เก็บเงินแต่งงาน เก็บเงินแต่งงานยังไง

อย่าให้หนี้เป็นเพื่อนเจ้าบ่าว! เก็บเงินแต่งงานยังไงให้รอด

การแต่งงานเป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่สุดของชีวิตคู่ แต่ก็เป็นหนึ่งในค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ที่หลายคนอาจประเมินต่ำไป งานแต่งไม่ได้มีแค่ค่าชุดหรือสถานที่ แต่ยังรวมถึงค่าสินสอด ค่าอาหาร ค่าของชำร่วย ค่าตกแต่ง รวมถึงค่าใช้จ่ายยิบย่อยที่มักบานปลาย หากไม่มีการวางแผนเก็บเงินแต่งงานล่วงหน้า ความสุขในวันพิเศษอาจถูกบดบังด้วยภาระหนี้สิน เพื่อให้งานแต่งในฝันไม่กลายเป็นฝันร้าย มาลองดูเคล็ดลับวางแผนเก็บเงินแต่งงานให้รอดจริงและใช้ได้กับทุกคู่

1. วางแผนการเงินให้ชัดเจน

เริ่มต้นจากการทำ “แผนการเงินแต่งงาน” ที่แยกค่าใช้จ่ายออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ

1. ค่าสินสอด - ต้องตกลงกับผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายให้ชัดเจน

2. ค่าใช้จ่ายจัดงาน - ครอบคลุมชุดบ่าวสาว สถานที่ อาหาร ของชำร่วย

3. เงินใช้หลังแต่งงาน - ซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือค่าใช้จ่ายเริ่มต้นชีวิตคู่

การมองเห็นภาพรวมตั้งแต่ต้นช่วยให้รู้ว่าต้องเก็บเงินเท่าไหร่ และจัดลำดับความสำคัญได้ถูกต้อง

2. คุยเรื่อง “สินสอด” ให้ชัดเจน

สินสอดเป็นเรื่องที่ต้องพูดคุยตรงไปตรงมากับครอบครัว เช่น บางครอบครัวอิงตามรายได้บ่าวสาวรวมกัน × 5-10 เท่า

ตัวอย่าง รายได้คู่ละ 55,000 บาท/เดือน สินสอดอาจอยู่ที่ 275,000-550,000 บาท ซึ่งการเคลียร์รายละเอียดตรงนี้แต่เนิ่นๆ จะช่วยให้คู่รักวางแผนเก็บเงินแต่งงานได้แม่นยำขึ้น

3. กำหนดงบประมาณงานแต่ง

ก่อนเลือกธีมหรือตกแต่ง ให้ตั้งเพดานงบที่พร้อมจ่าย เช่น

- งานเล็ก 100 คนในร้านอาหาร : งบประมาณ 200,000 บาท

- งานโรงแรม 300 คน : งบประมาณ 400,000 บาทขึ้นไป

การมีกรอบชัดเจนช่วยป้องกันค่าใช้จ่ายบานปลาย และยังทำให้ตัดสินใจได้เร็วขึ้นเวลาคุยกับออแกไนซ์

4. เลือกรูปแบบงานแต่งให้เข้ากับงบ

ธีมงาน - ช่วยกำหนดโทนโดยรวม (เรียบง่าย/หรูหรา/วินเทจ ฯลฯ)

สถานที่ - ร้านอาหาร, โรงแรม, บ้าน, หรือสถานที่กลางแจ้ง

รูปแบบเลี้ยง - ค็อกเทล, บุฟเฟต์, โต๊ะจีน (ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายโดยตรง)

รายละเอียดเสริม - การ์ด ของชำร่วย ชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว

ยิ่งกำหนดชัด งานก็จะยิ่งจัดเตรียมได้ง่าย และสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี

5. เปิดบัญชีเก็บเงินแต่งงานแยก

การมีบัญชีเฉพาะจะช่วยกันไม่ให้เผลอใช้เงินแต่งไปกับอย่างอื่น และยังเป็นแรงจูงใจเมื่อเห็นยอดเงินค่อยๆ เพิ่มขึ้น อาจเปิดบัญชีร่วมเพื่อให้เก็บเงินไปด้วยกัน และช่วยสร้างความรับผิดชอบร่วมกัน

6. ตั้งเป้าหมาย และระยะเวลาเก็บเงิน

ตัวอย่างเช่น

- งบแต่งงาน 500,000 บาท เก็บรวมกันเดือนละ 10,000 บาท จะใช้เวลา 50 เดือน (ประมาณ 4 ปี 2 เดือน)

ถ้าอยากแต่งภายใน 3 ปี ต้องเก็บเดือนละ ~13,900 บาท

7. เก็บก่อนใช้เสมอ

ใช้สูตรออม 10-20% ของรายได้ทันทีที่เงินเดือนเข้า ใส่ในบัญชีเก็บเงินแต่งงาน ไม่รอเหลือจากการใช้จ่าย จะช่วยให้การเก็บเป็นระบบและต่อเนื่องมากขึ้น

8. มองหาตัวช่วยถ้าจำเป็น

ถ้าเก็บเงินแล้วแต่ยังไม่พอ อาจจะมองหาสินเชื่อเป็นอีกทางเลือกได้ แต่ควรเลือกที่ ดอกเบี้ยโปร่งใส มีแผนชำระคืนชัดเจน และใช้เท่าที่จำเป็นจริงๆ เพื่อไม่ให้หนี้กลายเป็นภาระยาวหลังแต่งงาน

สรุป

การเก็บเงินแต่งงานไม่ใช่แค่เรื่องของการออมเงินก้อนใหญ่ แต่คือการวางระบบการเงินให้รัดกุมตั้งแต่ต้น เพราะงานแต่งงานมีค่าใช้จ่ายหลายด้าน ทั้งค่าสินสอด ค่าใช้จ่ายในการจัดงาน ค่าอาหาร ค่าตกแต่ง รวมถึงค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ ที่มักบานปลายโดยไม่รู้ตัว หากไม่มีการวางแผนชัดเจน ก็มีโอกาสสูงที่จะต้องหันไปพึ่งหนี้สิน ทำให้หลังแต่งงานคู่บ่าวสาวต้องใช้เวลาหลายปีเพื่อเคลียร์ภาระเหล่านั้น

สุดท้าย การแต่งงานควรเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตคู่ที่มั่นคง ไม่ใช่การเริ่มต้นชีวิตคู่ด้วยหนี้ก้อนโต หากคุณและคู่รักสามารถเก็บเงินแต่งงานอย่างมีวินัย ตัดสินใจบนพื้นฐานของความจริง และคำนึงถึงอนาคตหลังแต่งงาน งานแต่งก็จะกลายเป็นความทรงจำที่สวยงามและสร้างพลังใจในการใช้ชีวิตคู่ มากกว่าการเป็นภาระทางการเงินที่คอยถ่วงชีวิตไปอีกหลายปี

สำหรับใครที่ต้องการกู้สินเชื่อ สินเชื่อรถแลกเงินเป็นหนึ่งในคำตอบและวิธีการที่ดีที่สุดของคุณ กับเงินให้ใจที่มีความน่าเชื่อถือจากบริษัท เงินให้ใจ จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อรถตู้ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสามารถขอใช้บริการได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คำนวณวงเงินสินเชื่อและสมัครสินเชื่อได้ทันทีที่ https://www.ngernhaijai.com/

“กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนรถ 12.82% - 24.00% สินเชื่อโอนเล่มทะเบียนรถ แบ่งเป็นกรณีบุคคลธรรมดามีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการส่วนตัว 6.08% - 15.00% และกรณีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ 6.08% - 26.62%”

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Website : https://www.ngernhaijai.com/

Line : https://bit.ly/3zDd5Kz

เงินให้ใจ โทร : 02 078 8899

เผยแพร่ 14 ต.ค. 2568

บทความอื่น ๆ

ดอกเบี้ยผิดนัด

ดอกเบี้ยผิดนัดคืออะไร? ทำไม ยอดหนี้พุ่งเร็วกว่าที่คิด!

เข้าใจดอกเบี้ยผิดนัดภายใต้กฎหมายใหม่ ดอกเบี้ยสูงสุดคิดได้เท่าไร? ผิดนัดกี่วันเริ่มคิดดอก? และวิธีป้องกันไม่ให้ยอดหนี้บานแบบไม่รู้ตัว

เผยแพร่ 13 พ.ย. 2568

ค้ำประกัน

ก่อนจะ "ค้ำประกัน" ให้ใคร... คิดให้ดี! ไม่งั้นอาจเป็นหนี้แทนเพื่อนแบบงง ๆ

ค้ำประกันคืออะไร เสี่ยงแค่ไหน กระทบเครดิตยังไง เช็กให้ครบก่อนเซ็น พร้อมเช็กลิสต์ตัดสินใจที่ปลอดภัยกว่า

เผยแพร่ 13 พ.ย. 2568

แม่ค้า

แม่ค้า Street Food ยุคใหม่ต้องรู้! อัพเกรดการเงินให้เหลือเก็บทุกเดือน

ขายดีแต่ไม่รู้เงินหายไปไหน? รู้เทคนิคจัดการเงินแบบแม่ค้าสมัยใหม่ วางระบบเงินหมุน เก็บยังไงให้อยู่ เหลือกำไรทุกเดือนจริง

เผยแพร่ 13 พ.ย. 2568