

เงินเฟ้อพุ่ง รายได้เท่าเดิม! อัพเกรดการเงินส่วนตัวยังไงให้อยู่รอด
ราคาข้าวของขึ้นทุกวัน ค่าน้ำมัน ค่าไฟฟ้า ค่าอาหารที่เราซื้อประจำปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่เงินเดือนหรือรายได้ของเรายังคงเท่าเดิม นี่คือความเป็นจริงที่หลายคนกำลังเผชิญในยุคที่เงินเฟ้อพุ่งสูง การมีรายได้เท่าเดิมในขณะที่ค่าครองชีพสูงขึ้น หมายความว่ากำลังซื้อของเงินเราลดลง หรือพูดง่ายๆ คือ เงินจำนวนเดิมซื้อของได้น้อยลงกว่าเดิม หลายคนอาจคิดว่าแค่ "ประหยัด" หรือ "รัดเข็มขัด" ก็พอ แต่ความจริงแล้ว ในยุคที่เงินเฟ้อสูง การประหยัดอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เราต้องอัพเกรดวิธีคิดและวิธีบริหารการเงินส่วนตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ใหม่
เงินเฟ้อคืออะไร และทำไมถึงส่งผลต่อเรา
ก่อนจะไปดูวิธีแก้ปัญหา เรามาทำความเข้าใจกับเงินเฟ้อกันก่อน เงินเฟ้อ คือ ภาวะที่ระดับราคาสินค้าและบริการโดยทั่วไปในเศรษฐกิจสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีหลายสาเหตุของเงินเฟ้อ เช่น ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ความต้องการซื้อสินค้าเกินกว่าปริมาณที่ผลิตได้ หรือนโยบายการเงินและการคลังของรัฐบาล
เมื่อเงินเฟ้อเกิดขึ้น เงิน 1,000 บาทที่เราเคยซื้อของได้เต็มถุงตอนนี้อาจซื้อได้แค่ครึ่งถุง ถึงแม้เราจะมีเงิน 1,000 บาทเท่าเดิม แต่กำลังซื้อลดลง นี่คือเหตุผลว่าทำไมเราจึงรู้สึกว่าเงินไม่พอใช้มากขึ้น ทั้งที่รายได้ยังเท่าเดิม
1. ปรับแผนการเงิน รับมือค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น
วิธีแรกในการอัพเกรดการเงินส่วนตัวคือการปรับแผนการเงินให้รองรับความเป็นจริงใหม่ การวางแผนการเงินในยุคเงินเฟ้อต้องมีความยืดหยุ่นและสมจริงมากขึ้น
- จัดทำงบประมาณรายเดือนใหม่ เริ่มจากการบันทึกรายรับ-รายจ่ายจริงในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา เพื่อดูว่าค่าใช้จ่ายเปลี่ยนไปอย่างไร ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าสาธารณูปโภคที่เราจ่ายตอนนี้เปรียบเทียบกับเมื่อปีที่แล้ว จากนั้นปรับงบประมาณให้สอดคล้องกับราคาปัจจุบัน
- แบ่งค่าใช้จ่ายเป็นหมวดหมู่ การแบ่งค่าใช้จ่ายออกเป็น Fixed Cost (ค่าใช้จ่ายคงที่ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้) เช่น ค่าบ้าน ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา ค่าผ่อนรถ และ Variable Cost (ค่าใช้จ่ายที่ปรับได้) เช่น ค่าอาหาร ความบันเทิง การช็อปปิ้ง จะช่วยให้เราเห็นว่าส่วนไหนสามารถปรับลดได้เมื่อจำเป็น
- ปรับใช้กฎ 50/30/20 แบบยืดหยุ่น หลักการวางแผนการเงินแบบดั้งเดิมคือ 50% สำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็น, 30% สำหรับความต้องการ และ 20% สำหรับการออม แต่ในยุคเงินเฟ้อ อาจต้องปรับเป็น 55% สำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็น, 25% สำหรับความต้องการ และ 20% สำหรับการออม หรือปรับตามสถานการณ์จริงของตัวเอง
2. เพิ่มรายได้เสริมในสิ่งที่ทำได้
เมื่อเงินเฟ้อทำให้กำลังซื้อน้อยลง การมีรายได้คงที่เท่านั้นจึงเท่ากับรายได้จริงของเรา "ลดลง" การสร้างรายได้เสริมจึงเป็นทางออกสำคัญที่จะช่วยเพิ่มกำลังซื้อให้กลับมา
- ใช้ทักษะที่มีอยู่สร้างรายได้ หลายคนมีทักษะที่สามารถนำมาสร้างรายได้เสริมได้ เช่น การเขียน การแปลภาษา การสอนพิเศษ การถ่ายรูป การทำขนม หรือการให้คำปรึกษา ในยุคดิจิทัลนี้ การหารายได้เสริมจากทักษะเดิมทำได้ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ
- เริ่มธุรกิจเล็กๆ ออนไลน์ การขายของออนไลน์เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการขายสินค้าที่ทำเอง การเป็นตัวแทนจำหน่าย หรือการซื้อมาขายไป เริ่มจากสิ่งที่เราถนัดหรือสนใจ และขยายไปเรื่อยๆ เมื่อมีประสบการณ์และลูกค้า
- รับงานฟรีแลนซ์ การรับงานฟรีแลนซ์ในช่วงเวลาว่างเป็นอีกวิธีที่ได้รับความนิยม ไม่ว่าจะเป็นงานเขียน งานออกแบบ งานโปรแกรม หรืองานบริการต่างๆ ที่สามารถทำจากที่บ้านได้
สิ่งสำคัญคือต้องเลือกงานเสริมที่ไม่กระทบกับงานหลัก และสามารถทำได้อย่างสม่ำเสมอ โดยไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพหรือคุณภาพชีวิต
3. ปรับวิธีออมและลงทุนให้อยู่รอดเงินเฟ้อ
การออมเงินไว้ในบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยต่ำในยุคเงินเฟ้อสูงถือว่า "แพ้เงินเฟ้อ" เพราะเงินของเราจะมีค่าลดลงทุกวัน เราจึงต้องหาวิธีออมและลงทุนที่สามารถรักษามูลค่าเงินหรือเพิ่มมูลค่าเงินให้เท่าทันอัตราเงินเฟ้อได้
- สร้างเงินสำรองฉุกเฉินก่อน ก่อนจะคิดเรื่องการลงทุน ควรมีเงินสำรองฉุกเฉินไว้ 3-6 เดือนของค่าใช้จ่ายจำเป็น เงินส่วนนี้ควรเก็บในรูปแบบที่เข้าถึงได้รวดเร็ว เช่น เงินฝากออมทรัพย์ หรือกองทุนรวมตลาดเงิน
- พิจารณาเครื่องมือการออมที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝาก สำหรับการออมระยะยาว สามารถพิจารณาเครื่องมือการออมที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝากธรรมดา เช่นกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (REITs) หรือการลงทุนในหุ้นที่จ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ สำหรับผู้ที่สามารถรับความเสี่ยงได้
- เรียนรู้การลงทุนเบื้องต้น เริ่มจากการศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับเครื่องมือการลงทุนต่างๆ เข้าใจความเสี่ยงและผลตอบแทนที่คาดหวัง และเริ่มลงทุนในจำนวนที่ไม่กระทบต่อการดำรงชีวิต
บริหารการเงินอย่างชาญฉลาดในยุคเงินเฟ้อ
นอกจากสามวิธีหลักแล้ว ยังมีเทคนิคอื่นๆ ที่จะช่วยให้การบริหารการเงินส่วนตัวมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- เปรียบเทียบราคาก่อนซื้อ ในยุคที่ราคาสินค้าผันแปรบ่อย การเปรียบเทียบราคาจากหลายแหล่งก่อนตัดสินใจซื้อจะช่วยประหยัดเงินได้มาก ใช้ประโยชน์จากแอปพลิเคชันเปรียบเทียบราคา หรือโปรโมชั่นต่างๆ
- ซื้อสินค้าจำเป็นในปริมาณเหมาะสม การซื้อสินค้าที่ใช้ประจำในปริมาณที่เหมาะสมเมื่อมีโปรโมชั่นดีๆ สามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ แต่ต้องระวังไม่ให้ซื้อมากเกินไปจนเสียหายหรือหมดอายุ
- ปรับพฤติกรรมการใช้จ่าย เช่น การประหยัดไฟฟ้า การใช้รถร่วมกัน การทำอาหารกินเอง หรือการหาของใช้มือสองที่มีคุณภาพดี จะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้อย่างมีนัยสำคัญ
สรุป
เงินเฟ้อเป็นสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ในระบบเศรษฐกิจปัจจุบัน แต่เราสามารถปรับตัวให้อยู่รอดและเติบโตได้แม้ในสถานการณ์นี้ การอัพเกรดการเงินส่วนตัวไม่ใช่แค่การรัดเข็มขัดหรือประหยัด แต่เป็นการ "อัพเกรดวิธีคิดทางการเงิน" ให้สอดคล้องกับยุคที่เงินมีค่าลดลง
การปรับแผนการเงินใหม่ การสร้างรายได้เสริม และการหาวิธีออม-ลงทุนที่เหมาะสม คือสามเสาหลักที่จะช่วยให้เราไม่เพียงแค่อยู่รอด แต่ยังสามารถเติบโตได้แม้ในยุคที่เงินเฟ้อพุ่งสูง
สำหรับใครที่ต้องการกู้สินเชื่อ สินเชื่อรถแลกเงินเป็นหนึ่งในคำตอบและวิธีการที่ดีที่สุดของคุณ กับเงินให้ใจที่มีความน่าเชื่อถือจากบริษัท เงินให้ใจ จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการ สินเชื่อรถ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสามารถขอใช้บริการได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คำนวณวงเงินสินเชื่อและสมัครสินเชื่อได้ทันทีที่ https://www.ngernhaijai.com/
“กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนรถ 12.82% - 24.00% สินเชื่อโอนเล่มทะเบียนรถ แบ่งเป็นกรณีบุคคลธรรมดามีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการส่วนตัว 6.08% - 15.00% และกรณีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ 6.08% - 26.62%”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.ngernhaijai.com/
Line : https://bit.ly/3zDd5Kz
เงินให้ใจ โทร : 02 078 8899
เผยแพร่ 12 ก.ย. 2568
บทความอื่น ๆ

หนี้บ้าน หนี้รถ หนี้บัตรมาเต็ม! จัดการยังไง ปลดหนี้ไหนก่อนดี?
เรียนรู้วิธีแยกประเภทหนี้ดีและหนี้ที่ควรระวัง พร้อมเทคนิคประเมินความพร้อมทางการเงินก่อนตัดสินใจก่อหนี้ เพื่อให้หนี้เป็นเครื่องมือสร้างโอกาสอย่างชาญฉลาด
เผยแพร่ 12 ก.ย. 2568

เช็กก่อนกู้: รู้จักหนี้ วางแผนดี ไม่มีพัง
เรียนรู้วิธีแยกประเภทหนี้ดีและหนี้ที่ควรระวัง พร้อมเทคนิคประเมินความพร้อมทางการเงินก่อนตัดสินใจก่อหนี้ เพื่อให้หนี้เป็นเครื่องมือสร้างโอกาสอย่างชาญฉลาด
เผยแพร่ 12 ก.ย. 2568

กู้ร่วมกับแฟน/คู่สมรส ระวังให้ดี! ไม่งั้นอาจกลายเป็นภาระยาวๆ
เข้าใจทุกมิติของการกู้ร่วมกับแฟนหรือคู่สมรส และวิธีลดความเสี่ยงเมื่อต้องการกู้ร่วมซื้อบ้านหรือซื้อรถ เพื่อให้หนี้ก้อนนี้เป็นสินทรัพย์ ไม่ใช่ภาระในอนาคต
เผยแพร่ 12 ก.ย. 2568