

เป็นหนี้เท่าไหร่ถึงโดนอายัดเงินเดือน? รู้ก่อนจะได้ไม่โดนยึดแบบไม่ทันตั้งตัว
ในยุคที่ค่าครองชีพสูงขึ้น หลายคนจำเป็นต้องก่อหนี้เพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นหนี้บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล หรือหนี้ประเภทอื่นๆ แต่หากไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด ความเสี่ยงที่จะโดนอายัดบัญชีหรือถูกยึดทรัพย์ก็จะสูงขึ้น คำถามที่หลายคนสงสัยคือ เป็นหนี้เท่าไหร่ถึงโดนยึดทรัพย์ และ ยอดหนี้เท่าไหร่ถึงฟ้องศาลได้ บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับเงื่อนไขและกระบวนการที่เจ้าหนี้สามารถฟ้องร้องและนำไปสู่การอายัดบัญชีหรือเงินเดือน พร้อมทั้งเรียนรู้กฎหมายใหม่ บังคับคดีบัตรเครดิตเพื่อให้คุณสามารถวางแผนและรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม
เป็นหนี้เท่าไหร่ถึงโดนฟ้องร้องดำเนินคดี?
ความเข้าใจผิดที่พบบ่อยคือ หลายคนเชื่อว่าต้องมียอดหนี้สูงถึงระดับหนึ่งถึงจะถูกฟ้องร้อง แต่ความจริงแล้ว ไม่มีการกำหนดวงเงินขั้นต่ำสำหรับการฟ้องร้องในกฎหมายไทย เจ้าหนี้สามารถฟ้องร้องลูกหนี้ได้ทันทีที่ผิดนัดชำระหนี้ แต่ในทางปฏิบัติ สถาบันการเงินและเจ้าหนี้มักมีเกณฑ์ภายในที่พิจารณาถึงความคุ้มค่าในการดำเนินคดี
ขั้นตอนก่อนการฟ้องร้อง
ก่อนที่เจ้าหนี้จะฟ้องร้องดำเนินคดีกับลูกหนี้ มักจะมีการดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้
1. ทวงถามทางโทรศัพท์ : เจ้าหนี้จะติดต่อทวงถามหนี้ทางโทรศัพท์ก่อน
2. ส่งจดหมายทวงถาม : หากยังไม่ชำระ จะมีการส่งจดหมายทวงถามอย่างเป็นทางการ
3. หนังสือทวงถามและบอกเลิกสัญญา : เป็นการแจ้งเตือนครั้งสุดท้ายก่อนฟ้องร้อง
4. ฟ้องร้องดำเนินคดี : หากยังไม่มีการชำระหนี้หรือเจรจาผ่อนผัน เจ้าหนี้จะดำเนินการฟ้องร้อง
กระบวนการหลังจากถูกฟ้องร้อง
เมื่อถูกฟ้องร้องดำเนินคดีแล้ว จะมีขั้นตอนต่างๆ ดังนี้
1. การส่งหมายเรียก : ศาลจะออกหมายเรียกให้ลูกหนี้มาศาลเพื่อไกล่เกลี่ยหรือต่อสู้คดี
2. การพิจารณาคดี : หากไม่สามารถไกล่เกลี่ยได้ ศาลจะพิจารณาคดีและมีคำพิพากษา
3. คำพิพากษา : หากศาลพิพากษาให้ลูกหนี้แพ้คดี จะต้องชำระหนี้ตามคำพิพากษา
4. การบังคับคดี : หากลูกหนี้ไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา เจ้าหนี้สามารถยื่นคำร้องขอให้มีการบังคับคดีได้
เป็นหนี้เท่าไหร่ถึงโดนอายัดบัญชีและเงินเดือน?
การอายัดบัญชีหรือเงินเดือน เป็นหนึ่งในมาตรการบังคับคดีที่เจ้าหนี้สามารถดำเนินการได้หลังจากที่ศาลมีคำพิพากษาแล้ว ไม่มีการกำหนดยอดหนี้ขั้นต่ำสำหรับการอายัดทรัพย์สิน แต่ต้องผ่านกระบวนการฟ้องร้องและได้รับคำพิพากษาจากศาลก่อน
เงื่อนไขในการอายัดบัญชีและเงินเดือน
1. ต้องมีคำพิพากษาถึงที่สุด : เจ้าหนี้ต้องชนะคดีและได้รับคำพิพากษาจากศาลให้ลูกหนี้ชำระหนี้
2. ต้องมีหมายบังคับคดี : เจ้าพนักงานบังคับคดีต้องออกหมายบังคับคดีเพื่อดำเนินการอายัดทรัพย์สิน
3. ต้องทราบข้อมูลบัญชีหรือที่ทำงานของลูกหนี้ : เจ้าหนี้ต้องมีข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีธนาคารหรือสถานที่ทำงานของลูกหนี้
กฎหมายใหม่ บังคับคดีบัตรเครดิต สิ่งที่ควรรู้
ในปัจจุบัน มีการปรับปรุง กฎหมายใหม่ บังคับคดีบัตรเครดิต เพื่อให้มีความเหมาะสมและเป็นธรรมมากขึ้น โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้
1. การจำกัดอัตราดอกเบี้ยและค่าปรับ
ตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย สถาบันการเงินสามารถคิดดอกเบี้ยและค่าปรับรวมกันได้ไม่เกิน 16% ต่อปี (จากเดิม 20% ต่อปี) สำหรับหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน
2. การห้ามทบต้นดอกเบี้ย
สถาบันการเงินไม่สามารถคิดดอกเบี้ยทบต้นสำหรับหนี้ที่ผิดนัดชำระได้ ซึ่งช่วยลดภาระของลูกหนี้ที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด
3. อายุความในการฟ้องร้อง
หนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลมีอายุความ 2 ปี นับจากวันที่มีการผิดนัดชำระครั้งแรก เจ้าหนี้ต้องฟ้องร้องภายในระยะเวลาดังกล่าว
4. การคุ้มครองลูกหนี้ในกระบวนการบังคับคดี
ลูกหนี้ได้รับการคุ้มครองมากขึ้นในกระบวนการบังคับคดี เช่น การจำกัดการอายัดเงินเดือนตามสัดส่วนที่กฎหมายกำหนด และการยกเว้นการอายัดทรัพย์สินบางประเภทที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ
วิธีป้องกันและแก้ไขปัญหาเมื่อเสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้อง
1. เจรจาขอผ่อนผันหรือปรับโครงสร้างหนี้ หากคุณเริ่มมีปัญหาในการชำระหนี้ ให้ติดต่อเจ้าหนี้ทันทีเพื่อเจรจาขอผ่อนผันหรือปรับโครงสร้างหนี้
2. ขอเข้าร่วมโครงการช่วยเหลือลูกหนี้ หลายสถาบันการเงินมีโครงการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ประสบปัญหาทางการเงิน เช่น โครงการพักชำระหนี้ หรือโครงการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งอาจช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการถูกฟ้องร้องได้
3. จัดลำดับความสำคัญในการชำระหนี้ หากมีหนี้หลายประเภท ให้จัดลำดับความสำคัญในการชำระหนี้ โดยเน้นชำระหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงหรือหนี้ที่มีความเสี่ยงในการถูกฟ้องร้องสูงก่อน
4. หาแหล่งรายได้เพิ่มเติม พิจารณาหาแหล่งรายได้เพิ่มเติม เช่น งานพาร์ทไทม์ หรือการขายทรัพย์สินที่ไม่จำเป็น เพื่อนำเงินมาชำระหนี้และลดความเสี่ยงในการถูกฟ้องร้อง
5. ขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ หากปัญหาหนี้สินมีความซับซ้อน ควรขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินหรือทนายความที่มีความเชี่ยวชาญด้านหนี้สิน เพื่อหาทางออกที่เหมาะสม
สรุป
การถูกฟ้องร้องและอายัดบัญชีเป็นสถานการณ์ที่ไม่พึงประสงค์สำหรับทุกคน แต่ด้วยความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับกระบวนการและเงื่อนไขต่างๆ คุณสามารถประเมินความเสี่ยงและวางแผนป้องกันได้อย่างเหมาะสม
การเป็นหนี้ไม่ใช่สิ่งผิดกฎหมาย แต่การไม่รับผิดชอบต่อหนี้สินอาจนำไปสู่ผลกระทบทางกฎหมายและการเงินที่ร้ายแรง การเข้าใจเกี่ยวกับ "เป็นหนี้เท่าไหร่ถึงโดนยึดทรัพย์" "ยอดหนี้เท่าไหร่ถึงฟ้องศาลได้" และ "เป็นหนี้บัตรเครดิตเท่าไหร่ถึงโดนฟ้อง" จะช่วยให้คุณสามารถจัดการปัญหาหนี้สินได้อย่างมีประสิทธิภาพและหลีกเลี่ยงการถูกอายัดบัญชีหรือเงินเดือนแบบไม่ทันตั้งตัว
สำหรับใครที่ต้องการกู้สินเชื่อ สินเชื่อรถแลกเงินเป็นหนึ่งในคำตอบและวิธีการที่ดีที่สุดของคุณ กับเงินให้ใจที่มีความน่าเชื่อถือจากบริษัท เงินให้ใจ จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการ สินเชื่อรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสามารถขอใช้บริการได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คำนวณวงเงินสินเชื่อและสมัครสินเชื่อได้ทันทีที่ https://www.ngernhaijai.com/
“กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนรถ 12.82% - 24.00% สินเชื่อโอนเล่มทะเบียนรถ แบ่งเป็นกรณีบุคคลธรรมดามีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการส่วนตัว 6.08% - 15.00% และกรณีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ 6.08% - 26.62%”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.ngernhaijai.com/
Line : https://bit.ly/3zDd5Kz
เงินให้ใจ โทร : 02 078 8899
เผยแพร่ 15 ส.ค. 2568
บทความอื่น ๆ

เงินเฟ้อพุ่ง รายได้เท่าเดิม! อัพเกรดการเงินส่วนตัวยังไงให้อยู่รอด
เงินเฟ้อทำค่าครองชีพสูงขึ้น แต่รายได้ยังเท่าเดิม? เรียนรู้ 3 วิธีอัพเกรดการเงินส่วนตัว ปรับแผนการเงิน เพิ่มรายได้ และลงทุนป้องกันเงินเฟ้อให้อยู่รอด
เผยแพร่ 12 ก.ย. 2568

หนี้บ้าน หนี้รถ หนี้บัตรมาเต็ม! จัดการยังไง ปลดหนี้ไหนก่อนดี?
เรียนรู้วิธีแยกประเภทหนี้ดีและหนี้ที่ควรระวัง พร้อมเทคนิคประเมินความพร้อมทางการเงินก่อนตัดสินใจก่อหนี้ เพื่อให้หนี้เป็นเครื่องมือสร้างโอกาสอย่างชาญฉลาด
เผยแพร่ 12 ก.ย. 2568

เช็กก่อนกู้: รู้จักหนี้ วางแผนดี ไม่มีพัง
เรียนรู้วิธีแยกประเภทหนี้ดีและหนี้ที่ควรระวัง พร้อมเทคนิคประเมินความพร้อมทางการเงินก่อนตัดสินใจก่อหนี้ เพื่อให้หนี้เป็นเครื่องมือสร้างโอกาสอย่างชาญฉลาด
เผยแพร่ 12 ก.ย. 2568