7 เคล็ดลับดูแลรถเก่า ให้วิ่งนาน ไม่ซ่อมบ่อย

หลายคนผูกพันกับรถคันแรกหรือรถคู่ใจ แม้เวลาผ่านไปจนกลายเป็นรถเก่า แต่ก็ยังอยากให้ใช้งานได้ดีเหมือนเดิม การดูแลอย่างถูกวิธีไม่เพียงช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ยังเพิ่มความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานได้อีกหลายปี รถยนต์ถือเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่า และแม้เวลาผ่านไป รถใหม่วันนั้นก็กลายเป็นรถเก่าได้ในวันนี้ แต่ใช่ว่ารถเก่าจะต้องเสียบ่อยหรือสิ้นเปลืองเสมอไป หากเจ้าของรถรู้จักดูแลรักษารถอย่างถูกวิธี รถก็ยังใช้งานได้ดี มีอายุการใช้งานยาวนาน และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าที่คิด

1. ตรวจเช็กและเปลี่ยนน้ำมันเครื่องสม่ำเสมอ

น้ำมันเครื่องคือหัวใจสำคัญของการดูแลรถ โดยเฉพาะรถที่ผ่านการใช้งานมาหลายปี ควรตรวจเช็กทุก 5,000–10,000 กิโลเมตร (ขึ้นอยู่กับประเภทน้ำมันและคู่มือรถ) หากละเลย น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพจะทำให้เครื่องยนต์สึกหรอเร็วกว่าปกติ และเสี่ยงต่อการซ่อมใหญ่ที่มีค่าใช้จ่ายสูง เช่น การโอเวอร์ฮอลเครื่อง

2. หมั่นเปลี่ยนไส้กรองอากาศและกรองน้ำมัน

รถเก่ามักสะสมฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกมากกว่าเดิม การเปลี่ยนไส้กรองอากาศทุก 20,000–30,000 กิโลเมตร และกรองน้ำมันเชื้อเพลิงตามระยะ จะช่วยให้เครื่องยนต์เผาไหม้เต็มประสิทธิภาพ ประหยัดน้ำมัน และลดโอกาสที่เครื่องจะสะดุดหรือสตาร์ทยาก

3. ตรวจสอบระบบเบรกและยางอย่างสม่ำเสมอ

ดูแลรักษารถไม่ได้มีแค่เครื่องยนต์ แต่ยังรวมถึงความปลอดภัย ยางรถเก่ามักเสื่อมสภาพเร็ว ควรตรวจความดันลมยางทุกเดือน และเปลี่ยนยางเมื่อดอกยางสึกหรือมีรอยแตกร้าว ส่วนระบบเบรกควรเช็กผ้าเบรกและน้ำมันเบรกปีละ 1–2 ครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่ารถหยุดได้อย่างปลอดภัย

4. ตรวจระบบระบายความร้อน

รถเก่ามักเจอปัญหาเครื่องยนต์ร้อนจัด ควรตรวจสอบหม้อน้ำ ท่อน้ำ และน้ำยาหล่อเย็นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม หากหม้อน้ำรั่วหรือท่อเสื่อมสภาพควรเปลี่ยนทันที เพื่อป้องกันปัญหาเครื่องยนต์โอเวอร์ฮีท ซึ่งอาจทำให้เครื่องพังเสียหายหนัก

5. เปลี่ยนน้ำมันเกียร์และเฟืองท้ายตามระยะ

หลายคนละเลยการดูแลระบบเกียร์ โดยเฉพาะรถเกียร์ออโต้ที่ใช้งานมานาน ควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุก 40,000–60,000 กิโลเมตร และตรวจเช็กน้ำมันเฟืองท้ายตามคู่มือรถ เพื่อยืดอายุการใช้งานและลดความเสี่ยงเกียร์ลื่นหรือกระตุก

6. ฟังเสียงและสังเกตอาการผิดปกติ

รถเก่ามักส่งสัญญาณเตือนผ่านเสียงหรืออาการ เช่น เสียงดังผิดปกติจากเครื่องยนต์ เบรก หรือช่วงล่าง หากสังเกตเจอควรรีบตรวจเช็กทันที ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ เพราะอาการเล็ก ๆ อาจบานปลายกลายเป็นการซ่อมใหญ่ที่เสียค่าใช้จ่ายสูง เช่น เสียงหอนจากล้อที่บอกว่าลูกปืนล้อกำลังจะเสีย

7. ทำความสะอาดและป้องกันสนิม

การดูแลรักษารถให้สวยและอยู่ได้นานไม่ใช่แค่เรื่องเครื่องยนต์ แต่รวมถึงสภาพตัวถังและห้องโดยสารด้วย ควรล้างรถอย่างน้อยเดือนละครั้ง เคลือบสีป้องกันแดดฝน และตรวจเช็กใต้ท้องรถเพื่อดูว่ามีสนิมหรือไม่ หากพบควรทำการเคลือบกันสนิมทันที เพื่อป้องกันการกัดกร่อนที่อาจลุกลาม

สรุป

รถเก่าไม่ได้หมายความว่าต้องเสียเงินซ่อมอยู่ตลอด หากเจ้าของรถหมั่นตรวจเช็กและดูแลรถตามระยะที่กำหนด รถก็ยังใช้งานได้ดีและปลอดภัย การใส่ใจตั้งแต่เรื่องเล็ก ๆ เช่น เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ลมยาง หรือระบบระบายความร้อน จะช่วยยืดอายุการใช้งานไปได้อีกหลายปี และประหยัดค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุงก้อนโตในอนาคต

การดูแลรถเก่ายังเป็นการรักษามูลค่าของรถ หากวันหนึ่งต้องการขายต่อหรือใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน เช่น การขอสินเชื่อรถแลกเงิน รถที่ได้รับการดูแลอย่างดีจะมีราคาประเมินสูงกว่า และขั้นตอนง่ายกว่ารถที่สภาพทรุดโทรม ดังนั้น การดูแลรักษารถไม่ใช่แค่เรื่องความปลอดภัยบนท้องถนน แต่ยังเป็นการบริหารทรัพย์สินให้คุ้มค่าในระยะยาวด้วย

สำหรับใครที่ต้องการกู้สินเชื่อ สินเชื่อรถแลกเงินเป็นหนึ่งในคำตอบและวิธีการที่ดีที่สุดของคุณ กับเงินให้ใจที่มีความน่าเชื่อถือจากบริษัท เงินให้ใจ จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสามารถขอใช้บริการได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คำนวณวงเงินสินเชื่อและสมัครสินเชื่อได้ทันทีที่ https://www.ngernhaijai.com/

“กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนรถ 12.82% - 24.00% สินเชื่อโอนเล่มทะเบียนรถ แบ่งเป็นกรณีบุคคลธรรมดามีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการส่วนตัว 6.08% - 15.00% และกรณีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ 6.08% - 26.62%”

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Website : https://www.ngernhaijai.com/

Line : https://bit.ly/3zDd5Kz

เงินให้ใจ โทร : 02 078 8899