วางแผน เกษียณ หลังเกษียณ ทําอะไรดี

8 ค่าใช้จ่ายที่คนใกล้เกษียณต้องรู้! วางแผนก่อน เงินไม่สะดุด

หลายคนวางแผนเกษียณด้วยการเก็บออมเงินก้อนใหญ่และคาดหวังว่าจะใช้ชีวิตหลังเกษียณอย่างสบาย แต่สิ่งที่มักถูกมองข้ามคือค่าใช้จ่ายที่แท้จริงในวัยเกษียณ ซึ่งอาจแตกต่างจากช่วงทำงานอย่างมีนัยสำคัญ การไม่เตรียมพร้อมสำหรับค่าใช้จ่ายเหล่านี้อาจทำให้เงินเกษียณที่เตรียมไว้หมดเร็วกว่าที่คาดการณ์ บทความนี้ เงินให้ใจจะพาคุณไปรู้จักกับ 8 ค่าใช้จ่ายหลักที่คนใกล้เกษียณต้องคำนึงถึง พร้อมเคล็ดลับในการวางแผนรับมืออย่างชาญฉลาด เพื่อให้ชีวิตหลังเกษียณเป็นไปอย่างราบรื่นและมั่นคงทางการเงิน

วางแผน เกษียณ

1. ค่ารักษาพยาบาลและประกันสุขภาพ

ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และมักเพิ่มขึ้นตามอายุ โดยเฉพาะหลังเกษียณเมื่อร่างกายเริ่มเสื่อมถอยและมีความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ มากขึ้น

สิ่งที่ต้องเตรียม :

- ค่ารักษาพยาบาลประจำ: ยาประจำตัว การตรวจสุขภาพประจำปี และการรักษาโรคเรื้อรัง

- ค่าประกันสุขภาพ: เบี้ยประกันที่มักเพิ่มขึ้นตามอายุ

- ค่าใช้จ่ายฉุกเฉินทางการแพทย์: การผ่าตัด การรักษาโรคร้ายแรง

เคล็ดลับการวางแผน :

- ทำประกันสุขภาพตั้งแต่อายุยังน้อย เพื่อล็อคเบี้ยประกันที่ต่ำกว่า

- พิจารณาโปรแกรมประกันเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุ

- ศึกษาสิทธิประกันสังคม หรือสิทธิข้าราชการบำนาญที่คุณมี

- สำรองเงินสำหรับค่ารักษาพยาบาลโดยเฉพาะ อย่างน้อย 10-15% ของเงินออมเพื่อการเกษียณ

2. ค่าครองชีพและเงินเฟ้อ

เงินเฟ้อเป็นศัตรูตัวฉกาจของผู้เกษียณ เพราะทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้นในขณะที่รายได้คงที่หรือลดลง การไม่คำนึงถึงผลกระทบของเงินเฟ้ออาจทำให้เงินออมมีมูลค่าลดลงอย่างมีนัยสำคัญในระยะยาว

สิ่งที่ต้องเตรียม :

- ค่าอาหารและของใช้ประจำวัน: ที่มีแนวโน้มราคาสูงขึ้นทุกปี

- ค่าสาธารณูปโภค: ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเทอร์เน็ต

- ค่าเดินทาง: น้ำมันรถ ค่าโดยสารสาธารณะ ค่าบำรุงรักษารถยนต์

เคล็ดลับการวางแผน :

- คำนวณค่าใช้จ่ายโดยคำนึงถึงอัตราเงินเฟ้อประมาณ 2-3% ต่อปี

- ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีโอกาสเติบโตมากกว่าอัตราเงินเฟ้อ

- พิจารณาปรับลดค่าครองชีพ เช่น ย้ายไปอยู่ในพื้นที่ที่มีค่าครองชีพต่ำกว่า

- วางแผนการใช้จ่ายแบบ "4% Rule" คือใช้เงินไม่เกิน 4% ของเงินออมทั้งหมดในแต่ละปี

3. ค่าที่อยู่อาศัย

ที่อยู่อาศัยเป็นค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่สำหรับทุกช่วงวัย และยังคงเป็นภาระสำคัญแม้หลังเกษียณ ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของบ้านหรือเช่าอยู่

สิ่งที่ต้องเตรียม :

- ค่าผ่อนบ้าน: หากยังผ่อนไม่หมดก่อนเกษียณ

- ค่าซ่อมแซมและบำรุงรักษาบ้าน: บ้านที่อายุมากขึ้นมักต้องการการซ่อมแซมมากขึ้น

- ค่าเช่า: หากไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง

- ค่าส่วนกลาง: สำหรับผู้ที่อาศัยในคอนโดหรือหมู่บ้านจัดสรร

- ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

เคล็ดลับการวางแผน :

- พยายามปลดหนี้บ้านให้หมดก่อนเกษียณ

- พิจารณาการขายบ้านหลังใหญ่เพื่อย้ายไปอยู่ในที่เล็กลงหรือมีค่าบำรุงรักษาต่ำกว่า

- สำรองเงินสำหรับการซ่อมแซมบ้านใหญ่ทุก 5-10 ปี

- ศึกษาทางเลือกเช่น บ้านพักผู้สูงอายุ หรือการย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดที่ค่าครองชีพต่ำกว่า

4. ภาษีและการวางแผนภาษี

หลายคนเข้าใจผิดว่าหลังเกษียณจะไม่ต้องเสียภาษีอีก แต่ความจริงแล้ว ผู้เกษียณยังคงมีภาระภาษีจากแหล่งรายได้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเงินบำนาญ ดอกเบี้ย เงินปันผล หรือรายได้จากการลงทุน

สิ่งที่ต้องเตรียม :

- ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา: จากเงินบำนาญหรือรายได้อื่นๆ

- ภาษีเงินได้จากการลงทุน: ดอกเบี้ย เงินปันผล กำไรจากการขายหลักทรัพย์

- ภาษีการถอนเงินจากกองทุน: เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนรวมเพื่อการเกษียณ โดยตรวจสอบเงื่อนไขการถอนเงินจากกองทุนเกษียณ เช่น RMF หรือ PVD หากทำถูกต้องอาจไม่ต้องเสียภาษีเลย

เคล็ดลับการวางแผน :

- วางแผนการถอนเงินจากกองทุนต่างๆ ให้เกิดประโยชน์ทางภาษีสูงสุด

- ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีสำหรับผู้สูงอายุ

- พิจารณาการลงทุนในสินทรัพย์ที่ได้รับการยกเว้นภาษี เช่น พันธบัตรรัฐบาลบางประเภท

- ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีเพื่อวางแผนการจัดการทรัพย์สินอย่างมีประสิทธิภาพ

5. การดูแลระยะยาว

ค่าใช้จ่ายในการดูแลระยะยาวเป็นสิ่งที่หลายคนมองข้าม แต่เป็นค่าใช้จ่ายที่อาจสูงมากในช่วงบั้นปลายชีวิต โดยเฉพาะหากมีปัญหาสุขภาพที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ

สิ่งที่ต้องเตรียม :

- ค่าจ้างผู้ดูแล: หากไม่สามารถดูแลตัวเองได้

- ค่าบ้านพักผู้สูงอายุ: หากจำเป็นต้องอยู่ในสถานดูแล

- ค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์: เช่น รถเข็น เตียงพิเศษ อุปกรณ์ช่วยเดิน

เคล็ดลับการวางแผน :

- ศึกษาทางเลือกการวางแผน Long-term care เช่น ประกันโรคร้ายแรง การเตรียมเงินสำรองเฉพาะด้าน หรือบริการภาครัฐ/เอกชนที่มี

- สร้างเครือข่ายสนับสนุนจากครอบครัวและชุมชน

- ศึกษาบริการดูแลผู้สูงอายุของรัฐที่อาจมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าเอกชน

- สำรองเงินสำหรับการดูแลระยะยาวโดยเฉพาะ ประมาณ 20% ของเงินออมเพื่อการ เกษียณ

6. การท่องเที่ยวและงานอดิเรก

ช่วงหลังเกษียณเป็นเวลาที่หลายคนต้องการทำสิ่งที่เคยผัดผ่อนระหว่างทำงาน โดยเฉพาะการท่องเที่ยวและงานอดิเรก ซึ่งอาจกลายเป็นค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ที่ไม่ได้วางแผนไว้

สิ่งที่ต้องเตรียม :

- ค่าท่องเที่ยว: ทั้งในและต่างประเทศ

- ค่าอุปกรณ์งานอดิเรก: เช่น กอล์ฟ ถ่ายภาพ ทำสวน

- ค่าเรียนรู้ทักษะใหม่: คอร์สเรียนต่างๆ สำหรับผู้สูงวัย

เคล็ดลับการวางแผน :

- ตั้งงบประมาณเฉพาะสำหรับการท่องเที่ยวและงานอดิเรก

- วางแผนการท่องเที่ยวในช่วง Low Season เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย

- ใช้สิทธิส่วนลดสำหรับผู้สูงอายุตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ

- เลือกงานอดิเรกที่สร้างความสุขโดยไม่สิ้นเปลืองมากเกินไป

7. การช่วยเหลือครอบครัว

หลายครอบครัวในไทยยังมีวัฒนธรรมที่ผู้สูงอายุต้องช่วยเหลือลูกหลาน ไม่ว่าจะเป็นค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่ายในการแต่งงาน หรือการซื้อบ้าน ซึ่งอาจกลายเป็นภาระทางการเงินที่ไม่ได้คาดคิด

สิ่งที่ต้องเตรียม :

- ค่าการศึกษาของหลาน

- เงินช่วยเหลือฉุกเฉินสำหรับลูกหลาน

- ค่าใช้จ่ายในการดูแลพ่อแม่ที่อายุมากกว่า

เคล็ดลับการวางแผน :

- กำหนดขอบเขตการช่วยเหลือทางการเงินที่ชัดเจน

- สื่อสารกับครอบครัวเรื่องข้อจำกัดทางการเงินหลังเกษียณ

- แยกเงินออมสำหรับการช่วยเหลือครอบครัวออกจากเงินเกษียณหลัก

- พิจารณาทางเลือกอื่นๆ ในการช่วยเหลือ เช่น การให้คำปรึกษาแทนการช่วยเหลือทางการเงิน

8. มรดกและการวางแผนทรัพย์สิน

การวางแผนมรดกและการจัดการทรัพย์สินเป็นอีกเรื่องสำคัญที่ควรพิจารณา เพื่อให้มั่นใจว่าทรัพย์สินของคุณจะถูกส่งต่อตามความประสงค์ และแม้จะไม่ใช่ทุกคนที่ต้องเสียภาษีมรดก แต่ควรวางแผนทรัพย์สินล่วงหน้า เช่น การทำพินัยกรรม โอนทรัพย์ล่วงหน้า หรือตั้งกองมรดกเพื่อให้การส่งต่อเป็นไปตามความประสงค์

สิ่งที่ต้องเตรียม :

- ค่าทำพินัยกรรม: การจัดการทางกฎหมาย

- ค่าที่ปรึกษาด้านการวางแผนมรดก

- ค่าธรรมเนียมการโอนทรัพย์สิน

เคล็ดลับการวางแผน :

- จัดทำพินัยกรรมและระบุผู้รับผลประโยชน์ให้ชัดเจน

- พิจารณาการโอนทรัพย์สินบางส่วนให้ทายาทตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ เพื่อลดภาษี

- ตั้งทรัสต์หรือกองทุนเพื่อจัดการทรัพย์สินหลังเสียชีวิต

- ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนมรดกและภาษี

เคล็ดลับสำคัญในการวางแผนค่าใช้จ่ายหลังเกษียณ

1. จัดทำงบประมาณที่ละเอียดและสมจริง

ก่อนที่จะเกษียณควรจัดทำงบประมาณที่ละเอียดและสมจริง โดยแบ่งค่าใช้จ่ายเป็นหมวดหมู่ต่างๆ ดังนี้

- ค่าใช้จ่ายจำเป็น : ที่อยู่อาศัย อาหาร สาธารณูปโภค การรักษาพยาบาล

- ค่าใช้จ่ายยืดหยุ่น : ท่องเที่ยว งานอดิเรก สันทนาการ

- ค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน : สำรองไว้สำหรับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

2. สร้างแหล่งรายได้หลายทาง

การมีแหล่งรายได้หลายทางจะช่วยลดความเสี่ยงและสร้างความมั่นคงทางการเงินหลังเกษียณได้ดีกว่า

- เงินบำนาญ : จากกองทุนประกันสังคม กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)

- เงินปันผลจากการลงทุน : หุ้น กองทุนรวม อสังหาริมทรัพย์ให้เช่า

- รายได้จากงานพาร์ทไทม์หรือธุรกิจขนาดเล็ก : ตามความถนัดและความสนใจ

3. สร้างกองทุนฉุกเฉิน

นอกเหนือจากเงินเกษียณหลัก ควรมีกองทุนฉุกเฉินที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายเพื่อรองรับค่าใช้จ่ายฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้น

- สำรองเงินสดไว้อย่างน้อย 6-12 เดือนของค่าใช้จ่ายรายเดือน

- เก็บในบัญชีที่มีสภาพคล่องสูง เช่น บัญชีออมทรัพย์ หรือกองทุนรวมตลาดเงิน

- แยกบัญชีนี้ออกจากเงินลงทุนระยะยาว

4. ทบทวนและปรับแผนการเงินอย่างสม่ำเสมอ

สถานการณ์ทางการเงินและค่าใช้จ่ายอาจเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา จึงควรทบทวนและปรับแผนการเงินอย่างสม่ำเสมอ

- ตรวจสอบแผนการเงินอย่างน้อยปีละครั้ง

- ปรับเปลี่ยนการลงทุนตามสภาวะตลาดและความเสี่ยงที่ยอมรับได้

- ปรับงบประมาณตามอัตราเงินเฟ้อและการเปลี่ยนแปลงของค่าใช้จ่ายจริง

สรุป

การวางแผนสำหรับค่าใช้จ่ายหลังเกษียณอย่างรอบคอบเป็นกุญแจสำคัญสู่การมีชีวิตบั้นปลายที่มั่นคงและมีความสุข การรู้และเข้าใจค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นจะช่วยให้คุณสามารถวางแผนการเงินได้อย่างเหมาะสม และหลีกเลี่ยงการเผชิญกับปัญหาทางการเงินที่ไม่คาดคิด

ไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงใดของการวางแผนเกษียณ การเริ่มต้นเตรียมพร้อมไว้แต่เนิ่นๆ จะช่วยให้คุณมีเวลาในการปรับแผนและสะสมเงินออมที่เพียงพอ จำไว้ว่า การวางแผนที่ดีคือการคาดการณ์ค่าใช้จ่ายอย่างสมจริง และเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น

สำหรับใครที่ต้องการกู้สินเชื่อ สินเชื่อรถแลกเงินเป็นหนึ่งในคำตอบและวิธีการที่ดีที่สุดของคุณ กับเงินให้ใจที่มีความน่าเชื่อถือจากบริษัท เงินให้ใจ จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการ สินเชื่อรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสามารถขอใช้บริการได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คำนวณวงเงินสินเชื่อและสมัครสินเชื่อได้ทันทีที่ https://www.ngernhaijai.com/

“กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนรถ 12.82% - 24.00% สินเชื่อโอนเล่มทะเบียนรถ แบ่งเป็นกรณีบุคคลธรรมดามีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการส่วนตัว 6.08% - 15.00% และกรณีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ 6.08% - 26.62%”

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Website : https://www.ngernhaijai.com/

Line : https://bit.ly/3zDd5Kz

เงินให้ใจ โทร : 02 078 8899

เผยแพร่ 15 ส.ค. 2568

บทความอื่น ๆ

เงินเฟ้อ

เงินเฟ้อพุ่ง รายได้เท่าเดิม! อัพเกรดการเงินส่วนตัวยังไงให้อยู่รอด

เงินเฟ้อทำค่าครองชีพสูงขึ้น แต่รายได้ยังเท่าเดิม? เรียนรู้ 3 วิธีอัพเกรดการเงินส่วนตัว ปรับแผนการเงิน เพิ่มรายได้ และลงทุนป้องกันเงินเฟ้อให้อยู่รอด

เผยแพร่ 12 ก.ย. 2568

หนี้บัตรเครดิต

หนี้บ้าน หนี้รถ หนี้บัตรมาเต็ม! จัดการยังไง ปลดหนี้ไหนก่อนดี?

เรียนรู้วิธีแยกประเภทหนี้ดีและหนี้ที่ควรระวัง พร้อมเทคนิคประเมินความพร้อมทางการเงินก่อนตัดสินใจก่อหนี้ เพื่อให้หนี้เป็นเครื่องมือสร้างโอกาสอย่างชาญฉลาด

เผยแพร่ 12 ก.ย. 2568

หนี้

เช็กก่อนกู้: รู้จักหนี้ วางแผนดี ไม่มีพัง

เรียนรู้วิธีแยกประเภทหนี้ดีและหนี้ที่ควรระวัง พร้อมเทคนิคประเมินความพร้อมทางการเงินก่อนตัดสินใจก่อหนี้ เพื่อให้หนี้เป็นเครื่องมือสร้างโอกาสอย่างชาญฉลาด

เผยแพร่ 12 ก.ย. 2568