ดอกลอยคือ กู้ ดอก ลอย

ดอกลอยคืออะไร? ศัตรูตัวจริงของคนกู้เงิน

เมื่อต้องการหาเงินในยามคับขัน หลายคนอาจหันไปหาแหล่งเงินกู้ที่เข้าถึงได้รวดเร็ว โดยไม่ได้ศึกษารายละเอียดอย่างถี่ถ้วน จนต้องเผชิญกับปัญหา "ดอกลอย" ที่ทำให้หลายคนติดกับดักหนี้ไม่รู้จบ แม้จะจ่ายหนี้ตรงเวลาทุกงวด แต่ยอดเงินต้นกลับไม่ลดลงเลย บทความนี้ เงินให้ใจจะพาคุณไปทำความเข้าใจว่า ดอกลอยคืออะไร ทำไมถึงอันตราย และควรทำอย่างไรเมื่อพบเจอสถานการณ์แบบนี้

ดอกลอยคืออะไร?

ดอกลอย คือ รูปแบบการคิดดอกเบี้ยนอกระบบที่ผู้กู้ต้องจ่ายเฉพาะส่วนดอกเบี้ยเท่านั้น โดยไม่ได้หักเงินต้นออกเลย ไม่ว่าจะจ่ายหนี้มานานเท่าไร เงินต้นก็ยังคงเท่าเดิม ทำให้ผู้กู้ต้องจ่ายดอกเบี้ยไปเรื่อยๆ โดยไม่มีวันจบสิ้น จนกว่าจะนำเงินต้นมาชำระหนี้ให้ครบภายในครั้งเดียว

ตัวอย่างการคำนวณดอกลอย

สมมติว่า : คุณกู้เงิน 10,000 บาท ดอกเบี้ย 20% ต่อเดือน (ซึ่งสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด)

- ดอกเบี้ยต่อเดือน = 10,000 × 20% = 2,000 บาท

- เมื่อจ่ายไป 6 เดือน = 2,000 × 6 = 12,000 บาท

- เงินต้นที่เหลือ = 10,000 บาท (ไม่เปลี่ยนแปลง)

- ดอกเบี้ยเดือนที่ 7 = ยังคงต้องจ่าย 2,000 บาท

จากตัวอย่างจะเห็นว่า แม้จะจ่ายดอกเบี้ยไปแล้ว 12,000 บาท (มากกว่าเงินต้น) แต่เงินต้นยังคงเหลือ 10,000 บาท และต้องจ่ายดอกเบี้ยต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีเงินมาปิดหนี้ทั้งหมด

ความแตกต่างระหว่าง "ดอกลอย" กับ "ดอกเบี้ยปกติ"

ดอกเบี้ยแบบปกติ (ลดต้นลดดอก)

การคิดดอกเบี้ยแบบปกติตามกฎหมาย ผู้กู้จะจ่ายทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยในแต่ละงวด ทำให้เงินต้นลดลงทุกเดือน และดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายก็ลดลงตามไปด้วย

ตัวอย่าง : กู้ 10,000 บาท ดอกเบี้ย 15% ต่อปี ผ่อน 12 เดือน

- ค่างวดต่อเดือน ≈ 902 บาท

- ดอกเบี้ยรวม 12 เดือน ≈ 824 บาท

- เดือนที่ 12 จ่ายเสร็จ เงินต้นและดอกเบี้ยหมดลง = 0 บาท

ดอกเบี้ยแบบดอกลอย

ผู้กู้จ่ายเฉพาะดอกเบี้ย เงินต้นไม่ลดลงเลย

ตัวอย่าง: กู้ 10,000 บาท ดอกเบี้ย 20% ต่อเดือน

- จ่ายต่อเดือน = 2,000 บาท (เฉพาะดอกเบี้ย)

- ดอกเบี้ยรวม 12 เดือน = 24,000 บาท

- เดือนที่ 12 เงินต้นยังคงเหลือ 10,000 บาท

- เดือนที่ 13 ต้องจ่ายต่อ = 2,000 บาท (วนลูปไม่รู้จบ)

ทำไมดอกลอยถึงอันตราย?

1. จ่ายไม่รู้จบ เงินต้นไม่ลด ไม่ว่าจะจ่ายมานานเท่าไหร่ เงินต้นยังคงเท่าเดิม ทำให้ต้องจ่ายดอกเบี้ยต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีเงินก้อนมาปิดหนี้ทั้งหมด

2. ดอกเบี้ยสูงมาก ดอกลอยมักมีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่ากฎหมายกำหนด (กฎหมายกำหนดไว้ไม่เกิน 15% ต่อปี หรือประมาณ 1.25% ต่อเดือน) แต่ดอกลอยมักอยู่ที่ 10-30% ต่อเดือน หรือแม้แต่รายวัน

3. หนี้ทบต้น เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากผิดนัดชำระ ค่าปรับและดอกเบี้ยค้างจ่ายจะถูกนำไปรวมกับเงินต้น ทำให้เงินต้นพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็ว และดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายต่อเดือนก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย

ตัวอย่าง :

- เงินต้นเดิม 10,000 บาท

- ผิดนัด 1 งวด ค่าปรับ 2,000 บาท

- เงินต้นใหม่ = 10,000 + 2,000 = 12,000 บาท

- ดอกเบี้ยเดือนถัดไป = 12,000 × 20% = 2,400 บาท (เพิ่มขึ้นจาก 2,000 บาท)

4. กระทบต่อสุขภาพจิตและคุณภาพชีวิต การเป็นหนี้แบบไม่รู้จบทำให้เกิดความเครียด วิตกกังวล ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิต ความสัมพันธ์ในครอบครัว และคุณภาพชีวิตโดยรวม

วิธีแก้ไขเมื่อติดกับดักดอกลอย

ขั้นตอนที่ 1 : เจรจากับเจ้าหนี้

พยายามเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อขอ

- ลดอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด (ไม่เกิน 15% ต่อปี)

- ขอให้นำเงินที่จ่ายไปหักเงินต้นบางส่วน

- ขอปรับโครงสร้างหนี้ให้มีกำหนดชำระที่ชัดเจน

หากเจ้าหนี้ไม่ยินยอมหรือใช้วิธีข่มขู่ สามารถติดต่อ

- ศูนย์ดำรงธรรม โทร. 1567

- ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้ โทร. 1359

- สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค โทร. 1166

ขั้นตอนที่ 2 : จัดทำเอกสารหลักฐาน

เก็บหลักฐานทุกครั้งที่ชำระเงิน

- ใบเสร็จรับเงิน ที่ระบุวันที่ จำนวนเงิน และลายเซ็นเจ้าหนี้

- บันทึกการโอนเงิน (ถ้ามี)

- บันทึกข้อความ หรือการสนทนา

- สำเนาสัญญาเงินกู้ (ถ้ามี)

เอกสารเหล่านี้จะเป็นหลักฐานสำคัญในการพิสูจน์ว่าคุณได้ชำระเงินไปแล้วเท่าไร

ขั้นตอนที่ 3 : หาเงินก้อนมาปิดหนี้ เช่น

1. กู้สินเชื่อในระบบมาปิดหนี้นอกระบบบบ

- ดอกเบี้ยต่ำกว่า (ประมาณ 6-24% ต่อปี)

- มีกำหนดปิดหนี้ชัดเจน

- ถูกต้องตามกฎหมาย มีการคุ้มครองผู้กู้

2. ขายทรัพย์สินที่ไม่จำเป็น

- ของใช้ที่ไม่ได้ใช้แล้ว

- เครื่องประดับ ทอง

- อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

3. หารายได้เสริม

- รับงานพาร์ทไทม์

- ขายของออนไลน์

- รับงานฟรีแลนซ์

4. ขอความช่วยเหลือจากครอบครัว

- อธิบายสถานการณ์อย่างตรงไปตรงมา

- ทำสัญญาคืนเงินอย่างเป็นทางการ

- มีแผนการชำระคืนที่ชัดเจน

ขั้นตอนที่ 4: ป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ

หลังจากแก้ปัญหาแล้ว คุณควรเริ่มวางแผนการเงินอย่างรัดกุม สร้างกองทุนฉุกเฉินสำหรับตัวเอง เรียนรู้เรื่องการบริหารหนี้ และหลีกเลี่ยงการกู้นอกระบบในอนาคต

สรุป

ดอกลอยคือกับดักทางการเงินที่อันตรายมาก ผู้กู้ต้องจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยโดยที่เงินต้นไม่ลดลงเลย ทำให้ต้องจ่ายไปเรื่อยๆ ไม่รู้จบ แม้จะจ่ายมาหลายปีก็ยังเป็นหนี้อยู่ ดอกลอยมักพบในเงินกู้นอกระบบที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงเกินกฎหมายกำหนด

หากพบว่าตัวเองติดกับดักดอกลอย ควรรีบดำเนินการ โดยเจรจากับเจ้าหนี้ เก็บหลักฐานการชำระเงิน หาเงินก้อนมาปิดหนี้โดยเร็ว และขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหากจำเป็น ที่สำคัญคือควรหันมาใช้สินเชื่อในระบบที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งมีดอกเบี้ยต่ำกว่า มีกำหนดปิดหนี้ชัดเจน และได้รับความคุ้มครองอย่างเต็มที่

สำหรับใครที่ต้องการกู้สินเชื่อ สินเชื่อรถแลกเงินเป็นหนึ่งในคำตอบและวิธีการที่ดีที่สุดของคุณ กับเงินให้ใจที่มีความน่าเชื่อถือจากบริษัท เงินให้ใจ จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสามารถขอใช้บริการได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คำนวณวงเงินสินเชื่อและสมัครสินเชื่อได้ทันทีที่ https://www.ngernhaijai.com/

“กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนรถ 12.82% - 24.00% สินเชื่อโอนเล่มทะเบียนรถ แบ่งเป็นกรณีบุคคลธรรมดามีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการส่วนตัว 6.08% - 15.00% และกรณีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ 6.08% - 26.62%”

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Website : https://www.ngernhaijai.com/

Line : https://bit.ly/3zDd5Kz

เงินให้ใจ โทร : 02 078 8899

เผยแพร่ 14 ต.ค. 2568

บทความอื่น ๆ

แต่งงาน

อย่าให้หนี้เป็นเพื่อนเจ้าบ่าว! เก็บเงินแต่งงานยังไงให้รอด

อยากแต่งงานแต่กลัวหนี้ตามมา? รวมเคล็ดลับเก็บเงินแต่งงาน ตั้งงบ สินสอด วางแผนค่าใช้จ่าย และเปิดบัญชีเก็บเงินให้ถึงเป้า งานแต่งราบรื่นไร้หนี้

เผยแพร่ 14 ต.ค. 2568

ค่าเทอม

ลงทุนการศึกษาอย่างมือโปร วางแผนอนาคตลูกให้มั่นคง

วางแผนการศึกษาลูกตั้งแต่วันนี้ จัดการค่าเทอมด้วยแผนการเงินมือโปร: คิดเงินเฟ้อ, แบ่งก้อนการลงทุน, DCA รายเดือน, ลดเสี่ยงตามเวลา พร้อมเช็กลิสต์ทำตามได้จริง

เผยแพร่ 14 ต.ค. 2568

ประกันสังคม

สิทธิประกันสังคมใช้ยังไง? วิธีง่ายๆ ไม่ให้สิทธิหายฟรี

ประกันสังคมใช้ยังไง? คู่มือสิทธิประกันสังคมสำหรับคนทำงาน ครอบคลุมสิทธิคืนเงิน 900 บาท ตรวจสุขภาพประจำปี และสิทธิรักษาพยาบาลแบบไม่ให้พลาด

เผยแพร่ 14 ต.ค. 2568