

กู้เงินไม่ผ่านเพราะอะไร? รวม 7 สาเหตุที่คุณอาจไม่รู้ตัว
การยื่นขอสินเชื่อไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อบ้าน รถยนต์ บัตรเครดิต หรือสินเชื่อส่วนบุคคล แต่ไม่ได้รับการอนุมัติ ถือเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังและทำให้เกิดคำถามว่า "กู้ไม่ผ่านเพราะอะไร" หลายครั้งสถาบันการเงินไม่ได้อธิบายเหตุผลอย่างละเอียด ทำให้ผู้ขอสินเชื่อไม่ทราบว่าควรแก้ไขอะไรเพื่อเพิ่มโอกาสในการขอสินเชื่อครั้งต่อไป บทความนี้ เงินให้ใจจะพาคุณไปรู้จัก 7 สาเหตุหลักที่ทำให้การกู้เงินไม่ผ่าน พร้อมแนวทางแก้ไขที่ถูกต้อง
7 สาเหตุที่ทำให้กู้เงินไม่ผ่าน
1. รายได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่สถาบันการเงินกำหนด
สถาบันการเงินแต่ละแห่งกำหนดรายได้ขั้นต่ำของผู้ขอสินเชื่อไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับประเภทของสินเชื่อและนโยบายของแต่ละสถาบัน หากรายได้ของคุณต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด โอกาสที่จะได้รับการอนุมัติจะลดลงมาก
วิธีแก้ไข :
- รอให้รายได้เพิ่มขึ้น ก่อนยื่นขอสินเชื่อใหม่
- หาสินเชื่อที่มีเกณฑ์รายได้ต่ำกว่า เปรียบเทียบหลายสถาบัน
- แสดงรายได้เพิ่มเติม เช่น รายได้จากการทำงานพิเศษ ค่าคอมมิชชั่น (ถ้ามีหลักฐาน)
- ขอสินเชื่อร่วม กับคู่สมรสหรือบุคคลที่มีรายได้ เพื่อเพิ่มฐานรายได้
2. เอกสารไม่ครบถ้วนหรือมีปัญหา
เอกสารเป็นหลักฐานสำคัญที่สถาบันการเงินใช้ประกอบการพิจารณา หากเอกสารไม่ครบ หมดอายุ หรือไม่เป็นปัจจุบัน อาจทำให้การพิจารณาล่าช้าหรือไม่ได้รับการอนุมัติ
วิธีแก้ไข :
- ตรวจสอบเอกสารให้ครบถ้วน ตามที่สถาบันการเงินแจ้ง
- เตรียมเอกสารสำรอง ไว้ล่วงหน้า
- อัปเดตเอกสาร ให้เป็นปัจจุบันก่อนยื่นขอสินเชื่อ
- เก็บสำเนาเอกสารไว้ สำหรับการยื่นขอครั้งต่อไป
3. มีภาระหนี้สูงเกินไป (DSR เกิน)
สถาบันการเงินจะคำนวณ สัดส่วนภาระหนี้ต่อรายได้ (Debt-to-Service Ratio: DSR) เพื่อประเมินว่าคุณมีภาระหนี้มากเกินไปหรือไม่ หากมีหนี้ผ่อนหลายรายการ เช่น รถ บ้าน บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล อาจทำให้ DSR สูงเกินไปและไม่ได้รับการอนุมัติ
วิธีแก้ไข :
- ปิดหนี้บางรายการให้หมด ก่อนขอสินเชื่อใหม่
- เพิ่มรายได้ เพื่อลด DSI
- รีไฟแนนซ์หนี้ เพื่อลดค่างวดรายเดือน
- หลีกเลี่ยงการกู้เพิ่ม จนกว่าจะปิดหนี้เก่าได้
4. ประวัติการชำระหนี้ไม่ดี มีการค้างชำระ
ข้อมูลเครดิตเป็นปัจจัยสำคัญที่สถาบันการเงินใช้ประกอบการตัดสินใจ หากคุณเคยผิดนัดชำระหนี้ ค้างชำระบ่อยครั้ง หรือมีประวัติเบี้ยวหนี้ จะส่งผลเสียต่อการขอสินเชื่อครั้งใหม่
วิธีแก้ไข :
- กลับมาชำระหนี้ตรงเวลา อย่างสม่ำเสมอ
- ชำระหนี้ค้างให้หมด เพื่อให้สถานะเป็น "ไม่ค้างชำระ"
- ใช้เวลาอย่างน้อย 6-12 เดือน ในการสร้างประวัติการชำระหนี้ที่ดี
- ตรวจสอบข้อมูลเครดิต เพื่อดูว่ามีข้อมูลผิดพลาดหรือไม่
- รอให้ข้อมูลลบออกจากระบบ (ข้อมูลค้างชำระจะถูกเก็บไว้ 5-8 ปี)
5. ขอวงเงินสูงเกินความสามารถ
การขอวงเงินกู้ที่สูงเกินกว่ารายได้และความสามารถในการชำระ อาจทำให้สถาบันการเงินปฏิเสธ หรือลดวงเงินให้ต่ำลง
วิธีแก้ไข :
- ขอวงเงินที่เหมาะสมกับรายได้ อย่าขอเกินความจำเป็น
- เตรียมเอกสารแสดงรายได้เพิ่มเติม ถ้ามี
- ขอสินเชื่อร่วม เพื่อเพิ่มวงเงินที่ขอได้
6. ยื่นขอสินเชื่อบ่อยเกินไป ในระยะเวลาสั้นๆ
ทุกครั้งที่คุณยื่นขอสินเชื่อ สถาบันการเงินจะตรวจสอบข้อมูลเครดิต การตรวจสอบนี้จะถูกบันทึกไว้ในระบบ หากคุณยื่นขอสินเชื่อจากหลายแห่งในเวลาใกล้เคียงกัน สถาบันการเงินอาจมองว่าคุณ
- ขาดสภาพคล่องทางการเงินอย่างรุนแรง
- ขอกู้ที่อื่นไม่ผ่าน จึงมาขอที่ใหม่ซ้ำๆ
- มีความเสี่ยงสูงในการผิดนัดชำระ
วิธีแก้ไข :
- เว้นระยะอย่างน้อย 6 เดือน ก่อนยื่นขอสินเชื่อใหม่
- เลือกสถาบันการเงินที่เหมาะสม ศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนยื่น
- อย่ายื่นหลายแห่งพร้อมกัน หวังว่าจะมีที่ใดที่หนึ่งอนุมัติ
- แก้ไขปัญหาที่ทำให้ไม่ผ่าน ก่อนยื่นครั้งใหม่
7. ปัญหาการยืนยันตัวตนและการติดต่อ
บางครั้งปัญหาที่ทำให้กู้ไม่ผ่านไม่ได้เกิดจากตัวผู้กู้โดยตรง แต่เป็นปัญหาด้านการติดต่อสื่อสาร เช่น ติดต่อไม่ได้ ฝ่ายบุคคลบริษัทไม่รับสาย ที่อยู่ตามทะเบียนบ้านหาไม่เจอ เป็นต้น
วิธีแก้ไข :
- ให้เบอร์โทรที่ติดต่อได้แน่นอน และรับสายทุกครั้ง
- แจ้ง HR ล่วงหน้า ว่าจะมีสถาบันการเงินโทรมายืนยันการทำงาน
- ประสานกับสถาบันการเงิน ให้โทรในช่วงเวลาที่ HR สะดวกรับสาย
- ระบุที่อยู่ให้ชัดเจน และเป็นปัจจุบัน
- เตรียมเอกสารสำรอง เช่น หนังสือรับรองการทำงาน ไว้ล่วงหน้า
สรุป
การกู้เงินไม่ผ่านมีสาเหตุหลักมาจาก 7 ปัจจัย แต่ละปัญหามีวิธีแก้ไขที่แตกต่างกัน บางอย่างแก้ได้รวดเร็ว เช่น การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน บางอย่างต้องใช้เวลา เช่น การสร้างประวัติเครดิตที่ดี สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจสาเหตุและแก้ไขอย่างถูกต้อง ก่อนที่จะยื่นขอสินเชื่อครั้งใหม่
สำหรับใครที่ต้องการกู้สินเชื่อ สินเชื่อรถแลกเงินเป็นหนึ่งในคำตอบและวิธีการที่ดีที่สุดของคุณ กับเงินให้ใจที่มีความน่าเชื่อถือจากบริษัท เงินให้ใจ จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อรถกระบะ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสามารถขอใช้บริการได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คำนวณวงเงินสินเชื่อและสมัครสินเชื่อได้ทันทีที่ https://www.ngernhaijai.com/
“กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนรถ 12.82% - 24.00% สินเชื่อโอนเล่มทะเบียนรถ แบ่งเป็นกรณีบุคคลธรรมดามีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการส่วนตัว 6.08% - 15.00% และกรณีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ 6.08% - 26.62%”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.ngernhaijai.com/
Line : https://bit.ly/3zDd5Kz
เงินให้ใจ โทร : 02 078 8899
เผยแพร่ 14 ต.ค. 2568
บทความอื่น ๆ

อย่าให้หนี้เป็นเพื่อนเจ้าบ่าว! เก็บเงินแต่งงานยังไงให้รอด
อยากแต่งงานแต่กลัวหนี้ตามมา? รวมเคล็ดลับเก็บเงินแต่งงาน ตั้งงบ สินสอด วางแผนค่าใช้จ่าย และเปิดบัญชีเก็บเงินให้ถึงเป้า งานแต่งราบรื่นไร้หนี้
เผยแพร่ 14 ต.ค. 2568

ลงทุนการศึกษาอย่างมือโปร วางแผนอนาคตลูกให้มั่นคง
วางแผนการศึกษาลูกตั้งแต่วันนี้ จัดการค่าเทอมด้วยแผนการเงินมือโปร: คิดเงินเฟ้อ, แบ่งก้อนการลงทุน, DCA รายเดือน, ลดเสี่ยงตามเวลา พร้อมเช็กลิสต์ทำตามได้จริง
เผยแพร่ 14 ต.ค. 2568

สิทธิประกันสังคมใช้ยังไง? วิธีง่ายๆ ไม่ให้สิทธิหายฟรี
ประกันสังคมใช้ยังไง? คู่มือสิทธิประกันสังคมสำหรับคนทำงาน ครอบคลุมสิทธิคืนเงิน 900 บาท ตรวจสุขภาพประจำปี และสิทธิรักษาพยาบาลแบบไม่ให้พลาด
เผยแพร่ 14 ต.ค. 2568