หนี้รถ ปลดหนี้

หนี้บ้าน หนี้รถ หนี้บัตรมาเต็ม! จัดการยังไง ปลดหนี้ไหนก่อนดี?

ในชีวิตจริง หลายคนไม่ได้มีหนี้ก้อนเดียว แต่มีทั้งหนี้บ้านที่ต้องผ่อนยาว 20–30 ปี, หนี้รถ ที่ผ่อน 4–7 ปี และที่หนักที่สุดคือ หนี้บัตรเครดิต ซึ่งดอกเบี้ยสูงและพอกพูนเร็ว หากไม่มีการวางแผนดี ๆ ก็อาจทำให้การเงินตึงเครียด จนรู้สึกว่าทำงานเท่าไหร่ก็ไม่พอจ่ายหนี้ แต่ความจริงแล้วการมีหนี้ไม่ใช่เรื่องผิด สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้จัก "จัดลำดับ" และหาวิธีปลดหนี้อย่างเป็นระบบ เพื่อให้ชีวิตกลับมามีอิสระทางการเงินได้อีกครั้ง บทความนี้ เงินให้ใจจะพาไปดูว่า ถ้ามีหนี้หลายก้อนพร้อมกัน เราควรเลือกปิดหนี้ไหนก่อนดี? รวมถึงเทคนิควางแผนจัดการหนี้ทั้งหมดให้ครบเร็วขึ้น โดยที่ยังคงสามารถมีความสุขกับชีวิตได้เป็นอย่างดี

ปลดหนี้

เลือกปิดหนี้ไหนก่อนดี?

การที่เรามีหนี้หลายประเภทพร้อมกัน เปรียบเสมือนการมีภาระต้องแบกหลายชิ้น การวางแผนปลดหนี้ที่มีประสิทธิภาพไม่ใช่แค่การทุ่มเงินไปจ่ายทุกอย่างเท่าๆ กัน แต่ต้องเลือกจัดการตามลำดับความสำคัญ โดยพิจารณาจากปัจจัยหลายด้าน

1. หนี้บัตรเครดิต : ดอกเบี้ยสูงที่สุด ควรรีบปิดก่อน

หนี้บัตรเครดิต เป็นหนี้ที่น่ากังวลที่สุด เพราะอัตราดอกเบี้ยสูงสุดถึง 16% ต่อปี (และบางครั้งอาจมากกว่า หากคิดค่าปรับหรือค่าธรรมเนียมเพิ่ม) เช่น มียอดหนี้บัตรเครดิต 30,000 บาท ถ้าจ่ายขั้นต่ำ 3% ต่อเดือน อาจใช้เวลากว่า 10 ปีในการ ปลดหนี้และดอกเบี้ยรวมอาจเกือบเท่าตัวเงินต้น

ดังนั้น หลักการคือ จัดสรรเงินเพื่อปิดหนี้บัตรเครดิตก่อน เพราะทุกเดือนที่ปล่อยไว้คือการยอมให้ดอกเบี้ยกินเงินเพิ่ม

2. หนี้รถ : ภาระระยะกลาง

หนี้รถ เป็นหนี้ที่มีประโยชน์ในแง่ความสะดวกในการเดินทาง และสำหรับบางคนเป็นเครื่องมือทำมาหากิน แต่ดอกเบี้ยสูงกว่าหนี้บ้าน (เฉลี่ย 5–7% ต่อปี) ซึ่งการผ่อนหนี้รถหากไม่ผิดนัดก็ยังถือว่าจัดการได้ แต่หากการเงินเริ่มตึง ควรรักษาการผ่อนให้ตรงเวลาเพื่อไม่ให้ถูกติดตามรถ เพราะรถถือเป็นทรัพย์ที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน

3. หนี้บ้าน : ภาระระยะยาว ดอกเบี้ยต่ำสุด

หนี้บ้าน มีดอกเบี้ยต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับหนี้อื่น (3–6% ต่อปีโดยเฉลี่ย) และยังเป็นสินทรัพย์ที่มูลค่าอาจเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งการผ่อนหนี้บ้านสม่ำเสมอสำคัญมาก เพราะถ้าผิดนัดอาจกระทบประวัติเครดิต

ดังนั้น หนี้บ้านควรเป็นหนี้ที่ผ่อนต่อเนื่องไปตามกำหนด ไม่จำเป็นต้องรีบปลดหนี้ก้อนนี้ก่อนหนี้อื่น และหนี้บ้านยังมีข้อดีคือดอกเบี้ยที่จ่ายสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งเป็นประโยชน์ทางภาษี

สรุปลำดับความสำคัญ

1. ปิดหนี้บัตรเครดิตก่อน เพราะมีดอกเบี้ยสูงสุดและไม่ก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่ม

2. รักษาการผ่อนหนี้รถและหนี้บ้านให้สม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้กระทบต่อคุณภาพชีวิตและประวัติเครดิต

3. หากมีเงินก้อนพิเศษ ค่อยโปะหนี้ดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อนเสมอ ซึ่งมักจะเป็นหนี้บัตรเครดิต

วางแผนอย่างไรให้ปิดได้ครบไวขึ้น?

การวางแผนปลดหนี้ที่มีประสิทธิภาพต้องมีแผนที่ชัดเจน วันนี้เราจึงมีเทคนิคที่จะช่วยให้คุณจัดการหนี้ได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

1. ใช้วิธีปิดหนี้ 2 แบบ

- Debt Avalanche : โฟกัสปิดหนี้ดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อน (เช่น หนี้บัตรเครดิต) เพื่อประหยัดดอกเบี้ยรวม วิธีนี้จะช่วยให้คุณจ่ายดอกเบี้ยน้อยที่สุดในระยะยาว และปลดหนี้ได้เร็วขึ้น

- Debt Snowball : ปิดหนี้ก้อนเล็กก่อนเพื่อสร้างแรงจูงใจและความสำเร็จเล็ก ๆ ระหว่างทาง วิธีนี้อาจไม่ประหยัดดอกเบี้ยมากที่สุด แต่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจและโมเมนตัมในการปลดหนี้

- เลือกวิธีที่เหมาะกับนิสัยการเงินของตัวเอง หากคุณต้องการความสำเร็จระหว่างทางเพื่อสร้างแรงจูงใจ Snowball อาจเหมาะกว่า แต่หากคุณมีวินัยสูงและต้องการประหยัดดอกเบี้ยมากที่สุด Avalanche จะเหมาะกว่า

2. จ่ายมากกว่าขั้นต่ำเสมอ

โดยเฉพาะกับหนี้บัตรเครดิตต้องพยายามจ่ายเกินขั้นต่ำทุกครั้ง การจ่ายแค่ขั้นต่ำเป็นกับดักที่ทำให้คุณติดอยู่กับหนี้บัตรเครดิตนานเกินควร และแม้เพิ่มแค่ 500–1,000 บาทต่อเดือน ก็ช่วยให้ ปลดหนี้เร็วขึ้นหลายปี และประหยัดดอกเบี้ยได้มหาศาล

โดยคุณอาจจะลองจัดทำตารางการชำระหนี้ของตัวเอง เพื่อเห็นภาพว่าการเพิ่มเงินชำระแต่ละเดือนจะช่วยลดระยะเวลาและดอกเบี้ยลงได้มากแค่ไหน สำหรับหนี้รถและหนี้บ้าน ควรตรวจสอบว่าสัญญาอนุญาตให้จ่ายเกินงวดหรือปิดก่อนกำหนดได้หรือไม่ และมีค่าธรรมเนียมหรือเบี้ยปรับหรือไม่

3. ใช้เงินพิเศษโปะหนี้

รายได้เสริม โบนัส เงินคืนภาษี ฯลฯ ควรนำมาโปะหนี้บัตรเครดิตหรือหนี้รถก่อนเสมอ เพราะเป็นหนี้ที่ดอกเบี้ยสูงกว่าผลตอบแทนการลงทุนส่วนใหญ่

ลองใช้กฎ 80/20 คือ นำ 80% ของเงินพิเศษไปชำระหนี้ และเก็บ 20% ไว้ให้รางวัลตัวเอง เพื่อไม่ให้รู้สึกเหนื่อยล้าจากการปลดหนี้ และหากมีหนี้บัตรเครดิตหลายใบ ให้เลือกโปะใบที่มีดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อน หรือใบที่มียอดน้อยที่สุดหากต้องการเห็นความสำเร็จเร็วๆ

4. รีไฟแนนซ์หรือปรับโครงสร้างหนี้

- หนี้บ้าน ควรพิจารณารีไฟแนนซ์ทุก 2-3 ปีเมื่อหมดโปรดอกเบี้ย เพื่อประหยัดดอกเบี้ยรวมได้หลักแสนบาท โดยเฉพาะในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยในตลาดลดลง

- หนี้บัตรเครดิต บางครั้งสามารถโอนยอดไปสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำกว่า เช่น สินเชื่อส่วนบุคคล เพื่อช่วยให้ปลดหนี้ได้เร็วขึ้น แต่ต้องมีวินัยไม่ก่อหนี้บัตรเครดิตเพิ่ม

- หนี้รถ อาจพิจารณารีไฟแนนซ์หากพบข้อเสนอดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าอย่างมีนัยสำคัญ แต่ต้องคำนึงถึงค่าธรรมเนียมและระยะเวลาผ่อนที่อาจเปลี่ยนไปด้วย

- หากมีปัญหาในการชำระหนี้ ให้ติดต่อเจ้าหนี้เพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้ก่อนที่จะผิดนัดชำระ เพราะการผิดนัดจะส่งผลเสียต่อประวัติเครดิตในระยะยาว

5. วางแผนกระแสเงินสดครัวเรือน

ทำงบประมาณรายเดือน แยกเงิน "ผ่อนหนี้" ออกมาก่อนเสมอ โดยจัดลำดับความสำคัญให้หนี้บัตรเครดิต หนี้รถ และหนี้บ้านได้รับการจัดสรรงบประมาณก่อนค่าใช้จ่ายที่ยืดหยุ่นได้ ตัดค่าใช้จ่ายไม่จำเป็นชั่วคราว เพื่อกันเงินไปปิดหนี้ดอกเบี้ยสูง โดยเฉพาะหนี้บัตรเครดิตที่พอกพูนเร็ว

พิจารณาหารายได้เสริมในช่วงที่กำลังปลดหนี้ เพื่อเร่งกระบวนการให้เร็วขึ้น เช่น งานพาร์ทไทม์ในวันหยุด การขายของออนไลน์ หรือการรับงานฟรีแลนซ์ี้ที่ดอกเบี้ยสูงกว่าผลตอบแทนการลงทุนส่วนใหญ่

สรุป

สุดท้ายแล้ว หนี้ไม่ใช่ศัตรู แต่เป็น "เครื่องมือทางการเงิน" ที่ต้องใช้ให้ถูกทาง หากมีทั้งหนี้บ้าน, หนี้รถ, และหนี้บัตรเครดิต สิ่งสำคัญคือการเลือกจัดลำดับการปิดให้ถูกต้อง โดยเน้นปลดหนี้ที่ดอกเบี้ยสูงก่อน และผ่อนหนี้ก้อนใหญ่อย่างบ้านและรถให้ตรงเวลาเสมอ

การวางแผนที่ดีและมีวินัย จะทำให้หนี้ทุกก้อนค่อย ๆ หมดไปในที่สุด และเมื่อถึงวันนั้น คุณจะได้อิสรภาพทางการเงินกลับคืนมา พร้อมทั้งบทเรียนสำคัญที่ช่วยให้ก้าวต่อไปอย่างมั่นคงกว่าเดิม

สำหรับใครที่ต้องการกู้สินเชื่อ สินเชื่อรถแลกเงินเป็นหนึ่งในคำตอบและวิธีการที่ดีที่สุดของคุณ กับเงินให้ใจที่มีความน่าเชื่อถือจากบริษัท เงินให้ใจ จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสามารถขอใช้บริการได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คำนวณวงเงินสินเชื่อและสมัครสินเชื่อได้ทันทีที่ https://www.ngernhaijai.com/

“กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนรถ 12.82% - 24.00% สินเชื่อโอนเล่มทะเบียนรถ แบ่งเป็นกรณีบุคคลธรรมดามีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการส่วนตัว 6.08% - 15.00% และกรณีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ 6.08% - 26.62%”

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Website : https://www.ngernhaijai.com/

Line : https://bit.ly/3zDd5Kz

เงินให้ใจ โทร : 02 078 8899

เผยแพร่ 12 ก.ย. 2568

บทความอื่น ๆ

เงินเฟ้อ

เงินเฟ้อพุ่ง รายได้เท่าเดิม! อัพเกรดการเงินส่วนตัวยังไงให้อยู่รอด

เงินเฟ้อทำค่าครองชีพสูงขึ้น แต่รายได้ยังเท่าเดิม? เรียนรู้ 3 วิธีอัพเกรดการเงินส่วนตัว ปรับแผนการเงิน เพิ่มรายได้ และลงทุนป้องกันเงินเฟ้อให้อยู่รอด

เผยแพร่ 12 ก.ย. 2568

หนี้

เช็กก่อนกู้: รู้จักหนี้ วางแผนดี ไม่มีพัง

เรียนรู้วิธีแยกประเภทหนี้ดีและหนี้ที่ควรระวัง พร้อมเทคนิคประเมินความพร้อมทางการเงินก่อนตัดสินใจก่อหนี้ เพื่อให้หนี้เป็นเครื่องมือสร้างโอกาสอย่างชาญฉลาด

เผยแพร่ 12 ก.ย. 2568

กู้ร่วม

กู้ร่วมกับแฟน/คู่สมรส ระวังให้ดี! ไม่งั้นอาจกลายเป็นภาระยาวๆ

เข้าใจทุกมิติของการกู้ร่วมกับแฟนหรือคู่สมรส และวิธีลดความเสี่ยงเมื่อต้องการกู้ร่วมซื้อบ้านหรือซื้อรถ เพื่อให้หนี้ก้อนนี้เป็นสินทรัพย์ ไม่ใช่ภาระในอนาคต

เผยแพร่ 12 ก.ย. 2568