

ได้ยินเสียงแปลกจากรถ? เช็ก 5 สัญญาณก่อนพังยับ เสียทั้งรถ เสียทั้งเงิน
เสียงแปลกๆ จากรถยนต์ไม่ใช่แค่เรื่องน่ารำคาญ แต่อาจเป็นสัญญาณเตือนว่ากำลังมีปัญหาร้ายแรงที่อาจนำไปสู่การซ่อมแซมราคาแพง หรือแย่กว่านั้นคือความเสียหายถาวร หลายคนมักละเลยเสียงผิดปกติเหล่านี้ด้วยคิดว่า "ไม่เป็นไร ขับไปก่อน" แต่ความจริงแล้ว การรู้จักและเข้าใจเสียงรถเหล่านี้อาจช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าคุณได้มหาศาล
ลองมาดู 5 เสียงแปลกที่คุณไม่ควรเพิกเฉย หากได้ยินจากรถของคุณกัน!
1. เสียงเครื่องยนต์ดัง "แก๊กๆ" หรือ "ตึกๆ"
สาเหตุที่เป็นไปได้ :
- ลูกสูบหรือก้านสูบมีปัญหา
- แบริ่งเพลาข้อเหวี่ยงสึกหรอ
- วาล์วหรือกลไกวาล์วมีปัญหา
- น้ำมันเครื่องหมดหรือเสื่อมสภาพ
ระดับความร้ายแรง : ⚠️⚠️⚠️⚠️⚠️ (สูงมาก)
เสียงแก๊กๆ หรือตึกๆ จากเครื่องยนต์เป็นสัญญาณอันตรายที่บ่งบอกว่าชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์กำลังเสียดสีกันโดยตรง นี่คือภาวะฉุกเฉินของรถยนต์! หากได้ยินเสียงนี้ ให้หยุดรถทันทีและเรียกรถลากไปอู่ การขับต่อไปแม้เพียงไม่กี่กิโลเมตรอาจทำให้เครื่องยนต์พังเสียหายจนต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งเครื่อง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงถึงหลักแสนบาท
ทำอย่างไร : หยุดรถทันที ไม่ควรขับต่อ เรียกรถลากไปอู่ที่ไว้ใจได้เพื่อตรวจสอบโดยเร็วที่สุด
2. เสียงรถดังอื้อๆ ช่วงเร่งเครื่อง
สาเหตุที่เป็นไปได้ :
- ท่อไอเสียรั่ว
- หม้อพักไอเสียมีรูหรือแตก
- ข้อต่อท่อไอเสียหลวม
- ปะเก็นท่อไอเสียเสื่อมสภาพ
ระดับความร้ายแรง : ⚠️⚠️⚠️ (ปานกลางถึงสูง)
เสียงรถดังอื้อๆ โดยเฉพาะเมื่อเร่งเครื่อง มักเกิดจากปัญหาในระบบไอเสีย นอกจากจะทำให้รถเสียงดังน่ารำคาญแล้ว ยังอาจทำให้ก๊าซไอเสียรั่วเข้าสู่ห้องโดยสาร ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก เพราะก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ไม่มีกลิ่นและอาจทำให้เสียชีวิตได้หากสูดดมเป็นเวลานาน
ทำอย่างไร : นำรถเข้าตรวจสอบที่อู่โดยเร็ว อย่าเลื่อนการซ่อมออกไป แม้จะยังขับได้ก็ตาม การซ่อมระบบไอเสียมักมีค่าใช้จ่ายไม่สูงมากหากทำแต่เนิ่นๆ
3. รถมีเสียง จี๊ดๆ เวลาวิ่ง
สาเหตุที่เป็นไปได้ :
- สายพานเสื่อมสภาพหรือหย่อน
- ลูกรอกสายพานสึกหรอ
- ปั๊มพวงมาลัยเพาเวอร์มีปัญหา
- แบริ่งปั๊มน้ำสึกหรอ
ระดับความร้ายแรง : ⚠️⚠️⚠️ (ปานกลางถึงสูง)
เสียงจี๊ดๆ มักเกิดจากการเสียดสีหรือการหมุนที่ไม่ราบรื่นของชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหว โดยเฉพาะสายพานและลูกรอกต่างๆ หากปล่อยไว้ สายพานอาจขาดกะทันหัน ซึ่งอาจนำไปสู่การเสียหายของระบบสำคัญ เช่น ระบบหล่อเย็น (หากเป็นสายพานไทม์มิ่ง) หรืออาจทำให้แบตเตอรี่หมดกลางทาง (หากเป็นสายพานไดชาร์จ)
ทำอย่างไร : ควรนำรถเข้าตรวจสอบภายใน 1-2 วัน การเปลี่ยนสายพานมีค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก แต่หากปล่อยให้สายพานขาด อาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายรุนแรงได้
4. เสียงช่วงล่างดังแอ๊ดๆ เอี๊ยด โดยเฉพาะเวลาเข้าโค้งหรือทางขรุขระ
สาเหตุที่เป็นไปได้ :
- โช้คอัพสึกหรอหรือรั่ว
- บูชยางหรือยางกันโคลงเสื่อมสภาพ
- ลูกหมากปีกนกหรือลูกหมากคันชักสึกหรอ
- จุดต่อต่างๆ ในระบบช่วงล่างขาดการหล่อลื่น
ระดับความร้ายแรง : ⚠️⚠️ (ปานกลาง)
เสียงแอ๊ดๆ เอี๊ยดจากช่วงล่างบ่งบอกถึงการสึกหรอของชิ้นส่วนในระบบรองรับน้ำหนักและระบบบังคับเลี้ยว แม้จะไม่ทำให้รถเสียหายในทันที แต่จะส่งผลต่อความสบายในการขับขี่ การทรงตัวของรถ และที่สำคัญคือความปลอดภัย โดยเฉพาะเมื่อต้องหลบหลีกอย่างกะทันหัน
ทำอย่างไร : ควรนำรถเข้าตรวจสอบภายใน 1-2 สัปดาห์ การซ่อมช่วงล่างอาจมีค่าใช้จ่ายปานกลาง แต่คุ้มค่ากับความปลอดภัยที่ได้รับ
5. เสียงรถดังคล้ายโลหะกระทบกันจากล้อขณะรถวิ่ง
สาเหตุที่เป็นไปได้ :
- ผ้าเบรกสึกจนถึงแผ่นเหล็ก
- ลูกปืนล้อสึกหรอ
- คาลิปเปอร์เบรกหลวมหรือชำรุด
- จานเบรกเสียหายหรือบิดงอ
ระดับความร้ายแรง : ⚠️⚠️⚠️⚠️ (สูง)
เสียงโลหะกระทบกันจากล้อ โดยเฉพาะเสียง "แกร๊ก" หรือ "ครูด" เป็นสัญญาณอันตรายที่บ่งบอกว่าระบบเบรกกำลังมีปัญหาร้ายแรง การปล่อยให้ผ้าเบรกสึกจนถึงแผ่นเหล็กจะทำให้จานเบรกเสียหาย ซึ่งมีค่าซ่อมแพงกว่าการเปลี่ยนผ้าเบรกหลายเท่า และที่สำคัญคือความปลอดภัยในการขับขี่ที่ลดลงอย่างมาก
ทำอย่างไร : ควรนำรถเข้าตรวจสอบโดยเร็วที่สุด ไม่ควรเกิน 1-2 วัน การเปลี่ยนผ้าเบรกมีค่าใช้จ่ายไม่สูงมากเมื่อเทียบกับการต้องเปลี่ยนทั้งชุดเบรกหากปล่อยไว้จนเสียหายมาก
ทำไมไม่ควรปล่อยเสียงรถแปลกๆ เหล่านี้ไว้?
เสียงผิดปกติจากรถยนต์เป็นวิธีที่รถ "บอก" เราว่ากำลังมีปัญหา การละเลยสัญญาณเหล่านี้มักนำไปสู่ผลลัพธ์ที่แย่กว่า
1. ค่าซ่อมที่แพงขึ้น - ปัญหาเล็กๆ ที่ไม่ได้รับการแก้ไขมักลุกลามเป็นปัญหาใหญ่ที่มีค่าซ่อมสูงกว่าหลายเท่า
2. ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย - ระบบสำคัญเช่นเบรกหรือช่วงล่างที่มีปัญหาอาจนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรงได้
3. ค่าเสียโอกาส - รถเสียกะทันหันระหว่างทางอาจทำให้พลาดการประชุมสำคัญหรือกิจกรรมที่วางแผนไว้
4. ความเครียด - การกังวลกับรถที่มีปัญหาเป็นภาระทางจิตใจที่ไม่จำเป็น
สรุป
รถยนต์สมัยใหม่มีความซับซ้อนมาก แต่ยังคงส่งเสียงรถที่ชัดเจนเมื่อมีปัญหา การฟังและใส่ใจเสียงผิดปกติจากรถของคุณเป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยประหยัดทั้งเงินและเวลาในระยะยาว
หากคุณได้ยินเสียงแปลกๆ จากรถ อย่าลังเลที่จะปรึกษาช่างผู้เชี่ยวชาญโดยเร็ว การซ่อมแซมเล็กๆ น้อยๆ วันนี้อาจช่วยป้องกันการซ่อมใหญ่ที่แพงกว่าในวันหน้า และที่สำคัญกว่านั้น คือความปลอดภัยของคุณและคนที่คุณรักบนท้องถนน
เคล็ดลับเพิ่มเติม: บันทึกเสียงรถที่ผิดปกติไว้ด้วยโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้ช่างฟังได้หากเสียงนั้นเกิดขึ้นเฉพาะในบางสถานการณ์ที่ยากจะจำลองขณะนำรถเข้าอู่
สำหรับใครที่ต้องการกู้สินเชื่อ สินเชื่อรถแลกเงินเป็นหนึ่งในคำตอบและวิธีการที่ดีที่สุดของคุณ กับเงินให้ใจที่มีความน่าเชื่อถือจากบริษัท เงินให้ใจ จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการ สินเชื่อรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสามารถขอใช้บริการได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คำนวณวงเงินสินเชื่อและสมัครสินเชื่อได้ทันทีที่ https://www.ngernhaijai.com/
“กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนรถ 12.82% - 24.00% สินเชื่อโอนเล่มทะเบียนรถ แบ่งเป็นกรณีบุคคลธรรมดามีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการส่วนตัว 6.08% - 15.00% และกรณีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ 6.08% - 26.62%”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.ngernhaijai.com/
Line : https://bit.ly/3zDd5Kz
เงินให้ใจ โทร : 02 078 8899
เผยแพร่ 15 ส.ค. 2568
บทความอื่น ๆ

ฤกษ์ดีออกรถ-เจิมรถปี 2569 เปิดเคล็ดลับเสริมมงคล การเงินพุ่งปัง!
รวมฤกษ์ออกรถ ฤกษ์เจิมรถปี 2569 ออกรถวันไหนดีที่สุด ตามวันเกิด พร้อมเวลามงคล 20 อันดับฤกษ์ดีสุดของปี เสริมดวงการเงินให้พุ่งปัง!
เผยแพร่ 12 ก.ย. 2568

หยุดก่อนกระเป๋าฉีก! 5 นิสัยการใช้รถที่ทำให้ค่าซ่อมพุ่งไม่รู้ตัว
5 นิสัยที่ทำให้รถพัง รถยนต์พัง และค่าซ่อมรถยนต์สูง เช่น ไม่วอร์มเครื่อง เหยียบเบรกค้าง บรรทุกหนักเกิน ไม่เปลี่ยนน้ำมัน ละเลยไฟเตือน
เผยแพร่ 12 ก.ย. 2568

รถเหม็นอับเพราะฝนตก? เคล็ดลับกำจัดกลิ่นในรถให้สดชื่นเหมือนใหม่
รถเหม็นอับหลังฝนตก? เรียนรู้วิธีดับกลิ่นเหม็นเน่าในรถ ดับกลิ่นในรถยนต์ด้วยเทคนิคง่ายๆ ใช้อะไรดับกลิ่นเหม็นเน่า ทำให้รถกลับมาสดชื่นเหมือนใหม่
เผยแพร่ 12 ก.ย. 2568