

วิธีจัดการรายรับ-รายจ่าย เมื่อต้องผ่อนทั้งบ้านและรถ
บ้านก็ผ่อน รถก็ต้องผ่อน แล้วจะบริหารการเงินอย่างไรดี? ในยุคที่ค่าครองชีพสูงขึ้น การแบกรับภาระผ่อนทั้งบ้านและรถพร้อมกันอาจสร้างความเครียดให้กับหลายคน โดยเฉพาะเมื่อรายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย บทความนี้ เงินให้ใจจะแนะนำวิธีจัดการรายรับ-รายจ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้คุณสามารถผ่อนหนี้ได้ครบถ้วนตามกำหนดโดยไม่กระทบกับคุณภาพชีวิต
สัญญาณเตือนว่าคุณอาจกำลังมีปัญหาทางการเงิน เงินไม่พอใช้
การรู้ทันสัญญาณเตือนจะช่วยให้คุณแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงทีก่อนที่จะลุกลามบานปลาย
1. เงินไม่พอใช้จนถึงสิ้นเดือน : หากคุณต้องใช้บัตรเครดิตหรือกู้ยืมเพื่อซื้อของจำเป็นในช่วงปลายเดือน
2. จ่ายแค่ยอดขั้นต่ำของบัตรเครดิต : นี่เป็นสัญญาณว่าคุณกำลังมีปัญหาสภาพคล่อง
3. ค้างชำระค่างวด : การค้างชำระค่างวด ค้างค่างวดรถแม้เพียงเดือนเดียวอาจส่งผลต่อประวัติเครดิตของคุณ
4. ใช้เงินเก็บเพื่อชำระค่างวด : หากต้องใช้เงินเก็บเพื่อชำระค่างวดเป็นประจำ แสดงว่ารายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย
5. มีความเครียดเรื่องการเงิน : ความเครียดเรื่องเงินส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและความสัมพันธ์
เข้าใจสถานการณ์ทางการเงินของคุณ
ก่อนที่จะเริ่มวางแผนจัดการการเงิน คุณต้องเข้าใจสถานการณ์ทางการเงินของตัวเองอย่างชัดเจนก่อน
1. จัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายอย่างละเอียด
การทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายเป็นกฎเหล็กของการบริหารการเงิน เพราะจะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมว่าเงินถูกใช้ไปกับอะไรบ้าง โดยควรแบ่งรายจ่ายออกเป็น
- รายจ่ายประจำ (จำเป็น) : ค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถ ค่าสาธารณูปโภค ค่าประกัน
- รายจ่ายไม่ประจำ : ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าสังสรรค์ ค่าช้อปปิ้ง
เมื่อรู้ตัวเลขที่แท้จริงแล้ว คุณจะสามารถระบุได้ว่ามีรายจ่ายส่วนไหนที่สามารถลดลงหรือตัดทิ้งได้โดยไม่กระทบต่อคุณภาพชีวิตมากนัก
2. คำนวณอัตราส่วนภาระหนี้ต่อรายได้ (Debt Service Ratio)
อัตราส่วนภาระหนี้ต่อรายได้ควรอยู่ที่ไม่เกิน 40% ของรายได้สุทธิต่อเดือน หากเกินกว่านี้ คุณอาจกำลังเผชิญกับความเสี่ยงทางการเงิน
วิธีคำนวณ : (ค่าผ่อนบ้าน + ค่าผ่อนรถ + หนี้อื่นๆ) ÷ รายได้สุทธิต่อเดือน × 100
กลยุทธ์การจัดการรายจ่ายเมื่อต้องผ่อนทั้งบ้านและรถ
1. จัดลำดับความสำคัญของการชำระหนี้
เมื่อต้องผ่อนทั้งบ้านและรถ คุณควรจัดลำดับความสำคัญของการชำระหนี้ดังนี้
- หนี้ที่มีหลักประกัน : บ้านและรถถือเป็นหนี้ที่มีหลักประกัน หากค้างชำระบ้าน หรือค้างค่างวดรถ ทรัพย์สินอาจถูกยึด ดังนั้นควรให้ความสำคัญกับการชำระหนี้เหล่านี้ก่อน
- หนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง : หากมีหนี้หลายก้อน ควรพยายามจ่ายหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงให้หมดก่อน เพื่อลดภาระดอกเบี้ย
2. กำหนดค่าใช้จ่ายรายวัน
การกำหนดค่าใช้จ่ายรายวันเป็นวิธีที่ช่วยควบคุมการใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะสำหรับคนที่ไม่ชอบจดบันทึกรายละเอียดมากนัก
- หลังจากหักรายจ่ายประจำและเงินออมแล้ว ให้นำเงินที่เหลือมาหารด้วยจำนวนวันในเดือน
- ใช้จ่ายไม่เกินจำนวนที่กำหนดในแต่ละวัน
- หากวันไหนใช้น้อยกว่าที่กำหนด สามารถนำไปสะสมไว้ใช้ในวันอื่นได้
3. ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
การตัดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเป็นวิธีที่รวดเร็วที่สุดในการเพิ่มเงินเหลือ และลดปัญหาเงินไม่พอใช้ พิจารณาลดค่าใช้จ่ายต่อไปนี้
- แพ็กเกจโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต : ปรับลดให้เหมาะกับการใช้งานจริง
- ค่าสมาชิกที่ไม่จำเป็น : ฟิตเนส สตรีมมิ่ง หรือแอปพลิเคชันต่างๆ ที่ไม่ค่อยได้ใช้
- ค่าอาหารนอกบ้าน : ลดความถี่ในการกินข้าวนอกบ้าน ทำอาหารเองมากขึ้น
- ค่าเดินทาง : พิจารณาใช้ระบบขนส่งสาธารณะแทนการขับรถส่วนตัวเพื่อประหยัดค่าน้ำมัน
4. แบ่งเงินออมทันทีที่เงินเดือนเข้า
การแบ่งเงินออมทันทีที่เงินเดือนเข้าเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างวินัยและบริหารการเงิน
- ตั้งค่าหักบัญชีอัตโนมัติไปยังบัญชีออมทรัพย์ทันทีที่เงินเดือนเข้า
- ควรออมอย่างน้อย 10% ของรายได้หรือตามกำลังที่ออมไหว
- เงินออมนี้จะเป็นเงินสำรองฉุกเฉินเมื่อต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายไม่คาดฝัน
ทางเลือกสำหรับการจัดการภาระผ่อนที่หนักเกินไป
หากพบว่าภาระการผ่อนหนี้หนักเกินไป นี่คือทางเลือกที่ควรพิจารณา
1. ขอปรับโครงสร้างหนี้
การขอปรับโครงสร้างหนี้เป็นทางเลือกที่ดีเมื่อคุณเริ่มมีปัญหาในการผ่อนหนี้ โดยคุณสามารถ
- ขยายระยะเวลาการผ่อนชำระ : ทำให้ค่างวดต่อเดือนลดลง แม้ว่าจะต้องจ่ายดอกเบี้ยรวมมากขึ้น
- ขอลดอัตราดอกเบี้ย : บางสถาบันการเงินอาจยินดีปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง โดยเฉพาะหากคุณเป็นลูกค้าที่มีประวัติการชำระดี
2. ขอรีไฟแนนซ์
การรีไฟแนนซ์เป็นการย้ายหนี้ไปยังสถาบันการเงินที่ให้เงื่อนไขดีกว่า โดยมีทางเลือก 2 ทางคือการรีไฟแนนซ์บ้านและรีไฟแนนซ์รถ
- รีไฟแนนซ์บ้าน : หากอัตราดอกเบี้ยในตลาดลดลง การรีไฟแนนซ์บ้านอาจช่วยลดค่างวดได้
- รีไฟแนนซ์รถ : พิจารณารีไฟแนนซ์รถหากพบข้อเสนอที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า เพื่อไม่ให้ค้างค่างวดรถ
3. พิจารณาขายทรัพย์สินบางส่วน
ในกรณีที่ภาระหนี้หนักมาก การขายทรัพย์สินบางส่วนอาจเป็นทางเลือกที่จำเป็น
- ขายรถ : หากมีรถหลายคัน พิจารณาขายคันที่มีค่าใช้จ่ายสูงและเปลี่ยนเป็นรถที่ประหยัดกว่า
- ย้ายไปบ้านที่เล็กลง : หากบ้านปัจจุบันมีขนาดใหญ่เกินความจำเป็น อาจพิจารณาขายและซื้อบ้านขนาดเล็กลง
เทคนิคเพิ่มรายได้เพื่อช่วยในการผ่อนชำระ
นอกจากการลดรายจ่ายแล้ว การเพิ่มรายได้ก็เป็นอีกวิธีที่จะช่วยให้คุณผ่อนชำระได้สบายขึ้น เช่น
1. หารายได้เสริม
- งานฟรีแลนซ์ : ใช้ทักษะที่มีอยู่ในการรับงานพิเศษ เช่น การเขียน การแปล การออกแบบ
- ขายของออนไลน์ : ใช้เวลาว่างในการขายสินค้าหรือบริการออนไลน์
- ให้เช่าพื้นที่หรือทรัพย์สิน : หากบ้านมีพื้นที่เหลือ อาจพิจารณาให้เช่าเพื่อสร้างรายได้เพิ่ม
2. พัฒนาทักษะเพื่อเพิ่มโอกาสในการเลื่อนตำแหน่งหรือเปลี่ยนงาน
- เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ที่เป็นที่ต้องการในตลาด
- เข้าร่วมการอบรมหรือสัมมนาเพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถ
- สร้างเครือข่ายทางวิชาชีพเพื่อเพิ่มโอกาสในการหางานที่ดีกว่า
สรุป
การผ่อนทั้งบ้านและรถในเวลาเดียวกันเป็นภาระทางการเงินที่หนัก แต่ด้วยการวางแผนที่ดี การจัดการรายรับ-รายจ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ บริหารการเงิน และการสร้างวินัยทางการเงิน คุณสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้
หากคุณกำลังประสบปัญหาในการผ่อนหนี้ หรือเงินไม่พอใช้ อย่าลังเลที่จะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินหรือติดต่อสถาบันการเงินเพื่อหาทางออกร่วมกัน เพราะการแก้ไขปัญหาทางการเงินนั้นไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว แต่ต้องปรับให้เหมาะกับสถานการณ์ของแต่ละบุคคล
สำหรับใครที่ต้องการเงินด่วน สินเชื่อรถแลกเงินเป็นหนึ่งในคำตอบและวิธีการที่ดีที่สุดของคุณ กับเงินให้ใจที่มีความน่าเชื่อถือจากบริษัท เงินให้ใจ จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสามารถขอใช้บริการได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คำนวณวงเงินสินเชื่อและสมัครสินเชื่อได้ทันทีที่ https://www.ngernhaijai.com/
“กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนรถ 12.82% - 24.00% สินเชื่อโอนเล่มทะเบียนรถ แบ่งเป็นกรณีบุคคลธรรมดามีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการส่วนตัว 6.08% - 15.00% และกรณีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ 6.08% - 26.62%”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.ngernhaijai.com/
Line : https://bit.ly/3zDd5Kz
เงินให้ใจ โทร : 02 078 8899
เผยแพร่ 19 มี.ค. 2568
บทความอื่น ๆ

จัดพอร์ตการเงินยังไงให้ไม่เจ๊ง! ปลอดภัยแต่โตได้ในยุคเสี่ยง
จัดพอร์ตการเงินแบบปลอดภัยแต่โตได้ เรียนรู้เทคนิคบริหารเงินที่ช่วยสร้างความมั่นคงทางการเงินส่วนบุคคล พร้อมกลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสำหรับยุคเศรษฐกิจผันผวน
เผยแพร่ 19 มิ.ย. 2568

เงินเฟ้อ 2025 มาหนักแน่! วางแผนการเงินยังไงให้รอดทุกสภาพเศรษฐกิจ
เงินเฟ้อ 2025 จะส่งผลกระทบยังไง? เงินเฟ้อคืออะไร และวางแผนการเงินอย่างไรให้รอดทุกสภาพเศรษฐกิจ จากเงินให้ใจ
เผยแพร่ 19 มิ.ย. 2568

เจาะลึกหนี้ครัวเรือนไทย ทำไมเราถึงติดกับดักหนี้กันทุกปี?
หนี้ครัวเรือนไทยอยู่ในระดับสูง ทำไมคนไทยยังติดกับดัก? วิเคราะห์สาเหตุและแนวทางแก้หนี้อย่างยั่งยืน จากเงินให้ใจ
เผยแพร่ 19 มิ.ย. 2568