สัญญาเงินกู้ที่ถูกต้องตามกฎหมาย
กฎหมายเงินกู้

ชวนดูสัญญาเงินกู้! แบบไหนผิดกฎหมาย แบบไหนเสี่ยง

เมื่อความจำเป็นทางการเงินมาเยือน การกู้ยืมเงินอาจเป็นทางออกที่หลายคนนึกถึง แต่รู้หรือไม่ว่า สัญญาเงินกู้ที่ดูเหมือนจะช่วยแก้ปัญหา อาจกลายเป็นกับดักที่ทำให้เราตกอยู่ในวังวนแห่งหนี้สินได้ 

การทำความเข้าใจเกี่ยวกับสัญญาเงินกู้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยปกป้องเราจากการถูกเอาเปรียบ บทความนี้ เงินให้ใจจะพาคุณเจาะลึกโลกของสัญญาเงินกู้ เรียนรู้วิธีแยกแยะสัญญาที่ผิดกฎหมายเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินและเสี่ยงเกินไป พร้อมเคล็ดลับในการอ่านสัญญาอย่างชาญฉลาด

 

ทำความรู้จักกับสัญญาเงินกู้

สัญญาเงินกู้ คือข้อตกลงทางกฎหมายระหว่างผู้ให้กู้และผู้กู้ ซึ่งระบุเงื่อนไขต่างๆ ในการกู้ยืมเงิน เช่น จำนวนเงินที่กู้ 1. อัตราดอกเบี้ย ระยะเวลาการชำระคืน และเงื่อนไขอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง สัญญาเงินกู้ที่ถูกต้องตามกฎหมายจะต้องมีความชัดเจน เป็นธรรม และไม่เอาเปรียบผู้กู้จนเกินไป 

รู้หรือไม่? เมื่อกู้ยืมเงินเกิน 2,000 บาท ต้องมีสัญญาการกู้ยืมเป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมลายเซ็นผู้กู้ชัดเจน หากไม่มีหลักฐานหรือสัญญา จะไม่สามารถฟ้องร้องบังคับคดีได้ แม้ว่าหนี้นั้นจะชอบด้วยกฎหมายก็ตาม

สัญญาเงินกู้ที่ผิดกฎหมายเงินกู้ รู้ทันก่อนเป็นเหยื่อ

1. อัตราดอกเบี้ยการกู้ยืม กฎหมายเงินกู้กำหนดว่าห้ามเกิน 15% ต่อปี หากเจ้าหนี้เรียกดอกเบี้ยเกินกว่า 15% ต่อปี ให้ถือว่าดอกเบี้ยที่เกินนั้นตกเป็นโมฆะ

2. การคิดดอกเบี้ยทบต้น การคิดดอกเบี้ยทบต้น หรือ "ดอกเบี้ยซ้อนดอกเบี้ย" เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย เพราะทำให้หนี้พอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็ว สัญญาที่มีเงื่อนไขแบบนี้ถือว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย

3. การยึดบัตรประชาชนหรือเอกสารสำคัญ สัญญาที่ระบุว่าผู้ให้กู้มีสิทธิยึดบัตรประชาชน หรือเอกสารสำคัญอื่นๆ ของผู้กู้เป็นประกัน ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอย่างชัดเจน

4. การบังคับใช้วิธีการรุนแรงในการทวงหนี้ สัญญาที่ระบุว่าผู้ให้กู้มีสิทธิใช้วิธีการรุนแรง ข่มขู่ หรือคุกคามในการทวงหนี้ ถือเป็นสัญญาที่ผิดกฎหมาย

สัญญาเงินกู้ที่เสี่ยง ระวังกับดักแฝง

1. เงื่อนไขที่ซับซ้อนเกินไป สัญญาที่มีภาษายากหรือเงื่อนไขที่ซับซ้อนจนเกินไป อาจเป็นการตั้งใจซ่อนข้อกำหนดที่ไม่เป็นธรรมไว้ ควรระมัดระวังและขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญก่อนลงนาม

2. ค่าธรรมเนียมแอบแฝง สัญญาที่มีค่าธรรมเนียมจำนวนมากหรือไม่ชัดเจน อาจทำให้ต้นทุนการกู้ยืมสูงขึ้นอย่างมาก ควรตรวจสอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดอย่างละเอียด

3. เงื่อนไขการชำระเงินที่เข้มงวดเกินไป สัญญาที่กำหนดเงื่อนไขการชำระเงินที่เข้มงวดมากเกินไป เช่น ค่าปรับสูงมากเมื่อผิดนัดชำระ หรือระยะเวลาผ่อนชำระที่สั้นเกินไป อาจทำให้ผู้กู้เสี่ยงต่อการผิดนัดชำระได้ง่าย

4. การให้สิทธิผู้ให้กู้ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขฝ่ายเดียว สัญญาที่ให้อำนาจผู้ให้กู้ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขสัญญาได้ฝ่ายเดียว โดยไม่ต้องแจ้งหรือขอความยินยอมจากผู้กู้ ถือเป็นสัญญาที่เสี่ยงและไม่เป็นธรรม

วิธีอ่านสัญญาเงินกู้อย่างชาญฉลาด

1. ตรวจสอบข้อมูลพื้นฐาน เริ่มจากการตรวจสอบข้อมูลพื้นฐานให้ถูกต้อง เช่น ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ จำนวนเงินกู้ และวันที่ทำสัญญา หากมีข้อผิดพลาด ให้แจ้งแก้ไขทันที

2. ทำความเข้าใจอัตราดอกเบี้ย ศึกษาอัตราดอกเบี้ยให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ ทั้งอัตราดอกเบี้ยปกติและอัตราดอกเบี้ยผิดนัดชำระ รวมถึงวิธีการคำนวณดอกเบี้ย

3. ตรวจสอบระยะเวลาและเงื่อนไขการชำระเงิน พิจารณาระยะเวลาการผ่อนชำระ จำนวนเงินที่ต้องชำระในแต่ละงวด และเงื่อนไขการชำระเงินอื่นๆ ให้แน่ใจว่าสามารถปฏิบัติตามได้

4. ศึกษาค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตรวจสอบค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง เช่น ค่าธรรมเนียมการทำสัญญา ค่าประกันภัย หรือค่าธรรมเนียมการชำระเงินล่าช้า

5. พิจารณาหลักประกันและเงื่อนไขการยึดทรัพย์ หากเป็นสัญญาที่ต้องใช้หลักประกัน ให้ศึกษาเงื่อนไขการใช้หลักประกันและการยึดทรัพย์อย่างละเอียด

6. ตรวจสอบเงื่อนไขการผิดนัดชำระและบทลงโทษ ทำความเข้าใจว่าอะไรคือการผิดนัดชำระ และมีบทลงโทษอย่างไรบ้าง รวมถึงวิธีการแก้ไขเมื่อเกิดการผิดนัดชำระ

7. ศึกษาเงื่อนไขการยกเลิกสัญญา ตรวจสอบว่ามีเงื่อนไขในการยกเลิกสัญญาหรือไม่ และมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้างในกรณีที่ต้องการยกเลิกสัญญาก่อนกำหนด

เคล็ดลับการป้องกันตัวเองจากสัญญาเงินกู้ที่ไม่เป็นธรรม

1. อ่านสัญญาอย่างละเอียดก่อนลงนาม ไม่ว่าจะเร่งรีบแค่ไหน ต้องอ่านสัญญาทุกข้ออย่างละเอียดก่อนลงนาม หากมีข้อสงสัย ให้สอบถามจนเข้าใจชัดเจน

2. ขอเวลาในการพิจารณาสัญญา อย่ารีบลงนามในสัญญาทันที ขอเวลาในการนำกลับไปอ่านและปรึกษาผู้รู้ก่อนตัดสินใจ

3. ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ให้กู้ ศึกษาประวัติและความน่าเชื่อถือของผู้ให้กู้ก่อนตกลงทำสัญญา โดยเฉพาะหากเป็นการกู้ยืมจากแหล่งที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน

4. เปรียบเทียบข้อเสนอจากหลายแหล่ง ไม่ควรรีบตกลงกับข้อเสนอแรกที่ได้รับ ควรเปรียบเทียบเงื่อนไขจากผู้ให้กู้หลายๆ ราย เพื่อเลือกข้อเสนอที่ดีที่สุด

5. ขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ หากไม่แน่ใจเกี่ยวกับเงื่อนไขในสัญญา ควรขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายหรือการเงิน เพื่อให้มั่นใจว่าเข้าใจทุกเงื่อนไขอย่างถูกต้อง

6. เก็บสำเนาสัญญาไว้ หลังจากลงนามในสัญญาแล้ว ต้องขอสำเนาสัญญาเก็บไว้เป็นหลักฐาน และเก็บรักษาอย่างดี

7. ติดตามการเปลี่ยนแปลงของกฎหมาย กฎหมายเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินอาจมีการเปลี่ยนแปลง ควรติดตามข่าวสารอย่างสม่ำเสมอเพื่อรับทราบสิทธิและหน้าที่ของตนเอง

สรุป

การกู้ยืมเงินอาจเป็นทางออกในยามจำเป็น แต่การทำความเข้าใจเกี่ยวกับสัญญาเงินกู้เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะจะช่วยปกป้องคุณจากการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพและการเป็นหนี้ที่ไม่สามารถจัดการได้ สุดท้ายนี้ หากคุณกำลังประสบปัญหาทางการเงิน การหาแหล่งสินเชื่อที่น่าเชื่อถือจะเป็นทางออกที่ยั่งยืนกว่าการพึ่งพาเงินกู้นอกระบบ จงใช้ความระมัดระวังและสติปัญญาในการตัดสินใจทางการเงิน เพื่อสร้างอนาคตทางการเงินที่มั่นคงและปลอดภัยสำหรับตัวคุณและครอบครัว

สำหรับใครที่ต้องการเงินด่วน สินเชื่อรถแลกเงิน เป็นหนึ่งในคำตอบและวิธีการที่ดีที่สุดของคุณ กับเงินให้ใจที่มีความน่าเชื่อถือและ เงินให้ใจ จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสามารถขอใช้บริการได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คำนวณวงเงินสินเชื่อและสมัครสินเชื่อได้ทันทีที่ เงินให้ใจ

“กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนรถ 12.82% - 24.00% สินเชื่อโอนเล่มทะเบียนรถ แบ่งเป็นกรณีบุคคลธรรมดามีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการส่วนตัว 6.08% - 15.00% และกรณีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ 6.08% - 26.62%”

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Website : https://www.ngernhaijai.com/

Line : https://bit.ly/3zDd5Kz

เงินให้ใจ โทร : 02 078 8899

เผยแพร่ 16 ส.ค. 2567

บทความอื่น ๆ

วางแผนการเงิน

ไม่มีทุนแต่อยากอัปเกรดร้าน? แจก 5 แนวคิดการเงินเจ้าของกิจการยุคใหม่

ไม่มีทุนไม่ใช่ปัญหา! แจก 5 แนวคิดวางแผนการเงินให้เจ้าของกิจการอัปเกรดร้านได้ทันที โดยไม่ต้องใช้เงินก้อนใหญ่

เผยแพร่ 15 ส.ค. 2568

รถโดนน้ำท่วม

รถยังผ่อนไม่หมดแต่น้ำท่วม! เคลมประกันได้ไหม?

รถน้ำท่วมแต่ยังผ่อนไม่หมด? รู้สิทธิเคลมประกัน ซ่อมรถ และจัดการหนี้ไฟแนนซ์อย่างชาญฉลาด เพื่อฟื้นตัวกลับมาได้เร็วขึ้น

เผยแพร่ 15 ส.ค. 2568

ต่อ พ.ร.บ. รถยนต์

ต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ 2568 ยังไงไม่ให้โดนค่าปรับ? เช็กครบในบทความเดียว

ต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ 2568 อย่างไรให้ไม่โดนค่าปรับ? เรารวมทุกขั้นตอน เอกสารที่ต้องเตรียม ราคา ช่องทางต่อทั้งออนไลน์และออฟไลน์ พร้อมวิธีหลีกเลี่ยงค่าปรับหากขาดต่อ

เผยแพร่ 15 ส.ค. 2568