วิธีการดูรถมือสอง
ดูรถมือสอง

ซื้อรถมือสองควรตรวจเช็กอะไรบ้าง มาดู!

การซื้อรถมือสองเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์ในราคาที่ย่อมเยากว่ารถใหม่ แต่การตัดสินใจซื้อรถมือสองนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเราไม่สามารถรู้ประวัติการใช้งานที่แท้จริงของรถคันนั้นได้ทั้งหมด การตรวจสอบสภาพรถอย่างละเอียดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม บทความนี้ เงินให้ใจจะแนะนำวิธีการดูรถมือสองอย่างละเอียด ทั้งภายนอก ภายใน เครื่องยนต์ และเอกสารสำคัญ เพื่อให้คุณมั่นใจว่าจะได้รถคุณภาพดีในราคาที่คุ้มค่า

วิธีการดูรถมือสอง

การตรวจสอบภายนอก

1. สีรถ

- ตรวจดูความเงางามของสีรถ ควรมีความเงางามสม่ำเสมอทั้งคัน

- สังเกตรอยต่อของสีที่อาจเกิดจากการซ่อมทำหรือพ่นสีใหม่

- ใช้แม่เหล็กทดสอบบริเวณที่สงสัยว่ามีการซ่อมแซม หากแม่เหล็กไม่ติด อาจมีการอุดโป๊วหรือซ่อมแซมมาก่อน

2. ตัวถังรถ

- ตรวจสอบความเรียบร้อยของตัวถัง ไม่มีรอยบุบ รอยเฉี่ยว หรือรอยสนิม

- สังเกตช่องว่างระหว่างแผ่นโลหะ ควรมีระยะห่างที่สม่ำเสมอ

- ตรวจสอบใต้ท้องรถ ดูว่ามีรอยสนิมหรือรอยการซ่อมแซมหรือไม่

3. ยาง

- ตรวจสอบสภาพยางทั้ง 4 เส้น รวมถึงยางอะไหล่

- ดูความลึกของดอกยาง ไม่ควรสึกหรอมากเกินไป

- สังเกตการสึกหรอของยาง หากสึกไม่เท่ากัน อาจมีปัญหาเรื่องช่วงล่างหรือศูนย์ล้อ

4. ไฟส่องสว่าง

- ตรวจสอบไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว และไฟเบรก ว่าทำงานปกติหรือไม่

- สังเกตความขุ่นมัวของเลนส์ไฟหน้า ซึ่งอาจบ่งบอกถึงอายุการใช้งานที่ยาวนาน

การตรวจสอบภายใน

1. เบาะนั่ง

ตรวจสอบสภาพเบาะ ไม่มีรอยขาด หรือสึกหรอมากเกินไป

ทดลองปรับเบาะ ดูว่าสามารถปรับได้ตามปกติหรือไม่

2. พวงมาลัย

ตรวจสอบสภาพพวงมาลัย ไม่มีรอยสึกหรอมากเกินไป

ทดลองหมุนพวงมาลัย ควรหมุนได้อย่างนุ่มนวล ไม่มีเสียงดังผิดปกติ

3. แผงหน้าปัด

ตรวจสอบการทำงานของมาตรวัดต่างๆ เช่น มาตรวัดความเร็ว มาตรวัดรอบเครื่องยนต์

สังเกตเลขไมล์ ดูว่าสอดคล้องกับสภาพรถโดยรวมหรือไม่

4. ระบบปรับอากาศ

ทดสอบการทำงานของแอร์ ทั้งความเย็นและแรงลม

สังเกตกลิ่นผิดปกติที่อาจเกิดจากเชื้อราในระบบปรับอากาศ

การตรวจสอบเครื่องยนต์

1. สภาพภายนอกเครื่องยนต์

- ตรวจดูความสะอาดของห้องเครื่องยนต์

- สังเกตรอยรั่วซึมของน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ หรือน้ำหล่อเย็น

2. น้ำมันเครื่อง

- ตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่อง ควรอยู่ในระดับที่เหมาะสม

- สังเกตสีและความใสของน้ำมันเครื่อง หากมีสีดำคล้ำหรือข้น อาจแสดงถึงการใช้งานมานาน

3. น้ำหล่อเย็น

- ตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็น ควรอยู่ในระดับที่เหมาะสม

- สังเกตสีของน้ำหล่อเย็น ไม่ควรมีสีน้ำตาลหรือสนิมปน

4. การสตาร์ทเครื่องยนต์

- สังเกตการสตาร์ทเครื่องยนต์ ควรติดง่ายและเดินเรียบ

- ฟังเสียงเครื่องยนต์ ไม่ควรมีเสียงดังผิดปกติ

5. ควันไอเสีย

- สังเกตสีของควันไอเสีย ไม่ควรมีควันสีขาว น้ำเงิน หรือดำ ซึ่งอาจบ่งบอกถึงปัญหาของเครื่องยนต์

การตรวจสอบระบบส่งกำลังและช่วงล่าง

1. เกียร์

- ทดลองเข้าเกียร์ทุกตำแหน่ง ควรเข้าเกียร์ได้อย่างนุ่มนวล ไม่สะดุด

- สังเกตการเปลี่ยนเกียร์ขณะขับ ไม่ควรมีอาการกระตุกหรือเสียงดังผิดปกติ

2. คลัตช์

- ทดสอบแป้นคลัตช์ ควรมีระยะฟรีที่เหมาะสม ไม่แข็งหรือนุ่มเกินไป

- สังเกตจุดจับของคลัตช์ ไม่ควรจับสูงหรือต่ำเกินไป

3. เบรก

- ทดสอบระบบเบรก ควรหยุดรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่มีอาการสั่นหรือดึงไปด้านใดด้านหนึ่ง

- ตรวจสอบระดับน้ำมันเบรก ควรอยู่ในระดับที่เหมาะสม

4. ช่วงล่าง

- สังเกตอาการทรงตัวของรถขณะขับ ไม่ควรมีอาการโยกหรือส่ายผิดปกติ

- ทดสอบการขับผ่านถนนที่ไม่เรียบ สังเกตเสียงและการสั่นสะเทือน

การตรวจสอบเอกสาร

1. ทะเบียนรถ

- ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลในทะเบียนรถ เช่น หมายเลขเครื่องยนต์ หมายเลขตัวถัง

- ดูวันหมดอายุของทะเบียนรถ

2. พ.ร.บ.

- ตรวจสอบความถูกต้องและวันหมดอายุของ พ.ร.บ.

3. ประวัติการซ่อมบำรุง

- ขอดูสมุดบันทึกการซ่อมบำรุง เพื่อตรวจสอบประวัติการดูแลรักษารถ

4. ประวัติการเงิน

- ตรวจสอบว่ารถไม่ติดภาระผูกพันทางการเงิน เช่น การจำนอง

เทคนิคการเจรจาต่อรองราคา

- ศึกษาราคาตลาด ตรวจสอบราคากลางของรถรุ่นเดียวกันในตลาดรถมือสอง

- ใช้ข้อมูลจากการตรวจสอบ นำข้อบกพร่องที่พบจากการดูรถมือสองมาใช้ในการต่อรองราคา

- เตรียมเงินสด หากมีความพร้อมด้านการเงิน อาจใช้เป็นจุดต่อรองเพื่อขอส่วนลดเพิ่มเติม

- อย่ารีบร้อน ใช้เวลาในการตัดสินใจ อย่าแสดงท่าทีกระตือรือร้นจนเกินไป

สรุป

การซื้อรถมือสองที่ดีต้องอาศัยความรอบคอบและความละเอียดในการดูรถมือสอง การทำตามขั้นตอนที่แนะนำข้างต้นจะช่วยให้คุณได้รถมือสองที่มีคุณภาพดีและคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป อย่าลืมว่าการขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญหรือช่างที่ไว้ใจได้ในการตรวจสอบรถก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี ที่จะช่วยให้คุณมั่นใจมากขึ้นในการตัดสินใจซื้อรถมือสอง สุดท้ายนี้ ขอให้คุณโชคดีในการเลือกซื้อรถมือสองคันที่ใช่และตอบโจทย์การใช้งานของคุณมากที่สุด!

สำหรับใครที่ต้องการเงินด่วน สินเชื่อรถแลกเงินเป็นหนึ่งในคำตอบและวิธีการที่ดีที่สุดของคุณ กับเงินให้ใจที่มีความน่าเชื่อถือ และบริษัท เงินให้ใจ จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสามารถขอใช้บริการได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คำนวณวงเงินสินเชื่อและสมัครสินเชื่อได้ทันทีที่ เงินให้ใจ

“กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนรถ 12.82% - 24.00% สินเชื่อโอนเล่มทะเบียนรถ แบ่งเป็นกรณีบุคคลธรรมดามีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการส่วนตัว 6.08% - 15.00% และกรณีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ 6.08% - 26.62%”

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Website : https://www.ngernhaijai.com/

Line : https://bit.ly/3zDd5Kz

เงินให้ใจ โทร : 02 078 8899

เผยแพร่ 16 ส.ค. 2567

บทความอื่น ๆ

สินเชื่อธุรกิจ

5 สัญญาณที่บอกว่าได้เวลาอัปเกรดร้าน ก่อนจะพังเพราะอยู่ที่เดิมนานเกินไป

ลูกค้าหาย ยอดขายตก? เช็ก 5 สัญญาณเตือนว่าถึงเวลาต้องอัปเกรดร้าน รีแบรนด์ หรือปิดปรับปรุง เพื่อปรับตัวก่อนธุรกิจจะพังเพราะอยู่กับที่นานเกินไป

เผยแพร่ 15 ส.ค. 2568

สต๊อกสินค้า

อัปเกรดร้านให้สต๊อกเป๊ะ! เก็บของเป็นระเบียบ ขายออนไลน์ไม่มีสะดุด

จัดการสต๊อกสินค้าให้เป๊ะเหมือนมืออาชีพ! รวมเทคนิคอัปเกรดระบบหลังบ้าน จัดระเบียบสต๊อก ลดของหาย เพิ่มยอดขายได้ทันที

เผยแพร่ 15 ส.ค. 2568

เสียงรถ

ได้ยินเสียงแปลกจากรถ? เช็ก 5 สัญญาณก่อนพังยับ เสียทั้งรถ เสียทั้งเงิน

ได้ยิน เสียงเครื่องยนต์ดังแก๊กๆ, เสียงรถอื้อๆ, หรือ เสียงช่วงล่างเอี๊ยดๆ? รวม 5 เสียงแปลกจากรถที่ไม่ควรเมิน ถ้าไม่อยากเจอค่าซ่อมหลักหมื่น!

เผยแพร่ 15 ส.ค. 2568