เที่ยวดีมีคืน 2568 เที่ยวดีมีคืน 2568 เงื่อนไข

เที่ยวดีมีคืน 2568 คืออะไร? เงื่อนไข สิทธิ์ และวิธีใช้ให้คุ้มสุด

ปลายปี 2568 นี้ รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและท่องเที่ยวภายในประเทศด้วยโครงการ "เที่ยวดีมีคืน 2568" ที่ช่วยให้คนทำงานสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการเที่ยวมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30,000 บาท วันนี้ เงินให้ใจจะพาไปทำความเข้าใจโครงการนี้แบบละเอียด ตั้งแต่เงื่อนไข สิทธิ์ที่ได้รับ ไปจนถึงเทคนิคการใช้ให้คุ้มค่าที่สุด

เที่ยวดีมีคืน 2568

เที่ยวดีมีคืน 2568 คืออะไร?

"เที่ยวดีมีคืน 2568" คือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ให้สิทธิประชาชนนำค่าใช้จ่ายจากการท่องเที่ยวในประเทศมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับปีภาษี 2568

วัตถุประสงค์หลักของมาตรการ :

- กระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี

- ส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ

- กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น โดยเฉพาะเมืองรอง

- ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)

- สนับสนุนการใช้ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice)

ระยะเวลาโครงการ : มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 29 ตุลาคม - 15 ธันวาคม 2568 เท่านั้น ค่าใช้จ่ายที่เกิดนอกช่วงนี้จะไม่ได้รับสิทธิ์

ใครบ้างที่มีสิทธิ์ใช้เที่ยวดีมีคืน 2568?

มาตรการนี้แบ่งกลุ่มผู้ใช้สิทธิ์เป็น 2 กลุ่มหลัก

1. บุคคลธรรมดา (ผู้มีเงินได้)

สิทธิ์ที่ได้รับ : สามารถหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30,000 บาท จากค่าใช้จ่าย

- ค่าที่พัก (โรงแรม, โฮมสเตย์ไทยที่ได้รับรองมาตรฐาน, ที่พักที่ไม่ใช่โรงแรม)

- ค่าบริการจากร้านอาหารที่จดทะเบียน VAT (รวมค่าอาหาร ค่าเครื่องดื่ม ค่า Service Charge และค่าสุรา เบียร์ ไวน์)

อัตราการหักลดหย่อน :

- เที่ยวเมืองรอง : หักได้ 1.5 เท่า ของจำนวนเงินที่จ่ายจริง (ค่าใช้จ่ายจริงไม่เกิน 20,000 บาท จะได้ลดหย่อนสูงสุด 30,000 บาท)

- เที่ยวนอกเมืองรอง : หักได้ 1 เท่า ของจำนวนเงินที่จ่ายจริง (ค่าใช้จ่ายจริงไม่เกิน 20,000 บาท จะได้ลดหย่อนสูงสุด 20,000 บาท)

2. นิติบุคคล (บริษัท/ห้างหุ้นส่วน)

สิทธิ์ที่ได้รับ : สามารถหักรายจ่ายจากการจัดอบรมหรือสัมมนาได้สูงสุด 2 เท่า ครอบคลุม

- ค่าห้องสัมมนา

- ค่าที่พัก

- ค่าขนส่ง

- ค่าบริการนำเที่ยว

- ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

อัตราการหักลดหย่อน

- จัดสัมมนาในเมืองรอง : หักได้ 2 เท่า

- จัดสัมมนานอกจากเมืองรอง : หักได้ 1.5 เท่า

กรณีพิเศษ : หากสัมมนาในหลายพื้นที่ ให้หักรายจ่ายที่แยกได้ว่าเกิดในพื้นที่ใดตามอัตราของพื้นที่นั้น ส่วนรายจ่ายที่แยกไม่ได้ (เช่น ค่าเดินทางรวม) ให้หักได้ 1.5 เท่า

เงื่อนไขสำคัญที่ต้องรู้

1. สำหรับบุคคลธรรมดา

- 10,000 บาทแรก ใช้ได้ทั้งใบกำกับภาษีแบบกระดาษและ e-Tax Invoice ต้องเป็นใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ (ระบุชื่อ-เลขบัตรประชาชน)

- ส่วนเกิน 10,000 บาท ต้องใช้ e-Tax Invoice เท่านั้น ไม่สามารถใช้ใบกำกับภาษีกระดาษได้ หากไม่มี e-Tax Invoice จะใช้สิทธิ์ได้เฉพาะ 10,000 บาทแรก

2. สำหรับนิติบุคคล

- เอกสารที่ต้องมี ต้องใช้ e-Tax Invoice เป็นหลักฐาน ค่าขนส่งสามารถใช้ e-Receipt ได้

เที่ยวดีมีคืน 2568 ลงทะเบียนไหม?

สำหรับคำถามว่า เที่ยวดีมีคืน ต้องลงทะเบียนไหม คำตอบคือไม่ต้องลงทะเบียนล่วงหน้า คุณสามารถใช้สิทธิ์ได้ทันทีโดย

1. เดินทางท่องเที่ยวในช่วง 29 ตุลาคม - 15 ธันวาคม 2568

2. ใช้จ่ายกับผู้ประกอบการที่สามารถออกใบกำกับภาษีได้

3. เก็บใบกำกับภาษีไว้เป็นหลักฐาน

4. นำไปยื่นลดหย่อนภาษีเมื่อยื่นภาษีประจำปี

ไม่มีขั้นตอนลงทะเบียนล่วงหน้า ไม่ต้องแจ้งความประสงค์ล่วงหน้า

เมืองหลักและเมืองรอง แตกต่างกันอย่างไร?

1. เมืองหลัก (22 จังหวัด) เป็นจังหวัดที่มีการท่องเที่ยวคึกคักอยู่แล้ว ได้แก่

- ภาคกลาง/ตะวันออก (10 จังหวัด) : กรุงเทพมหานคร, นครปฐม, นนทบุรี, ปทุมธานี, สมุทรปราการ, สมุทรสาคร, พระนครศรีอยุธยา, สระบุรี, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี

- ภาคตะวันตก (4 จังหวัด) : กาญจนบุรี, ประจวบคีรีขันธ์, เพชรบุรี, ราชบุรี

- ภาคเหนือ (1 จังหวัด) : เชียงใหม่

- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (2 จังหวัด) : ขอนแก่น, นครราชสีมา

- ภาคใต้ (5 จังหวัด) : กระบี่, พังงา, ภูเก็ต, สงขลา, สุราษฎร์ธานี

2. เมืองรอง (55 จังหวัด) เป็นจังหวัดที่รัฐบาลต้องการกระจายนักท่องเที่ยว ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ เช่น

- ภาคเหนือ : เชียงราย, น่าน, พะเยา, แม่ฮ่องสอน, ลำปาง, สุโขทัย, ตาก

- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : อุบลราชธานี, บุรีรัมย์, เลย, หนองคาย, นครพนม

- ภาคกลาง/ตะวันออก : จันทบุรี, ตราด, ปราจีนบุรี, ลพบุรี

- ภาคใต้ : ตรัง, พัทลุง, ระนอง, สตูล

3. พื้นที่พิเศษ บางอำเภอในจังหวัดเมืองหลัก (15 จังหวัด) ได้รับสิทธิ์เทียบเท่าเมืองรอง (หักลดหย่อน 1.5 เท่า) เพื่อกระจายนักท่องเที่ยวไปยังพื้นที่รอบนอก

ตัวอย่าง :

- เชียงใหม่ : แม่แตง, ดอยสะเก็ด, ฮอด, จอมทอง

- ชลบุรี : บ้านบึง, พานทอง, พนัสนิคม

- ระนอง : ทุกอำเภอ (จัดเป็นเมืองรองทั้งจังหวัด)

ค่าใช้จ่ายอะไรบ้างที่ใช้ได้?

ใช้ลดหย่อนได้ :

- ค่าที่พัก (โรงแรม, โฮมสเตย์, รีสอร์ท, เกสต์เฮาส์)

- ค่าอาหารจากร้านที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)

ใช้ลดหย่อนไม่ได้ :

- ค่าตั๋วเครื่องบิน/รถทัวร์

- ค่าน้ำมันรถ

- ค่าซื้อของฝาก/ของที่ระลึก

- ค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยว

- ค่าบริการนวดสปา (ที่ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของโรงแรม)

วิธีใช้สิทธิ์เที่ยวดีมีคืน 2568 ให้คุ้มสุด

1. เลือกเที่ยวเมืองรอง เพราะได้สิทธิ์ลดหย่อน 1.5 เท่า แทนที่จะจ่าย 20,000 บาท แต่ได้ลดหย่อน 30,000 บาท

2. วางแผนให้ครบวงเงิน 20,000 บาท เพื่อใช้สิทธิ์ให้เต็มที่ โดยเฉพาะถ้าเที่ยวเมืองรอง จะได้ลดหย่อนเต็ม 30,000 บาท

3. เช็กว่าที่พักและร้านอาหารออก e-Tax Invoice ได้ สอบถามก่อนจ่ายเงิน เพราะถ้าใช้จ่ายเกิน 10,000 บาท แต่ไม่มี e-Tax Invoice จะใช้สิทธิ์ได้แค่ 10,000 บาทแรก

4. ขอใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบทุกครั้ง ต้องระบุ ชื่อ-นามสกุล และเลขบัตรประชาชน 13 หลัก ชัดเจน

5. เก็บใบกำกับภาษีให้ครบถ้วน เพื่อนำไปยื่นลดหย่อนภาษีในปีหน้า

6. วางแผนการเดินทางให้ครอบคลุมทั้งที่พักและอาหาร แทนที่จะเที่ยววันเดียว ควรพักค้างคืนเพื่อใช้สิทธิ์ค่าที่พักด้วย

7. แบ่งจ่ายให้พอดีกับเงื่อนไข ถ้าจ่ายไม่เกิน 10,000 บาท ใช้ใบกำกับภาษีกระดาษก็ได้ สะดวกกว่า

คำถามที่พบบ่อย

Q: เที่ยวทั้งเมืองหลักและเมืองรองในทริปเดียวได้ไหม?

A: ได้ สามารถรวมค่าใช้จ่ายทั้งสองส่วนได้ โดยค่าใช้จ่ายในเมืองรองจะได้ลดหย่อน 1.5 เท่า ส่วนเมืองหลักได้ 1 เท่า วงเงินรวมไม่เกิน 20,000 บาท

Q: จะรู้ได้อย่างไรว่าร้านไหนออก e-Tax Invoice ได้?

A: สอบถามผู้ประกอบการโดยตรงก่อนใช้บริการ หรือเช็กจากเว็บไซต์กรมสรรพากร

Q: ใช้จ่ายเกิน 10,000 บาท แต่ไม่มี e-Tax Invoice จะทำอย่างไร?

A: ใช้สิทธิ์ได้เฉพาะ 10,000 บาทแรกที่มีใบกำกับภาษีกระดาษเท่านั้น ส่วนเกินจะไม่ได้สิทธิ์

Q: ต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติมหรือไม่?

A: ไม่ต้อง แค่เก็บใบกำกับภาษีไว้ แล้วนำไปแนบตอนยื่นภาษีประจำปี

สรุป

มาตรการเที่ยวดีมีคืน 2568 เป็นโอกาสดีที่คนทำงานจะได้พักผ่อนพร้อมกับลดหย่อนภาษี โดยไม่ต้องลงทะเบียนล่วงหน้า แค่เดินทางในช่วง 29 ตุลาคม - 15 ธันวาคม 2568 และขอใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ ก็สามารถนำค่าใช้จ่ายมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30,000 บาท

สิ่งสำคัญคือต้องวางแผนให้ดี เลือกเที่ยวเมืองรองเพื่อได้สิทธิ์มากกว่า และตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้ประกอบการสามารถออก e-Tax Invoice ได้ ถ้าใช้จ่ายเกิน 10,000 บาท

สำหรับใครที่ต้องการกู้สินเชื่อ สินเชื่อรถแลกเงินเป็นหนึ่งในคำตอบและวิธีการที่ดีที่สุดของคุณ กับเงินให้ใจที่มีความน่าเชื่อถือจากบริษัท เงินให้ใจ จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสามารถขอใช้บริการได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คำนวณวงเงินสินเชื่อและสมัครสินเชื่อได้ทันทีที่ https://www.ngernhaijai.com/

“กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนรถ 12.82% - 24.00% สินเชื่อโอนเล่มทะเบียนรถ แบ่งเป็นกรณีบุคคลธรรมดามีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการส่วนตัว 6.08% - 15.00% และกรณีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ 6.08% - 26.62%”

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Website : https://www.ngernhaijai.com/

Line : https://bit.ly/3zDd5Kz

เงินให้ใจ โทร : 02 078 8899

เผยแพร่ 17 ธ.ค. 2568

บทความอื่น ๆ

รถมีกลิ่นอับ

รถมีกลิ่นอับแต่ไม่ชอบน้ำหอมแรง? รวมวิธีทำให้รถหอมแบบธรรมชาติ นั่งสบายไม่เวียนหัว

รถมีกลิ่นอับหรือเหม็นกลิ่นน้ำมัน? เรียนรู้วิธีดับกลิ่นรถแบบธรรมชาติที่ไม่ทำให้เวียนหัว พร้อมแนะนำน้ำหอมรถที่หอมอ่อนๆ และวิธีป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์

เผยแพร่ 17 ธ.ค. 2568

แต่งรถยนต์

มือใหม่แต่งรถต้องรู้! เคล็ดลับแต่งรถให้สวย ไม่ผิดกฎหมาย ไม่โดนจับ

อยากแต่งรถยนต์ให้สวยแต่กลัวผิดกฎหมาย? เรียนรู้เคล็ดลับแต่งรถสำหรับมือใหม่ พร้อมแนะนำอุปกรณ์แต่งรถที่ถูกกฎหมายและไม่ถูกกฎหมาย

เผยแพร่ 17 ธ.ค. 2568

ซ่อมรถ

5 สัญญาณเตือนว่าถึงเวลา “เช็คใหญ่” ก่อนพังกลางทาง

รถมีอาการแปลกๆ? อาจถึงเวลาเช็คระยะรถยนต์แล้ว! เรียนรู้ 5 สัญญาณเตือนที่บอกว่าควรซ่อมรถด่วน พร้อมวิธีเช็คเบื้องต้น

เผยแพร่ 17 ธ.ค. 2568