รถสตาร์ทยาก เกิดจากอะไรได้บ้าง?

เชื่อว่าหลายคนเคยเจอสถานการณ์รถสตาร์ทยากแล้วทำให้สาย ต้องรีบไปทำงาน หรือนัดสำคัญ บทความนี้ เงินให้ใจจะมาแนะนำสาเหตุที่ทำให้รถสตาร์ทยากหรือสตาร์ทไม่ติด พร้อมวิธีแก้ไขเบื้องต้น เพื่อให้คุณรู้ทัน รับมือได้ และไม่ต้องเสียเวลาหรือเงินโดยไม่จำเป็น

10 สาเหตุหลักที่ทำให้รถสตาร์ทยาก

1. ปัญหาจากแบตเตอรี่รถ

สาเหตุอันดับหนึ่งของการที่รถสตาร์ทยากมักมาจากแบตเตอรี่รถเสื่อมสภาพหรือไม่มีประจุไฟฟ้าเพียงพอ

อาการที่พบ :

- เมื่อบิดกุญแจ จะได้ยินเสียง "คลิกๆ" แต่เครื่องยนต์ไม่ติด

- ไฟหน้าปัดหรี่ลง หรือดับสนิทเมื่อบิดกุญแจ

- มีประวัติเปิดไฟทิ้งไว้เป็นเวลานาน

วิธีแก้ไขเบื้องต้น :

- ใช้สายพ่วงแบตเตอรี่เพื่อสตาร์ทรถชั่วคราว

- ชาร์จแบตเตอรี่รถด้วยเครื่องชาร์จ

- หากแบตเตอรี่รถมีอายุมากกว่า 2-3 ปี ควรพิจารณาเปลี่ยนใหม่

2. มอเตอร์สตาร์ทเสีย

มอเตอร์สตาร์ทเป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่หมุนเครื่องยนต์ในขณะสตาร์ท หากชำรุดจะทำให้รถสตาร์ทยากหรือสตาร์ทไม่ติดเลย

อาการที่พบ :

- ได้ยินเสียงคลิกเดียวเมื่อบิดกุญแจ แต่มอเตอร์ไม่หมุน

- เสียงมอเตอร์สตาร์ทผิดปกติ (เสียงหึ่งๆ แต่เครื่องยนต์ไม่หมุน)

- บางครั้งสตาร์ทติด บางครั้งไม่ติด (อาการไม่แน่นอน)

วิธีแก้ไขเบื้องต้น :

- ตรวจสอบขั้วแบตเตอรี่ว่าแน่นหรือไม่ มีคราบสนิมหรือไม่

- เคาะมอเตอร์สตาร์ทเบาๆ (วิธีชั่วคราว) แล้วลองสตาร์ทใหม่

- เข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจซ่อมหรือเปลี่ยนมอเตอร์สตาร์ท

3. ปัญหาจากระบบจุดระเบิด

ระบบจุดระเบิดที่มีปัญหาเป็นอีกสาเหตุที่พบบ่อยของการที่รถสตาร์ทยากโดยเฉพาะในรถรุ่นเก่า

อาการที่พบ :

- มอเตอร์สตาร์ทหมุนปกติ แต่เครื่องยนต์ไม่ติด

- เครื่องยนต์ติดแล้วดับทันที

- มีปัญหาโดยเฉพาะในวันที่อากาศชื้นหรือฝนตก

วิธีแก้ไขเบื้องต้น :

- ตรวจสอบหัวเทียนและสายหัวเทียน

- เปลี่ยนหัวเทียนตามระยะเวลาที่กำหนดในคู่มือการใช้งาน

- ตรวจสอบคอยล์จุดระเบิดว่าทำงานปกติหรือไม่

4. ปัญหาจากระบบเชื้อเพลิง

ระบบเชื้อเพลิงที่มีปัญหาสามารถทำให้รถสตาร์ทยากหรือไม่ติดเลย โดยเฉพาะหากน้ำมันไม่สามารถส่งไปยังเครื่องยนต์ได้อย่างเพียงพอ

อาการที่พบ :

- มอเตอร์สตาร์ทหมุนปกติ แต่เครื่องไม่ติด

- รถสตาร์ทติดหลังจากบิดกุญแจหลายครั้ง

- เครื่องยนต์ติดแล้วดับเมื่อเร่งเครื่อง

วิธีแก้ไขเบื้องต้น :

- ตรวจสอบว่ามีน้ำมันเพียงพอในถัง

- เปลี่ยนกรองน้ำมันเชื้อเพลิงตามระยะเวลาที่กำหนด

- ตรวจสอบปั๊มน้ำมันและหัวฉีด (ควรให้ช่างผู้เชี่ยวชาญดำเนินการ)

5. ปัญหาจากระบบกรองอากาศ

กรองอากาศที่อุดตันจะทำให้อากาศไม่สามารถเข้าสู่เครื่องยนต์ได้เพียงพอ ส่งผลให้รถสตาร์ทยาก

อาการที่พบ :

- เครื่องยนต์สตาร์ทยากโดยเฉพาะในตอนเช้า

- เครื่องยนต์ไม่มีกำลัง หรือเร่งไม่ขึ้น

- สิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่าปกติ

วิธีแก้ไขเบื้องต้น :

- ตรวจสอบและทำความสะอาดกรองอากาศ

- เปลี่ยนกรองอากาศหากสกปรกมากหรือใช้งานมานาน

- ตรวจสอบท่อดูดอากาศว่ามีการอุดตันหรือแตกรั่วหรือไม่

6. ปัญหาจากเซ็นเซอร์ต่างๆ

รถยนต์สมัยใหม่มีเซ็นเซอร์หลายตัวที่ควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ หากเซ็นเซอร์เหล่านี้ทำงานผิดปกติ จะทำให้รถสตาร์ทยาก

อาการที่พบ :

- ไฟเตือนเครื่องยนต์บนหน้าปัดสว่าง

- เครื่องยนต์ทำงานไม่สม่ำเสมอ

- รถสตาร์ทติดแต่ดับเมื่อปล่อยกุญแจ

วิธีแก้ไขเบื้องต้น :

- ใช้เครื่องสแกนรถยนต์เพื่อตรวจสอบรหัสข้อผิดพลาด

- ทำความสะอาดเซ็นเซอร์ที่เข้าถึงได้ เช่น MAF Sensor

- นำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจสอบและแก้ไข

7. ปัญหาจากสายไฟในระบบสตาร์ท

สายไฟที่หลวมหรือชำรุดในระบบสตาร์ทจะทำให้รถสตาร์ทยากหรือไม่ติดเลย

อาการที่พบ :

- อาการไม่แน่นอน บางครั้งสตาร์ทติด บางครั้งไม่ติด

- มีเสียงดังจากใต้คอนโซลหน้ารถขณะบิดกุญแจ

- ไฟหน้าปัดติดๆ ดับๆ ขณะสตาร์ท

วิธีแก้ไขเบื้องต้น :

- ตรวจสอบขั้วแบตเตอรี่ว่าแน่นหนาและสะอาด

- ตรวจสอบสายกราวด์ของแบตเตอรี่

- ตรวจสอบฟิวส์ในระบบสตาร์ท

8. ปัญหาจากอุณหภูมิเครื่องยนต์

อากาศหนาวจัดหรือร้อนจัดอาจส่งผลให้รถสตาร์ทยาก โดยเฉพาะในรถที่มีอายุการใช้งานมานาน

อาการที่พบ :

- รถสตาร์ทยากในตอนเช้าที่อากาศเย็น

- เครื่องยนต์ติดยากเมื่อเครื่องร้อนจัด

- เสียงเครื่องยนต์ผิดปกติขณะสตาร์ทในสภาพอากาศหนาวจัด

วิธีแก้ไขเบื้องต้น :

- ใช้น้ำมันเครื่องที่เหมาะสมกับสภาพอากาศ

- ตรวจสอบระบบทำความร้อนของเครื่องยนต์ (สำหรับรถในประเทศหนาว)

- หมั่นอุ่นเครื่องรถในช่วงอากาศหนาว

9. ปัญหาจากอุปกรณ์ความปลอดภัยหรือระบบป้องกันการโจรกรรม

ระบบป้องกันการโจรกรรมที่ทำงานผิดปกติอาจทำให้รถไม่สามารถสตาร์ทได้ แม้ว่าจะใช้กุญแจที่ถูกต้อง

อาการที่พบ :

- ไฟเตือนรูปกุญแจหรือระบบป้องกันการโจรกรรมติดค้างบนหน้าปัด

- รถไม่ตอบสนองเมื่อบิดกุญแจ หรือกดปุ่มสตาร์ท

- รถสตาร์ทไม่ติดหลังจากเปลี่ยนแบตเตอรี่กุญแจ

วิธีแก้ไขเบื้องต้น :

- ตรวจสอบแบตเตอรี่ในกุญแจรีโมท

- ลองใช้กุญแจสำรอง

- นำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อรีเซ็ตระบบป้องกันการโจรกรรม

10. ปัญหาจากเครื่องยนต์สึกหรอหรือมีปัญหาภายใน

เครื่องยนต์ที่มีการสึกหรอมากหรือมีปัญหาภายในจะทำให้แรงอัดต่ำ ส่งผลให้รถสตาร์ทยาก

อาการที่พบ :

- เครื่องยนต์มีเสียงดังผิดปกติขณะทำงาน

- มีควันออกจากท่อไอเสียมากกว่าปกติ

- น้ำมันเครื่องหมดเร็วกว่าปกติ

วิธีแก้ไขเบื้องต้น :

- ตรวจสอบแรงอัดเครื่องยนต์

- ตรวจเช็คระดับน้ำมันเครื่องและความดันน้ำมันเครื่อง

- นำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจสอบและซ่อมแซม

สรุป

ปัญหารถสตาร์ทยากมีสาเหตุได้หลายประการ ตั้งแต่แบตเตอรี่รถที่เสื่อมสภาพ ไปจนถึงปัญหาที่ซับซ้อนในเครื่องยนต์ การเข้าใจสาเหตุของปัญหาและรู้จักวิธีการแก้ไขเบื้องต้นจะช่วยให้คุณสามารถรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม ที่สำคัญ การดูแลรถยนต์อย่างสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมในระยะยาว

สำหรับใครที่ต้องการเงินด่วน สินเชื่อรถแลกเงินเป็นหนึ่งในคำตอบและวิธีการที่ดีที่สุดของคุณ กับเงินให้ใจที่มีความน่าเชื่อถือจากบริษัท เงินให้ใจ จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสามารถขอใช้บริการได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คำนวณวงเงินสินเชื่อและสมัครสินเชื่อได้ทันทีที่ https://www.ngernhaijai.com/

“กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนรถ 12.82% - 24.00% สินเชื่อโอนเล่มทะเบียนรถ แบ่งเป็นกรณีบุคคลธรรมดามีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการส่วนตัว 6.08% - 15.00% และกรณีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ 6.08% - 26.62%”

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Website : https://www.ngernhaijai.com/

Line : https://bit.ly/3zDd5Kz

เงินให้ใจ โทร : 02 078 8899