

รถโดนล็อกล้อ ทำยังไง? พร้อมอัปเดตค่าปรับล่าสุด
หนึ่งในเหตุการณ์ที่คนใช้รถไม่อยากเจอที่สุดก็คือการถูกล็อคล้อรถยนต์ เพราะนอกจากจะเสียเวลาแล้วยังต้องเสียเงินค่าปรับเพิ่มด้วย หลายคนพอเจอแบบนี้ก็มักตกใจ หรือบางคนอาจคิดว่าจะงัดออกเอง แต่รู้หรือไม่ว่าการทำลายอุปกรณ์ล็อคล้อนั้นมีความผิดตามกฎหมาย มีโทษทั้งจำและปรับ
ที่สำคัญ การโดนล็อคล้อไม่ใช่แค่เรื่องเสียเงินเพียงครั้งเดียว แต่ยังทำให้เสียเวลา เสียโอกาส และอาจสร้างความไม่สะดวกต่อการเดินทางโดยรวม การรู้ขั้นตอนที่ถูกต้องว่าจะต้องทำยังไงเมื่อเจอสถานการณ์นี้ รวมถึงการเข้าใจอัตราล็อคล้อ ค่าปรับล่าสุด จะช่วยให้คุณจัดการได้อย่างรวดเร็ว ลดความเครียด และป้องกันการทำผิดซ้ำในอนาคต
ทำไมถึงโดนล็อคล้อ?
สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้รถถูกล็อคล้อ เกิดจากการจอดรถผิดกฎหมายหรือละเมิดข้อกำหนดจราจร เช่น
1. จอดในที่ห้ามจอด - เช่น หน้าปากซอย, บริเวณขาว-แดง, หน้าสถานีดับเพลิง
2. จอดกีดขวางทางจราจร - ถึงไม่มีป้ายห้าม แต่ถ้าจอดแล้วทำให้รถคันอื่นสัญจรไม่ได้ เจ้าหน้าที่สามารถล็อคล้อได้
3. ไม่ชำระค่าจอดในพื้นที่ควบคุมพิเศษ - เช่น พื้นที่ใจกลางเมืองที่มีระบบเก็บค่าจอด หากไม่จ่ายก็เสี่ยงถูกล็อค
การล็อคล้อจึงถือเป็นมาตรการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อป้องกันการจอดรถกีดขวางหรือฝ่าฝืนกฎจราจรที่ส่งผลกระทบต่อผู้อื่น
รถโดนล็อคล้อ ต้องทำยังไง?
1. ตรวจสอบใบสั่ง
- โดยปกติจะมีใบสั่งติดที่กระจกหน้ารถ พร้อมระบุข้อหาและช่องทางติดต่อ
- ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐาน เผื่อกรณีที่ต้องโต้แย้งภายหลัง
2. อ่านรายละเอียดให้ครบ
- ใบสั่งจะระบุว่าคุณฝ่าฝืนมาตราไหน
- มีเบอร์ติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อปลดล็อคล้อ
3. ชำระค่าปรับ
- สามารถชำระผ่านระบบออนไลน์ (PTM e-Ticket), แอปธนาคารที่รองรับ, ไปรษณีย์ หรือจุดบริการที่กำหนด
- เก็บสลิปหรือหลักฐานการชำระไว้เสมอ
4. รอเจ้าหน้าที่มาปลดล็อค
- เมื่อชำระเงินเรียบร้อย เจ้าหน้าที่จะเข้ามาปลดล็อคให้โดยเฉลี่ยภายใน 30-60 นาที
ข้อห้ามสำคัญ : ห้ามงัดหรือทำลายอุปกรณ์เอง มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ล็อคล้อ ค่าปรับล่าสุด
อัตราค่าปรับอาจแตกต่างตามพื้นที่และข้อหาที่กระทำผิด แต่โดยสรุปมีดังนี้
- ค่าปรับจราจร : ไม่เกิน 500 บาท ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก
- ค่าใช้อุปกรณ์ล็อคล้อ : กทม. และ อปท. สามารถกำหนดได้ แต่ไม่เกิน 500 บาท/คัน
- ค่าลากรถ (ถ้ามี) : รถไม่เกิน 4 ล้อ สูงสุด 1,500 บาท
สรุปง่ายๆ : ถ้าโดนล็อคล้อเพราะจอดผิดที่ ส่วนใหญ่จะต้องจ่าย 500-1,000 บาท ขึ้นไป หากถูกลากจูงด้วย ค่าใช้จ่ายอาจพุ่งถึงหลักพันกลาง
สิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อโดนล็อคล้อ
ห้ามงัดหรือทำลายอุปกรณ์ - มีโทษตามกฎหมายทันที
ห้ามขับลากอุปกรณ์ไปทั้งล้อ - เสี่ยงอันตรายและผิดกฎหมาย
ห้ามทิ้งรถไว้นาน - เพราะอาจถูกลากไปเก็บรักษา ทำให้เสียค่าลากรถเพิ่ม
คำถามที่พบบ่อย
Q: ถ้าโดนล็อคล้อกลางคืน จะทำยังไง?
A: ส่วนใหญ่มีเบอร์ติดต่อเจ้าหน้าที่เวร แต่ถ้าไม่มี อาจต้องรอถึงวันถัดไปช่วงเวลาทำการ
Q: ต่างจังหวัดมีมาตรการล็อคล้อเหมือนในกรุงเทพฯ ไหม?
A: มีเช่นกัน โดยเฉพาะในเมืองใหญ่หรือแหล่งท่องเที่ยว
Q: ถ้าไม่จ่ายค่าปรับจะเกิดอะไรขึ้น?
A: จะถูกออกหมายเรียก และมีผลต่อการต่อภาษีรถ รวมถึงอาจมีค่าปรับเพิ่ม
วิธีป้องกันไม่ให้โดนล็อคล้อ
1. สังเกตป้ายห้ามจอดและขาว-แดงทุกครั้งก่อนจอด
2. ใช้บริการลานจอดที่ถูกกฎหมาย โดยเฉพาะในเขตเมือง
3. จ่ายค่าจอดอย่างถูกต้องในพื้นที่ที่มีระบบเก็บเงิน
4. วางแผนเส้นทางล่วงหน้า เพื่อลดความจำเป็นต้องจอดในที่เสี่ยง
สรุป
การถูกล็อคล้อรถยนต์ไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะทำให้เสียทั้งเวลาและเงิน หากเจอสถานการณ์นี้ สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้อง ติดต่อเจ้าหน้าที่และชำระค่าปรับ อย่าพยายามแก้ไขด้วยตัวเองเด็ดขาด เพราะนอกจากจะผิดกฎหมายแล้ว ยังเสี่ยงสร้างความเสียหายให้กับรถของคุณเอง
ในระยะยาว การป้องกันคือสิ่งที่ดีที่สุด การสังเกตป้ายห้ามจอด เคารพกฎจราจร และเลือกที่จอดที่ถูกกฎหมาย จะช่วยเลี่ยงปัญหาการถูกล็อคล้อได้ 100% การวางแผนเรื่องที่จอดก่อนเดินทาง การยอมเสียค่าจอดในลานที่จัดไว้โดยเฉพาะ อาจดูสิ้นเปลืองเล็กน้อย แต่เมื่อเทียบกับค่าปรับ ความไม่สะดวก และโอกาสที่เสียไปแล้ว ถือว่าคุ้มค่าและช่วยให้การใช้รถเป็นไปอย่างสบายใจ
สำหรับใครที่ต้องการกู้สินเชื่อ สินเชื่อรถแลกเงินเป็นหนึ่งในคำตอบและวิธีการที่ดีที่สุดของคุณ กับเงินให้ใจที่มีความน่าเชื่อถือจากบริษัท เงินให้ใจ จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการ สินเชื่อรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสามารถขอใช้บริการได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คำนวณวงเงินสินเชื่อและสมัครสินเชื่อได้ทันทีที่ https://www.ngernhaijai.com/
“กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนรถ 12.82% - 24.00% สินเชื่อโอนเล่มทะเบียนรถ แบ่งเป็นกรณีบุคคลธรรมดามีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการส่วนตัว 6.08% - 15.00% และกรณีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ 6.08% - 26.62%”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.ngernhaijai.com/
Line : https://bit.ly/3zDd5Kz
เงินให้ใจ โทร : 02 078 8899
เผยแพร่ 14 ต.ค. 2568
บทความอื่น ๆ

บัญชีมิจฉาชีพ เช็กง่ายๆ ก่อนโอนจริง ไม่ตกเป็นเหยื่อ
สอนวิธีเช็คชื่อบัญชีมิจฉาชีพ ตรวจสอบเลขบัญชี มิจฉาชีพก่อนโอนจริง ป้องกันการถูกโกงออนไลน์ รู้ทันมิจฉาชีพ ลดความเสี่ยงเสียเงินฟรี
เผยแพร่ 14 ต.ค. 2568

วิธีไหว้แม่ย่านางรถใหม่ มูอัพเกรดดวงการเงินให้ปัง
รวมวิธีไหว้แม่ย่านางรถใหม่ พร้อมของไหว้ คาถา และฤกษ์มงคล เสริมโชคลาภ การเงิน และความปลอดภัยทุกการเดินทาง อ่านจบทำตามได้ทันที
เผยแพร่ 14 ต.ค. 2568

เข้าอู่ซ่อมรถต้องรู้! 5 เรื่องเช็กก่อนซ่อมจริง
รถเข้าอู่ซ่อมทีไร กังวลค่าใช้จ่ายบานปลาย? 5 เรื่องที่ควรเช็กก่อนซ่อมจริง เลือกอู่รถยนต์ได้มาตรฐาน อะไหล่โปร่งใส มีรับประกัน งานซ่อมคุ้มค่า
เผยแพร่ 14 ต.ค. 2568