จอดรถกลางแดดทุกวัน เสี่ยงอะไรบ้าง? รวม วิธีป้องกันไม่ให้รถพังไว!
ภาพที่คุ้นตาสำหรับคนเมืองในทุกวันนี้ ที่จอดรถในร่มเต็มตั้งแต่เช้าตรู่ ทำให้หลายคนไม่มีทางเลือกนอกจากต้องจอดรถกลางแดดตั้งแต่เช้าจรดเย็น กว่าจะกลับมาถึงรถในช่วงเลิกงาน อุณหภูมิภายในรถร้อนจนแทบจับพวงมาลัยไม่ได้ เบาะนั่งร้อนผ่าว และอากาศในรถร้อนอบอ้าว แต่เรามักคิดว่า "ไม่เป็นไร เดี๋ยวเปิดแอร์สักพักก็เย็นลง"
ความจริงที่หลายคนอาจไม่ทราบคือ การจอดรถตากแดดทุกวันไม่ได้เพียงแค่ทำให้รถร้อนเท่านั้น แต่ยังทำให้ชิ้นส่วนต่างๆ ของรถเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติอย่างมาก บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงความเสี่ยงของการจอดรถกลางแดดทุกวัน พร้อมวิธีป้องกันที่ทำได้จริงโดยไม่ต้องลงทุนมาก
จอดรถกลางแดดทุกวัน เสี่ยงอะไรบ้าง
การจอดรถตากแดดเป็นประจำ ส่งผลเสียต่อรถยนต์มากกว่าที่คุณคิด ไม่เพียงแต่ทำให้รถร้อนจนนั่งไม่สบาย แต่ยังสร้างความเสียหายระยะยาวที่อาจนำไปสู่ค่าซ่อมแซมที่แพงในอนาคต นี่คือความเสี่ยงที่ควรตระหนัก
1. สีรถซีดเร็วและแตกเป็นรอย
- สีรถซีดจางและด้าน โดยเฉพาะสีเข้มเช่น สีแดง สีน้ำเงิน จะเห็นผลชัดเจนในเวลาเพียงไม่กี่เดือน
- เกิดรอยแตกเล็กๆ บนผิวสี (Spider Cracks) โดยเฉพาะบริเวณหลังคาและฝากระโปรงรถ
- ชั้นเคลือบเงา (Clear Coat) เสื่อมสภาพ ทำให้สีดูไม่มีชีวิตชีวา
หากปล่อยให้สภาพสีเสื่อมโทรมมากเกินไป การแก้ไขอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายในการพ่นสีใหม่ซึ่งมีราคาสูงถึงหลักหมื่นบาท แม้แต่การขัดสีและเคลือบสีใหม่ก็ยังมีค่าใช้จ่ายไม่น้อย
2. ห้องโดยสารเสื่อมจากความร้อนสะสม
- เบาะหนังแตกร้าว หรือเบาะผ้าซีดจางและเสื่อมคุณภาพเร็ว
- พวงมาลัยเหนียวและแข็ง โดยเฉพาะพวงมาลัยหุ้มหนัง
- แผงคอนโซลและชิ้นส่วนพลาสติกภายในอาจบิดเบี้ยว หรือในกรณีร้ายแรง อาจละลายหรือยุบตัว
- อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น จอแสดงผล ระบบนำทาง เครื่องเสียง อาจเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ
- กลิ่นพลาสติกที่ระเหยจากความร้อน (Off-gassing) อาจส่งผลต่อสุขภาพของผู้ขับขี่ในระยะยาว
3. แบตเตอรี่เสื่อมเร็วขึ้น
แบตเตอรี่รถยนต์ได้รับผลกระทบโดยตรงจากความร้อน โดยเฉพาะแบตเตอรี่แบบน้ำกรด (Lead-acid) ที่พบในรถยนต์ทั่วไป
- ความร้อนจัดทำให้ของเหลวในแบตเตอรี่ระเหยเร็วกว่าปกติ
- เร่งปฏิกิริยาเคมีภายใน ทำให้แผ่นธาตุเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
- ลดอายุการใช้งานลงถึง 30-50% เมื่อเทียบกับรถที่จอดในร่ม
การเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่มีค่าใช้จ่ายไม่น้อย โดยเฉพาะในรถรุ่นใหม่ที่ต้องการแบตเตอรี่คุณภาพสูง และหากแบตเตอรี่เสียกะทันหัน อาจทำให้คุณติดอยู่กลางทางโดยไม่สามารถสตาร์ทรถได้
4. ยางรถและซีลยางกรอบ
ยางรถยนต์และชิ้นส่วนยางต่างๆ ได้รับผลกระทบอย่างมากจากรังสี UV และความร้อน
- ยางที่โดนแดดจัดทุกวันจะสูญเสียความยืดหยุ่น ทำให้ผิวยางแข็งและกรอบ
- เพิ่มความเสี่ยงต่อการรั่วหรือระเบิดของยางเมื่อขับที่ความเร็วสูง
- ซีลยางรอบประตูและกระจกจะกรอบและแตก ทำให้เกิดเสียงลมเข้าในห้องโดยสาร หรือแม้แต่น้ำรั่วซึมเข้ามาเมื่อฝนตก
- ใบปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ทำให้ประสิทธิภาพในการปัดน้ำฝนลดลง
5. ระบบแอร์ทำงานหนักกว่าปกติ
เมื่อรถร้อนจัดจากการจอดกลางแดด ระบบปรับอากาศต้องทำงานหนักกว่าปกติ
- ต้องใช้เวลานานกว่าปกติกว่าอุณหภูมิในรถจะเย็นลงถึงระดับที่สบาย
- คอมเพรสเซอร์แอร์ทำงานหนักขึ้น นำไปสู่การสึกหรอที่เร็วขึ้น
- สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น เพราะระบบแอร์ดึงกำลังเครื่องยนต์มากขึ้น
- ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่มากขึ้น ซึ่งยิ่งเร่งการเสื่อมของแบตเตอรี่
การจอดรถตากแดดทุกวันจึงไม่ใช่เพียงความไม่สบายชั่วคราว แต่เป็น "ต้นทุนแฝง" ที่กัดกินเงินของเราไปทีละนิดในระยะยาว ทั้งในรูปของค่าซ่อมบำรุงที่เพิ่มขึ้น อายุการใช้งานที่สั้นลง และมูลค่าขายต่อที่ลดลง
จอดรถตากแดดทุกวัน ทําไงดี? วิธีป้องกันรถพังเพราะแดด ที่คนมักมองข้าม
แม้ว่าการจอดรถกลางแดดจะส่งผลเสียมากมาย แต่ในความเป็นจริง หลายคนไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ โชคดีที่มีวิธีป้องกันและลดผลกระทบจากแสงแดดที่สามารถทำได้ไม่ยากนัก
1. หาที่จอดในร่มให้ได้ แม้ต้องเดินไกลขึ้นนิดก็ถือว่าคุ้ม
วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันความเสียหายจากแดดคือการไม่ให้รถสัมผัสแดดโดยตรงเลย
- พยายามมาถึงที่ทำงานหรือห้างสรรพสินค้าแต่เช้า เพื่อให้ได้ที่จอดในร่ม
- เลือกที่จอดใต้ต้นไม้ใหญ่หรืออาคารที่ให้ร่มเงา แม้จะต้องเดินไกลขึ้นอีกนิด
- พิจารณาเช่าที่จอดรถประจำในอาคารจอดรถที่มีหลังคา หากเป็นไปได้และคุ้มค่าสำหรับคุณ
การเสียเวลาเดินเพิ่มอีกสัก 5-10 นาที อาจช่วยประหยัดค่าซ่อมและบำรุงรักษาในระยะยาวได้มาก
2. ใช้ม่านบังแดดหรือฟิล์มกันรังสี UV คุณภาพดี
อุปกรณ์เสริมเหล่านี้เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับการปกป้องรถจากแสงแดด
ม่านบังแดดหน้ารถ :
- ใช้ม่านบังแดดหน้ารถคุณภาพดีที่สะท้อนแสง (สีเงินด้านนอก) ทุกครั้งที่จอดรถตากแดด
- ม่านบังแดดหน้ารถช่วยลดอุณหภูมิในห้องโดยสารได้ 10-15 องศาเซลเซียส
- ปัจจุบันมีแบบพับเก็บง่าย หรือแบบม้วนที่สะดวกต่อการใช้งาน
ฟิล์มกรองแสง :
- ติดตั้งฟิล์มกันรังสี UV คุณภาพดีที่กระจกทุกบาน
- เลือกฟิล์มที่มีค่าการกรองรังสี UV สูง (95% ขึ้นไป) แม้จะไม่จำเป็นต้องเป็นฟิล์มที่เข้มมาก
- ฟิล์มคุณภาพดีช่วยลดความร้อนที่เข้ามาในรถ ช่วยถนอมเบาะและคอนโซลได้อย่างมาก
3. เคลือบสีรถเป็นประจำ
การดูแลผิวสีของรถช่วยป้องกันความเสียหายจากแสงแดดได้มาก
- เคลือบสีรถทุก 4-6 เดือน เพื่อเพิ่มชั้นป้องกันแสงแดดและฝุ่น
- สำหรับรถที่ต้องจอดกลางแดดบ่อยๆ แนะนำให้เลือกการเคลือบเซรามิก (Ceramic Coating) ซึ่งทนทานกว่าและให้การปกป้องที่ดีกว่าแว็กซ์ธรรมดา
- ล้างรถเป็นประจำเพื่อกำจัดฝุ่นและสิ่งสกปรกที่อาจเร่งการเสื่อมของสีเมื่อถูกความร้อน
4. ใช้ผ้าคลุมรถอย่างถูกวิธี
คำถามยอดฮิตที่หลายคนสงสัย คือ "จอดรถตากแดด คลุมผ้าดีไหม?" คำตอบคือดี แต่มีข้อควรระวัง
- ใช้เฉพาะผ้าคลุมที่ออกแบบมาให้ระบายอากาศได้ดี (Breathable Car Cover)
- เลือกผ้าคลุมที่มีคุณสมบัติกันรังสี UV และกันน้ำ
- อย่าคลุมรถทันทีเมื่อรถยังร้อนจัด ควรรอให้ตัวรถเย็นลงก่อน มิฉะนั้นความร้อนที่ถูกกักไว้ใต้ผ้าคลุมอาจทำให้สีรถเสียหายได้
- ตรวจสอบว่าผ้าคลุมสะอาดและไม่มีสิ่งสกปรกที่อาจขูดขีดสีรถ
ข้อดีของผ้าคลุมคือสามารถปกป้องรถได้ทั้งจากแสงแดด ฝุ่นละออง และมูลนก ซึ่งมีฤทธิ์กัดสีรถได้
5. เปิดกระจกลงเล็กน้อย (ถ้าปลอดภัย)
การเปิดกระจกลงเล็กน้อย (ประมาณ 1-2 เซนติเมตร) สามารถช่วยระบายความร้อนในห้องโดยสารได้
- ช่วยลดอุณหภูมิภายในรถได้ 5-10 องศาเซลเซียส
- ลดความเสียหายต่อวัสดุภายในห้องโดยสาร
- ควรทำเฉพาะเมื่อจอดในที่ปลอดภัย และเปิดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
6. เช็กแบตเตอรี่และแรงดันลมยางบ่อยกว่าปกติ
รถที่โดนแดดจัดเป็นประจำควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษ
- ตรวจสอบแบตเตอรี่ทุก 3 เดือน หากเป็นแบตเตอรี่แบบน้ำ ควรเติมน้ำกลั่นเมื่อจำเป็น
- ตรวจแรงดันลมยางทุกสัปดาห์ เพราะแรงดันในยางจะเพิ่มขึ้นเมื่อได้รับความร้อน
- ตรวจสอบซีลยางรอบประตูและกระจกว่ามีรอยแตกหรือไม่ หากพบควรได้รับการเปลี่ยนทันที
7. พิจารณาอุปกรณ์เสริมอื่นๆ
มีอุปกรณ์เสริมหลายอย่างที่ช่วยลดผลกระทบจากการจอดรถกลางแดดได้
- ม่านบังแดดด้านข้าง ช่วยปกป้องผู้โดยสารและวัสดุภายในจากแสงแดดโดยตรง
- พัดลมระบายอากาศพลังงานแสงอาทิตย์ ติดตั้งที่กระจกหน้าต่างเพื่อช่วยระบายความร้อน
- แผ่นรองแดชบอร์ด ช่วยป้องกันแดชบอร์ดแตกและซีดจาง
สรุป
รถยนต์ไม่เคยบ่นว่า "ร้อน" แต่ทุกนาทีที่จอดกลางแดดคือการเสื่อมสภาพแบบเงียบๆ ที่สะสมไปเรื่อยๆ การจอดรถตากแดดทุกวันทำไงดี คำตอบคือ การป้องกันตั้งแต่วันนี้ด้วยวิธีง่ายๆ ที่กล่าวมาข้างต้น ซึ่งจะช่วยรักษาสภาพรถและยืดอายุการใช้งานได้อย่างมาก
การดูแลเล็กๆ น้อยๆ เช่น การใช้ม่านบังแดด การคลุมรถอย่างถูกวิธี หรือการเคลือบสีเป็นประจำ อาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เมื่อทำอย่างต่อเนื่อง สิ่งเหล่านี้จะช่วยยืดอายุรถให้ใช้งานได้อีกหลายปี และช่วยรักษามูลค่ารถเมื่อถึงเวลาขายต่อ
สำหรับใครที่ต้องการกู้สินเชื่อ สินเชื่อรถแลกเงินเป็นหนึ่งในคำตอบและวิธีการที่ดีที่สุดของคุณ กับเงินให้ใจที่มีความน่าเชื่อถือจากบริษัท เงินให้ใจ จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสามารถขอใช้บริการได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คำนวณวงเงินสินเชื่อและสมัครสินเชื่อได้ทันทีที่ https://www.ngernhaijai.com/
“กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนรถ 12.82% - 24.00% สินเชื่อโอนเล่มทะเบียนรถ แบ่งเป็นกรณีบุคคลธรรมดามีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการส่วนตัว 6.08% - 15.00% และกรณีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ 6.08% - 26.62%”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.ngernhaijai.com/
Line : https://bit.ly/3zDd5Kz
เงินให้ใจ โทร : 02 078 8899
เผยแพร่ 13 พ.ย. 2568
บทความอื่น ๆ
วิ่งส่งของหนักทุกวันต้องรู้! เช็กลิสต์ดูแลรถก่อนออกถนนให้ปลอดภัยทุกเที่ยว
ขับรถส่งของทุกวันอย่าลืมดูแลรถให้พร้อมก่อนออกถนน รวมเช็คลิสต์ตรวจรถง่าย ๆ ที่ช่วยยืดอายุรถ ประหยัดค่าน้ำมัน และลดอุบัติเหตุได้จริง
เผยแพร่ 13 พ.ย. 2568
ยืดอายุรถใช้งานให้นานขึ้น! ด้วย เคล็ด(ไม่)ลับดูแลรถที่คนมักมองข้าม
รถคือทรัพย์สินที่มีมูลค่า ยิ่งดูแลถูกวิธี ยิ่งใช้ได้นาน รู้ไหมว่าพฤติกรรมดูแลรถเล็กๆ ที่เรามักมองข้าม อาจทำให้รถพังเร็วโดยไม่รู้ตัว
เผยแพร่ 13 พ.ย. 2568
รถเสียไม่ใช่เรื่องเล็ก! วางแผนเงินสำรองยังไงให้พร้อมทุกเหตุการณ์
รถเสียทีค่าใช้จ่ายบาน! วางแผนเงินสำรองยังไงให้ซ่อมรถได้ไม่สะดุด พร้อมเทคนิคเก็บเงินแบบเจ้าของรถยุคใหม่ที่ไม่ต้องพึ่งหนี้
เผยแพร่ 13 พ.ย. 2568