยตลอดการเดินทาง ไม่ว่าคุณจะวางแผนเดินทางไกลแค่ไหน หรือใช้เส้นทางแบบใด การเตรียมความพร้อมเหล่านี้จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าจะถึงจุดหมายอย่างปลอดภัยและมีความสุขตลอดทริป

1. ตรวจสอบยางรถยนต์ให้พร้อมลุย 

การเตรียมความพร้อมของยางรถเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก เพราะยางเป็นจุดสัมผัสเดียวระหว่างรถกับถนน ควรตรวจสอบ

- ดอกยางต้องไม่สึกเกินมาตรฐาน โดยความลึกดอกยางควรมากกว่า 1.6 มิลลิเมตร

- ตรวจหารอยแตก รอยบวม หรือตำหนิต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณด้านข้างของยาง

- วัดแรงดันลมยางให้เหมาะสมตามคู่มือรถ โดยควรวัดขณะยางเย็น

- ตรวจสอบยางอะไหล่ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน รวมถึงอุปกรณ์เปลี่ยนยาง

2. เช็กระบบแบตเตอรี่ให้มั่นใจ 

แบตเตอรี่เป็นหัวใจสำคัญในการสตาร์ทรถ หากมีปัญหาอาจทำให้รถสตาร์ทไม่ติดกลางทาง ควรตรวจสอบ

- ทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่ด้วยน้ำอุ่นผสมเบกกิ้งโซดา

- เช็กระดับน้ำกลั่นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม

- สังเกตอายุการใช้งาน หากเกิน 2 ปีควรเปลี่ยน

- ตรวจสอบการทำงานของระบบไฟฟ้าทั้งหมด รวมถึงไฟหน้า ไฟท้าย และไฟเลี้ยว

3. ตรวจเช็กระดับน้ำมันเครื่อง 

น้ำมันเครื่องเป็นหัวใจสำคัญของการหล่อลื่นเครื่องยนต์ การดูแลรักษารถยนต์ในส่วนนี้จำเป็นต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ:

- ตรวจระดับน้ำมันเครื่องให้อยู่ระหว่างขีด MIN และ MAX บนก้านวัด

- สังเกตสีและความข้นของน้ำมันเครื่อง หากมีสีดำคล้ำหรือข้นผิดปกติควรเปลี่ยนทันที

- เตรียมน้ำมันเครื่องสำรอง 1 ลิตรติดรถไว้ เลือกเกรดตามที่คู่มือระบุ

- ตรวจสอบระยะทางการเปลี่ยนถ่ายครั้งล่าสุด หากใกล้ถึงรอบควรเปลี่ยนก่อนเดินทาง

4. ทดสอบระบบเบรกอย่างละเอียด 

ระบบเบรกเป็นอุปกรณ์ความปลอดภัยที่สำคัญที่สุด ต้องมั่นใจว่าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

- ตรวจสอบระดับน้ำมันเบรกในกระปุกพักให้อยู่ในระดับที่กำหนด

- สังเกตความหนาของผ้าเบรก ควรมีความหนาเหลือไม่น้อยกว่า 3 มิลลิเมตร

- ทดสอบการทำงานของเบรกมือ ต้องกดได้ไม่เกิน 4-6 จังหวะ

- ฟังเสียงผิดปกติขณะเบรก หากมีเสียงดังควรรีบนำเข้าตรวจสอบ

- ทดสอบการทำงานของระบบ ABS หากรถมีระบบนี้ติดตั้ง

5. เตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉินให้ครบครัน 

อุปกรณ์ฉุกเฉินที่จำเป็นต้องมีติดรถเสมอ โดยเฉพาะการเดินทางไกล:

- แม่แรงและประแจล้อที่เหมาะกับรถของคุณ

- สายพ่วงแบตเตอรี่คุณภาพดี ความยาวเพียงพอ

- ไฟฉายแบบชาร์จไฟได้หรือพร้อมถ่านสำรอง

- ชุดปฐมพยาบาลที่มียาและอุปกรณ์จำเป็นครบถ้วน

- สายลากรถที่รับน้ำหนักได้เหมาะสม

- เครื่องมือพื้นฐาน เช่น ไขควง คีม ประแจเลื่อน

- ถังดับเพลิงขนาดพกพา

6. ตรวจสอบประกันภัยและบริการฉุกเฉิน 

ความคุ้มครองที่ดีช่วยให้เดินทางอุ่นใจ คุณจึงควรเช็กประกันภัยและบริการฉุกเฉินต่างๆ ไว้ให้พร้อมที่สุด

- ตรวจสอบวันหมดอายุกรมธรรม์และความคุ้มครอง

- เก็บเบอร์ติดต่อฉุกเฉินไว้ในที่เห็นได้ชัดเจน

- ศึกษาเงื่อนไขความคุ้มครองและบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน

- บันทึกเบอร์ศูนย์ช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง

- ตรวจสอบพื้นที่ให้บริการและข้อจำกัดต่างๆ

การเตรียมพร้อมก่อนออกเดินทาง

นอกจากการตรวจเช็กทั้ง 6 รายการข้างต้น ควรคำนึงถึงการเตรียมตัวด้านอื่นๆ ที่จะช่วยให้การเดินทางปลอดภัยยิ่งขึ้น

- วางแผนเส้นทางและจุดแวะพักล่วงหน้า

- ศึกษาสภาพอากาศตลอดเส้นทาง

- เตรียมน้ำดื่มและอาหารว่างสำหรับการเดินทาง

- นำเงินสดติดตัวพอสมควรสำหรับกรณีฉุกเฉิน

- พักผ่อนให้เพียงพอก่อนออกเดินทาง

สรุป

การดูแลรักษารถยนต์ที่ดีไม่เพียงช่วยให้การเดินทางราบรื่น แต่ยังช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นระหว่างทาง การตรวจเช็ครถอย่างละเอียดก่อนออกเดินทางอาจใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง แต่ช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยตลอดทริป หากพบความผิดปกติใดๆ ควรรีบนำรถเข้าศูนย์บริการหรืออู่ที่ไว้ใจได้เพื่อตรวจสอบและแก้ไขก่อนออกเดินทาง เพื่อให้ทริปท่องเที่ยวของคุณและครอบครัวเต็มไปด้วยความสุขและความทรงจำที่ดี

สำหรับใครที่ต้องการเงินด่วน สินเชื่อรถแลกเงินเป็นหนึ่งในคำตอบและวิธีการที่ดีที่สุดของคุณ กับเงินให้ใจที่มีความน่าเชื่อถือจากบริษัท เงินให้ใจ จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการ สินเชื่อรถกระบะ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสามารถขอใช้บริการได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คำนวณวงเงินสินเชื่อและสมัครสินเชื่อได้ทันทีที่ https://www.ngernhaijai.com/

“กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนรถ 12.82% - 24.00% สินเชื่อโอนเล่มทะเบียนรถ แบ่งเป็นกรณีบุคคลธรรมดามีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการส่วนตัว 6.08% - 15.00% และกรณีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ 6.08% - 26.62%”

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Website : https://www.ngernhaijai.com/

Line : https://bit.ly/3zDd5Kz

เงินให้ใจ โทร : 02 078 8899