เลี้ยงไก่ ปลูกผักแต่เงินช็อต? พลิกฟาร์มต่อได้ด้วย “สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ”

เลี้ยงไก่ ปลูกผัก ทำฟาร์มต่อเนื่อง แต่บางครั้งเงินทุนหมุนเวียนก็สะดุดเพราะค่าอาหารสัตว์ ค่าปุ๋ย ค่าน้ำมัน บางช่วงอาจเจอผลผลิตขายไม่ออก หรือราคาตกจน "เงินช็อต" ชั่วคราว กลายเป็นอุปสรรคใหญ่ของเกษตรกร แต่จริงๆ แล้ว ฟาร์มยังไปต่อได้ถ้าเรารู้จัก "พลิกเกมการเงิน" ให้ทันเวลา วันนี้ เงินให้ใจจึงมารวบรวมเทคนิคการบริหารการเงินสำหรับเกษตรกร พร้อมทั้งแนะนำทางเลือกในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ทำฟาร์มขนาดเล็ก

ความท้าทายของการทำเกษตรในปัจจุบัน

การปลูกผักและเลี้ยงไก่เป็นอาชีพดั้งเดิมของเกษตรกรไทยมาช้านาน แต่ในปัจจุบัน เกษตรกรต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย ทั้งต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น สภาพอากาศที่แปรปรวน และความผันผวนของราคาตลาด

เกษตรกรที่ทำฟาร์มขนาดเล็กมักประสบปัญหาเงินทุนหมุนเวียนไม่เพียงพอในบางช่วง โดยเฉพาะในช่วงที่ต้องลงทุนซื้อพันธุ์ไก่รุ่นใหม่ หรือช่วงเตรียมดินและเมล็ดพันธุ์สำหรับการปลูกผักรอบใหม่

ปัญหาสำคัญอีกประการคือ ช่วงระยะเวลารอคอยระหว่างการลงทุนกับการเก็บเกี่ยวผลผลิต การปลูกผักต้องรอประมาณ 1-3 เดือนกว่าจะได้เก็บเกี่ยวและมีรายได้ ขณะที่การเลี้ยงไก่ไข่ต้องรออย่างน้อย 5-6 เดือนกว่าไก่จะเริ่มให้ไข่ ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่เกษตรกรต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยยังไม่มีรายได้เข้ามา

5 วิธีพลิกฟื้นฟาร์มเมื่อประสบปัญหาเงินช็อต

1. จัดการต้นทุนใหม่ ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น

เกษตรกรที่ประสบความสำเร็จในการเลี้ยงไก่มักมีการทบทวนค่าใช้จ่ายรายเดือนอย่างสม่ำเสมอ ตรวจสอบค่าอาหารสัตว์ว่ามีวัตถุดิบใดที่สามารถผลิตเองได้บ้าง เช่น การปลูกพืชอาหารสัตว์เองบางส่วน หรือใช้เศษผักจากการปลูกผักมาเป็นอาหารเสริมสำหรับไก่

สำหรับการปลูกผัก การลดต้นทุนอาจทำได้โดยการทำปุ๋ยหมักใช้เองจากมูลไก่ในฟาร์ม ซึ่งนอกจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านปุ๋ยแล้ว ยังเป็นการจัดการของเสียในฟาร์มอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

2. ใช้เทคโนโลยีช่วยลดแรงงาน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

เทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่สามารถช่วยลดต้นทุนด้านแรงงานได้มาก เกษตรกรที่เลี้ยงไก่อาจลงทุนในระบบให้อาหารและน้ำอัตโนมัติ ซึ่งแม้จะมีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งแต่จะช่วยประหยัดเวลาและแรงงานในระยะยาว

สำหรับการปลูกผัก การใช้ระบบน้ำหยดหรือการปลูกผักแบบไฮโดรโปนิกส์จะช่วยประหยัดน้ำและพื้นที่ ทำให้สามารถผลิตผักได้มากขึ้นในพื้นที่เท่าเดิม และยังช่วยควบคุมคุณภาพผลผลิตได้ดีขึ้นอีกด้วย

3. เพิ่มมูลค่าผลผลิต แปรรูปสร้างกำไรเพิ่ม

การแปรรูปผลผลิตเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยเพิ่มมูลค่าและยืดอายุการเก็บรักษา เกษตรกรที่เลี้ยงไก่อาจพิจารณาแปรรูปเนื้อไก่เป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ไก่แดดเดียว ไก่รมควัน หรือไก่ทอดสมุนไพร ซึ่งมีราคาสูงกว่าการขายไก่สดทั่วไป

สำหรับผักสด การแปรรูปเป็นผักดอง ผักแห้ง หรือน้ำผักพร้อมดื่ม จะช่วยแก้ปัญหาผักล้นตลาดและราคาตกต่ำได้ นอกจากนี้ การบรรจุผักในบรรจุภัณฑ์ที่สวยงามและมีแบรนด์ของตัวเองก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิต

4. ขยายช่องทางตลาด เข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง

ในยุคดิจิทัล เกษตรกรมีโอกาสเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรงมากขึ้น การขายออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ช่วยให้เกษตรกรได้ราคาดีกว่าการขายส่งให้พ่อค้าคนกลาง

เกษตรกรที่ปลูกผักอินทรีย์หรือเลี้ยงไก่ไข่อาจพัฒนาระบบสมาชิก (Subscription) ที่ลูกค้าจ่ายเงินล่วงหน้าเพื่อรับผลผลิตเป็นประจำทุกสัปดาห์หรือทุกเดือน ซึ่งนอกจากจะช่วยให้มีรายได้ที่แน่นอนแล้ว ยังช่วยให้วางแผนการผลิตได้ดีขึ้นอีกด้วย

5. วางแผนกระแสเงินสด บริหารการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ

การทำฟาร์มที่ยั่งยืนจำเป็นต้องมีการวางแผนกระแสเงินสดที่ดี เกษตรกรควรแยกบัญชีค่าใช้จ่ายส่วนตัวออกจากบัญชีฟาร์ม และควรมีเงินสำรองสำหรับช่วงที่รายได้ไม่แน่นอน

การวางแผนการผลิตให้มีผลผลิตออกสม่ำเสมอตลอดปีก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยให้มีรายได้ต่อเนื่อง เช่น การวางแผนปลูกผักหลากหลายชนิดที่เก็บเกี่ยวในช่วงเวลาต่างกัน หรือการทยอยเลี้ยงไก่หลายรุ่นเพื่อให้มีไข่หรือเนื้อไก่ขายตลอดทั้งปี

สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ทางเลือกสำหรับเสริมสภาพคล่องทางการเงิน

แม้จะมีการวางแผนที่ดี แต่บางครั้งเกษตรกรก็อาจประสบปัญหาเงินทุนหมุนเวียนไม่เพียงพอ โดยเฉพาะในช่วงที่ต้องลงทุนสูงหรือช่วงที่ราคาผลผลิตตกต่ำ ในสถานการณ์เช่นนี้ "สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ" เป็นหนึ่งในทางเลือกที่เกษตรกรสามารถพิจารณา

1. เสริมสภาพคล่องทางการเงินได้ สินเชื่อจำนำทะเบียนรถช่วยให้เกษตรกรสามารถนำรถยนต์ที่มีอยู่มาเป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อ ทำให้ได้รับเงินทุนหมุนเวียน โดยไม่ต้องหยุดกิจการหรือรอผลผลิตขาย

2. ยังใช้รถได้ตามปกติ ซึ่งสำคัญมากสำหรับการทำฟาร์ม เนื่องจากรถเป็นปัจจัยสำคัญในการขนส่งผลผลิตไปขาย ขนอาหารสัตว์หรือวัสดุการเกษตรต่างๆ

3. สถาบันการเงินที่ได้รับอนุญาตมีความถูกต้องตามกฎหมาย มีสัญญาชัดเจน อัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ทำให้เกษตรกรมั่นใจได้ว่าจะไม่ถูกเอาเปรียบหรือคิดดอกเบี้ยเกินควร

4. ระยะเวลาผ่อนชำระยืดหยุ่น เหมาะกับลักษณะรายได้ของเกษตรกรที่อาจไม่สม่ำเสมอ เกษตรกรสามารถเลือกระยะเวลาผ่อนชำระที่สอดคล้องกับรอบการผลิตและการขายผลผลิตของตน

วิธีใช้สินเชื่อจำนำทะเบียนรถให้เกิดประโยชน์สูงสุดในฟาร์ม

การใช้ สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ อย่างชาญฉลาดจะช่วยให้การทำฟาร์ม เลี้ยงไก่หรือปลูกผักมีความยั่งยืนมากขึ้น ซึ่งเรามีเทคนิคง่ายๆ ที่เกษตรกรสามารถนำไปปรับใช้ได้ทันที

1. ใช้สินเชื่ออุดช่องว่างทางการเงิน

เมื่อประสบปัญหาเงินช็อต เกษตรกรสามารถใช้สินเชื่อจำนำทะเบียนรถเพื่ออุดช่องว่างทางการเงินในช่วงวิกฤต เช่น ช่วงที่ต้องซื้ออาหารไก่แต่ยังขายไข่ไม่ได้ หรือช่วงที่ต้องลงทุนซื้อเมล็ดพันธุ์และปุ๋ยสำหรับการปลูกผักรอบใหม่

การใช้สินเชื่อในลักษณะนี้จะช่วยให้การดำเนินกิจการไม่สะดุด และช่วยรักษาผลผลิตให้มีความต่อเนื่อง ซึ่งสำคัญมากในการรักษาฐานลูกค้าและความน่าเชื่อถือในตลาด

2. ลงทุนในสิ่งที่สร้างผลตอบแทน

เกษตรกรที่เลี้ยงไก่อาจพิจารณาลงทุนในพันธุ์ไก่ที่ให้ผลผลิตดีขึ้น หรือปรับปรุงโรงเรือนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะที่เกษตรกรที่ปลูกผักอาจลงทุนในระบบน้ำหยดหรือโรงเรือนที่ช่วยให้ปลูกผักได้ตลอดปีไม่ว่าสภาพอากาศจะเป็นอย่างไร

3. ใช้เป็นเงินทุนฟื้นฟูและขยายกิจการ

นอกจากการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแล้ว สินเชื่อจำนำทะเบียนรถยังสามารถใช้เป็นเงินทุนในการฟื้นฟูและขยายกิจการได้ เช่น การเพิ่มจำนวนไก่ที่เลี้ยง หรือการขยายพื้นที่ปลูกผัก

การลงทุนขยายกิจการอย่างเหมาะสมจะช่วยเพิ่มรายได้ในระยะยาว ทำให้มีเงินเพียงพอสำหรับการชำระคืนสินเชื่อและมีกำไรเหลือสำหรับการลงทุนต่อไป

สรุป

การทำเกษตรอาจพบกับความท้าทายด้านเงินทุนหมุนเวียนได้ในหลายช่วง แต่การวางแผนการเงินที่ดีและการพิจารณาทางเลือกทางการเงินที่เหมาะสม เช่น สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ สามารถช่วยให้เกษตรกรบริหารจัดการฟาร์มได้อย่างต่อเนื่อง สิ่งสำคัญคือการใช้เงินทุนอย่างมีเป้าหมาย เพื่อสร้างความเติบโตให้กับธุรกิจในระยะยาว

การเลี้ยงไก่และปลูกผักเป็นอาชีพที่ยังคงมีความต้องการในตลาด โดยเฉพาะเมื่อผู้บริโภคให้ความสำคัญกับอาหารปลอดภัยและผลิตภัณฑ์อินทรีย์มากขึ้น เกษตรกรที่รู้จักปรับตัว บริหารการเงินอย่างรอบคอบ และใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยจะมีโอกาสประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจได้มากขึ้น

สำหรับใครที่ต้องการกู้สินเชื่อ สินเชื่อรถแลกเงินเป็นหนึ่งในคำตอบและวิธีการที่ดีที่สุดของคุณ กับเงินให้ใจที่มีความน่าเชื่อถือจากบริษัท เงินให้ใจ จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสามารถขอใช้บริการได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คำนวณวงเงินสินเชื่อและสมัครสินเชื่อได้ทันทีที่ https://www.ngernhaijai.com/

“กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนรถ 12.82% - 24.00% สินเชื่อโอนเล่มทะเบียนรถ แบ่งเป็นกรณีบุคคลธรรมดามีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการส่วนตัว 6.08% - 15.00% และกรณีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ 6.08% - 26.62%”

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Website : https://www.ngernhaijai.com/

Line : https://bit.ly/3zDd5Kz

เงินให้ใจ โทร : 02 078 8899