กำไร คิดกําไรต้นทุน

ขายดีแต่เงินสดไม่พอ! เข้าใจทุนหมุนเวียน VS กำไร เคล็ดลับอัพเกรดธุรกิจให้รอด

หลายครั้งธุรกิจขายดี แต่กลับรู้สึกว่า "เงินสดในมือไม่พอ" ต้องวนกลับไปขอเครดิต หรือเลื่อนจ่ายเจ้าหนี้ ทั้งที่มองตัวเลขกำไรก็ยังเป็นบวก นี่คือปัญหาคลาสสิกของ SME มือใหม่ ที่ยังไม่เข้าใจความต่างระหว่าง "กำไร" กับ "เงินทุนหมุนเวียน (Working Capital)" วันนี้ เงินให้ใจจึงมาชวนคุณดูให้ชัดว่าทำไมธุรกิจที่มีกำไรแล้วยังประสบปัญหาเงินสดไม่พอใช้ และจะอัพเกรดการจัดการการเงินอย่างไรให้ธุรกิจรอดและเติบโตได้อย่างยั่งยืน

ทำไมขายดีแต่เงินสดไม่พอ?

หลายคนสับสนว่าทำไมธุรกิจที่มียอดขายดีและมีกำไรถึงยังประสบปัญหาเงินสดขาดมือ นี่เป็นเพราะหลักการทางบัญชีและการเงินที่แตกต่างกัน การเข้าใจความแตกต่างระหว่างกำไรและเงินสดจะช่วยให้คุณมองเห็นภาพรวมของธุรกิจได้ชัดเจนขึ้น

1. กำไรไม่ใช่เงินสด - กำไรคือผลต่างระหว่างรายได้กับต้นทุนและค่าใช้จ่าย หากดูเพียงตัวเลขในงบการเงินก็เหมือนว่าได้กำไร แต่ในความจริงแล้ว วิธีคิดต้นทุนกำไรแบบบัญชีไม่ได้สะท้อนสภาพคล่อง เพราะยังไม่คำนึงถึงระยะเวลาในการรับเงินและจ่ายเงินจริง

2. การขายเชื่อหรือให้เครดิต - ธุรกิจที่ขายสินค้าหรือบริการโดยให้ลูกค้าเครดิต จะบันทึกรายได้ทันทีในงบการเงิน แต่ยังไม่ได้รับเงินสด ทำให้มีกำไรในบัญชีแต่เงินสดยังไม่เข้ามือ

3. ต้นทุนที่ต้องจ่ายล่วงหน้า - หลายธุรกิจต้องจ่ายต้นทุนล่วงหน้า เช่น ค่าวัตถุดิบ ค่าเช่า ค่าแรงงาน ทำให้เงินสดถูกใช้ไปก่อนที่จะได้รับรายได้กลับมา

4. ความแตกต่างของรอบระยะเวลา - ช่วงเวลาที่ต้องจ่ายให้เจ้าหนี้มักสั้นกว่าระยะเวลาที่จะได้รับเงินจากลูกค้า ทำให้เกิด "ช่องว่างเงินสด" ที่ต้องบริหารจัดการ

ตัวอย่างเช่น ร้านค้าอาจมียอดขาย 100,000 บาท ต้นทุนสินค้า 60,000 บาท ทำให้มีกำไรขั้นต้น 40,000 บาท แต่หากลูกค้ายังไม่จ่ายเงิน 80,000 บาท ในขณะที่ต้องจ่ายค่าสินค้าให้ซัพพลายเออร์ 60,000 บาทภายในสัปดาห์นี้ ธุรกิจจะประสบปัญหาเงินสดไม่พอจ่าย แม้จะมีกำไรก็ตาม

ตัวอย่างนี้สะท้อนว่า แม้จะคำนวณได้ตามวิธีคิดต้นทุนกำไรที่ถูกต้อง แต่ถ้ายังไม่ได้รับเงินสดเข้ามาในเวลาเดียวกัน ก็อาจทำให้ธุรกิจเงินขาดมือได้

เข้าใจเงินทุนหมุนเวียน (Working Capital)

เงินทุนหมุนเวียนเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่บ่งบอกถึงสภาพคล่องของธุรกิจและความสามารถในการดำเนินงานระยะสั้น การเข้าใจและบริหารเงินทุนหมุนเวียนอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้ธุรกิจมีเสถียรภาพทางการเงินและเติบโตได้อย่างยั่งยืน

เงินทุนหมุนเวียน = สินทรัพย์หมุนเวียน - หนี้สินหมุนเวียน

สินทรัพย์หมุนเวียน ประกอบด้วย

- เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด

- ลูกหนี้การค้า (เงินที่ลูกค้ายังค้างชำระ)

- สินค้าคงเหลือ (สต็อกสินค้า วัตถุดิบ)

- ค่าใช้จ่ายล่วงหน้า

หนี้สินหมุนเวียน ประกอบด้วย

- เจ้าหนี้การค้า (เงินที่ต้องจ่ายให้ซัพพลายเออร์)

- เงินกู้ระยะสั้น

- ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย (เช่น ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ ที่ยังไม่ได้จ่าย)

- ภาษีค้างจ่าย

การตีความเงินทุนหมุนเวียน

ถ้าเป็นบวก - แสดงว่าธุรกิจมีสินทรัพย์หมุนเวียนมากกว่าหนี้สินหมุนเวียน มีเงินเหลือสำหรับการดำเนินงานและการลงทุน

ถ้าเป็นลบ - แสดงว่าธุรกิจมีหนี้สินหมุนเวียนมากกว่าสินทรัพย์หมุนเวียน อาจต้องหาเงินเพิ่มเพื่อรักษาสภาพคล่อง เช่น ขอเครดิตเพิ่ม ใช้สินเชื่อ หรือเพิ่มทุนส่วนตัว

เงินทุนหมุนเวียนที่เพียงพอจะช่วยให้ธุรกิจสามารถจ่ายหนี้ระยะสั้น ลงทุนในโอกาสใหม่ๆ และรับมือกับความผันผวนของยอดขายได้ การขาดเงินทุนหมุนเวียนเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ธุรกิจที่มีกำไรหลายแห่งต้องปิดตัวลง

เคล็ดลับบริหารทุนหมุนเวียนให้ธุรกิจไม่สะดุด

1. เร่งรัดการเก็บเงินจากลูกหนี้

- กำหนดเงื่อนไขการชำระเงินที่ชัดเจน - ระบุเงื่อนไขการชำระเงินในใบแจ้งหนี้และสัญญาอย่างชัดเจน

- ให้ส่วนลดสำหรับการชำระเร็ว - เช่น ส่วนลด 2% หากชำระภายใน 10 วัน

- ติดตามลูกหนี้อย่างสม่ำเสมอ - ส่งใบแจ้งเตือนก่อนถึงกำหนดและติดตามทันทีเมื่อเลยกำหนด

- พิจารณาใช้ระบบชำระเงินออนไลน์ - ทำให้ลูกค้าจ่ายเงินได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น

- ทบทวนนโยบายเครดิต - ตรวจสอบประวัติลูกค้าก่อนให้เครดิตและปรับนโยบายตามความเสี่ยง

2. บริหารเจ้าหนี้อย่างชาญฉลาด

- เจรจาเงื่อนไขการชำระเงินที่ดีขึ้น - ขอขยายระยะเวลาเครดิตจากซัพพลายเออร์

- รักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับซัพพลายเออร์ - จ่ายตรงเวลาเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ

- จัดลำดับความสำคัญในการจ่ายเงิน - จ่ายเจ้าหนี้ที่สำคัญต่อการดำเนินธุรกิจก่อน

- ใช้ประโยชน์จากส่วนลดการชำระเร็ว - หากซัพพลายเออร์เสนอส่วนลดสำหรับการชำระเร็ว และคุ้มค่ากับการจ่ายเร็ว

3. จัดการสินค้าคงคลังอย่างมีประสิทธิภาพ

- ใช้ระบบการจัดการสินค้าคงคลังที่มีประสิทธิภาพ - เพื่อติดตามระดับสินค้าคงคลังและป้องกันการสั่งซื้อมากเกินไป

- วิเคราะห์อัตราการหมุนเวียนสินค้า - ระบุสินค้าที่ขายช้าและลดการสั่งซื้อ

- ใช้ระบบ Just-in-Time - สั่งสินค้าเมื่อใกล้ถึงเวลาที่ต้องการเพื่อลดต้นทุนการเก็บรักษา

- ทำโปรโมชั่นเพื่อเร่งการขายสินค้าที่เคลื่อนไหวช้า - ลดสต็อกและเพิ่มเงินสด

4. จัดทำและติดตามงบกระแสเงินสด

- พยากรณ์กระแสเงินสดล่วงหน้า 3-6 เดือน - ช่วยให้เห็นภาพช่วงเวลาที่อาจเกิดปัญหาสภาพคล่อง

- ปรับปรุงการพยากรณ์อย่างสม่ำเสมอ - อัพเดทเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขทางธุรกิจ

- สร้างแผนสำรองสำหรับช่วงเงินตึง - เช่น วงเงินสินเชื่อที่พร้อมใช้งาน

5. สำรองเงินสดฉุกเฉิน

- สร้างเงินสำรองธุรกิจ - เก็บเงินสดสำรองอย่างน้อย 1-3 เดือนของค่าใช้จ่ายคงที่

- แยกบัญชีเงินสำรองออกจากบัญชีดำเนินงาน - เพื่อป้องกันการใช้เงินสำรองโดยไม่จำเป็น

- วางแผนการเติมเงินสำรอง - กำหนดเป้าหมายในการสร้างและรักษาระดับเงินสำรอง

6. ใช้เทคโนโลยีช่วยในการบริหารการเงิน

- ใช้ซอฟต์แวร์บัญชีและการเงิน - ช่วยในการติดตามรายรับรายจ่ายและการวิเคราะห์

- อัตโนมัติกระบวนการเรียกเก็บเงิน - ลดเวลาและข้อผิดพลาดในการเรียกเก็บเงิน

- ใช้แดชบอร์ดการเงิน - ดูภาพรวมสถานะการเงินแบบเรียลไทม์

สรุป

การเข้าใจความแตกต่างระหว่าง "กำไร" กับ "เงินทุนหมุนเวียน" เป็นก้าวสำคัญในการยกระดับการบริหารธุรกิจ แม้ว่าธุรกิจจะมีกำไร แต่หากขาดเงินทุนหมุนเวียนที่เพียงพอ ก็อาจเผชิญกับปัญหาสภาพคล่องและการดำเนินงานหยุดชะงักได้

การบริหารเงินทุนหมุนเวียนให้มีประสิทธิภาพไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณเข้าใจหลักการและนำไปปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ การเร่งรัดการเก็บเงินจากลูกหนี้ การบริหารเจ้าหนี้อย่างชาญฉลาด การจัดการสินค้าคงคลังอย่างมีประสิทธิภาพ และการวางแผนกระแสเงินสดล่วงหน้า จะช่วยให้ธุรกิจของคุณมีเสถียรภาพทางการเงินและพร้อมสำหรับการเติบโต

สำหรับใครที่ต้องการกู้สินเชื่อ สินเชื่อรถแลกเงินเป็นหนึ่งในคำตอบและวิธีการที่ดีที่สุดของคุณ กับเงินให้ใจที่มีความน่าเชื่อถือจากบริษัท เงินให้ใจ จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อรถตู้ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสามารถขอใช้บริการได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คำนวณวงเงินสินเชื่อและสมัครสินเชื่อได้ทันทีที่ https://www.ngernhaijai.com/

“กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนรถ 12.82% - 24.00% สินเชื่อโอนเล่มทะเบียนรถ แบ่งเป็นกรณีบุคคลธรรมดามีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการส่วนตัว 6.08% - 15.00% และกรณีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ 6.08% - 26.62%”

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Website : https://www.ngernhaijai.com/

Line : https://bit.ly/3zDd5Kz

เงินให้ใจ โทร : 02 078 8899

เผยแพร่ 12 ก.ย. 2568

บทความอื่น ๆ

เงินเฟ้อ

เงินเฟ้อพุ่ง รายได้เท่าเดิม! อัพเกรดการเงินส่วนตัวยังไงให้อยู่รอด

เงินเฟ้อทำค่าครองชีพสูงขึ้น แต่รายได้ยังเท่าเดิม? เรียนรู้ 3 วิธีอัพเกรดการเงินส่วนตัว ปรับแผนการเงิน เพิ่มรายได้ และลงทุนป้องกันเงินเฟ้อให้อยู่รอด

เผยแพร่ 12 ก.ย. 2568

หนี้บัตรเครดิต

หนี้บ้าน หนี้รถ หนี้บัตรมาเต็ม! จัดการยังไง ปลดหนี้ไหนก่อนดี?

เรียนรู้วิธีแยกประเภทหนี้ดีและหนี้ที่ควรระวัง พร้อมเทคนิคประเมินความพร้อมทางการเงินก่อนตัดสินใจก่อหนี้ เพื่อให้หนี้เป็นเครื่องมือสร้างโอกาสอย่างชาญฉลาด

เผยแพร่ 12 ก.ย. 2568

หนี้

เช็กก่อนกู้: รู้จักหนี้ วางแผนดี ไม่มีพัง

เรียนรู้วิธีแยกประเภทหนี้ดีและหนี้ที่ควรระวัง พร้อมเทคนิคประเมินความพร้อมทางการเงินก่อนตัดสินใจก่อหนี้ เพื่อให้หนี้เป็นเครื่องมือสร้างโอกาสอย่างชาญฉลาด

เผยแพร่ 12 ก.ย. 2568