7 เทคนิค ประหยัดค่ารถฉบับคนใช้รถทำมาหากิน เติมกำไรแบบไม่เจ็บกระเป๋า
สำหรับคนที่ใช้รถทำมาหากิน ไม่ว่าจะเป็นคนขับแท็กซี่ คนขับรถรับส่งอาหาร พ่อค้าแม่ค้าที่ต้องขนของไปขาย หรือผู้ประกอบการที่ต้องเดินทางพบลูกค้า "รถ" คือเครื่องมือทำมาหากินที่สำคัญ แต่ในขณะเดียวกัน รถก็เป็นแหล่งรายจ่ายก้อนใหญ่ไม่แพ้กัน ทั้งค่าน้ำมันที่ราคาขึ้น-ลงตามตลาดโลก ค่าบำรุงรักษาที่ต้องจ่ายเป็นประจำ ค่าเปลี่ยนยางเมื่อใช้งานมานาน ค่าทางด่วนที่ต้องจ่ายเพื่อความรวดเร็ว รวมถึงค่าซ่อมเมื่อเกิดปัญหา บทความนี้ เงินให้ใจ รวบรวม 7 เทคนิคประหยัดเงินค่ารถฉบับคนใช้รถทำมาหากิน ที่ทำได้จริงทุกวัน โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่ม ช่วยให้คุณลดรายจ่ายและเพิ่มกำไรในกระเป๋าได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ
1. ขับอย่างมีสติ ไม่เร่ง-ไม่เบรกแรง คือหัวใจของการประหยัดน้ำมัน
การขับรถแบบคงความเร็ว (Steady Speed) โดยไม่เร่งแรงแล้วเบรกกะทันหัน จะช่วยประหยัดน้ำมันได้อย่างมาก นอกจากนี้ การใช้เกียร์ให้เหมาะสมกับความเร็วและสภาพถนน ก็เป็นอีกหนึ่งเทคนิคสำคัญ โดยทั่วไปแล้ว ควรเปลี่ยนเกียร์ขึ้นเมื่อความเร็วรอบเครื่องยนต์อยู่ที่ประมาณ 2,000-2,500 รอบต่อนาที
อีกหนึ่งเคล็ดลับคือ การยกคันเร่งล่วงหน้าก่อนถึงไฟแดงหรือจุดที่ต้องหยุดรถ เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดน้ำมันแล้ว ยังช่วยลดการสึกหรอของผ้าเบรกอีกด้วย การขับรถอย่างนุ่มนวลไม่ใช่แค่เรื่องของความปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังเป็นการ "เพิ่มรายได้โดยอ้อม" เพราะทำให้รถเสื่อมสภาพช้าลง และลดความถี่ในการซ่อมบำรุง
2. ตรวจลมยางสม่ำเสมอ ช่วยลดค่าน้ำมันได้ทันที
หลายคนอาจไม่ทราบว่า ลมยางที่อ่อนเกินไปส่งผลโดยตรงต่อการใช้น้ำมัน เนื่องจากแรงเสียดทานระหว่างยางกับพื้นถนนมากขึ้น ทำให้เครื่องยนต์ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อขับเคลื่อนรถ
การเติมลมยางควรทำตามค่าที่ผู้ผลิตแนะนำ ซึ่งสามารถดูได้จากสติกเกอร์ที่ติดอยู่บริเวณขอบประตูด้านคนขับ หรือที่ฝาปิดถังน้ำมัน โดยทั่วไปแล้ว ค่ามาตรฐานของลมยางรถยนต์ทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 30-33 PSI
ควรเช็กลมยางอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง หรือก่อนการเดินทางไกล และต้องเติมลมยางในขณะที่ยางเย็น เพราะเมื่อขับรถไปสักระยะ ความร้อนจะทำให้ลมยางขยายตัว ค่าที่วัดได้จะสูงกว่าความเป็นจริง การตรวจสอบลมยางอย่างสม่ำเสมอนอกจากจะช่วยประหยัดน้ำมันแล้ว ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของยาง ทำให้ประหยัดเงินค่าเปลี่ยนยางในระยะยาวอีกด้วย
3. ใช้เส้นทางที่คุ้มเวลาและค่าน้ำมัน
ในยุคที่มีเทคโนโลยีนำทางและแผนที่ออนไลน์ การวางแผนเส้นทางก่อนออกเดินทางเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ยาก แอปพลิเคชันอย่าง Google Maps หรือระบบนำทาง GPS สามารถช่วยให้คุณเลือกเส้นทางที่รวดเร็วและหลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีการจราจรติดขัด
หลักการสำคัญคือ "ขับน้อยรอบ ใช้พลังงานน้อยกว่า" สำหรับผู้ที่ต้องเดินทางไปหลายจุดในแต่ละวัน การวางแผนเส้นทางให้ดีจะช่วยลดระยะทางรวมและประหยัดทั้งเวลาและน้ำมัน
สำหรับคนรับจ้างหรือขนส่งสินค้า ควรพยายามรวมงานในเส้นทางเดียวกันเพื่อลดการวิ่งรถเปล่า เช่น ถ้าต้องไปส่งของที่ฝั่งธนบุรี ก็ควรหางานรับกลับจากแถวนั้นด้วย ไม่ใช่วิ่งรถเปล่ากลับ ซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองน้ำมันโดยไม่เกิดประโยชน์ ทุกกิโลเมตรที่ประหยัดได้ คือ “ต้นทุนที่คืนกลับเข้ากำไร" ของคุณนั่นเอง
4. ตรวจสภาพรถตามรอบ ไม่ปล่อยให้เสียแล้วค่อยซ่อม
สำหรับรถที่ใช้งานหนักทุกวัน การบำรุงรักษาตามรอบเป็นสิ่งสำคัญมาก การเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง กรองอากาศ และหัวเทียนตามระยะเวลาที่กำหนด จะช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดน้ำมัน และยืดอายุการใช้งานของรถ
รถที่ได้รับการบำรุงรักษาอย่างดีจะมีประสิทธิภาพสูงกว่ารถที่ขาดการดูแล เครื่องยนต์ที่สกปรกหรือมีปัญหาจะใช้น้ำมันมากขึ้น และมีโอกาสเสียหายรุนแรงได้ ซึ่งจะทำให้ต้องเสียค่าซ่อมมากกว่าค่าบำรุงรักษาตามปกติหลายเท่า
นอกจากนี้ การเก็บบันทึกการซ่อมบำรุงทุกครั้งจะช่วยให้คุณติดตามและควบคุมค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้ดีขึ้น ทำให้เห็นแนวโน้มของค่าใช้จ่ายและสามารถวางแผนงบประมาณล่วงหน้าได้อย่างเหมาะสม
5. รู้จักวางแผนภาษี-ประกันรถให้คุ้มที่สุด
การจัดการเรื่องภาษีและประกันรถอย่างชาญฉลาดเป็นอีกหนึ่งวิธีในการประหยัดค่าใช้จ่าย เมื่อถึงเวลาต่อประกันรถ ไม่ควรต่ออัตโนมัติทันทีกับบริษัทเดิม ควรเปรียบเทียบเบี้ยประกันจากหลาย ๆ บริษัท โดยดูทั้งความคุ้มครอง ระยะเวลา และเบี้ยประกัน
สำหรับภาษีรถ โดยเฉพาะรถที่ใช้ในธุรกิจ เช่น รถขนส่งสินค้าหรือรถรับจ้าง สามารถนำมาคิดเป็นค่าใช้จ่ายในการลดหย่อนภาษีได้ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีเพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอย่างเต็มที่
อีกเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามคือการตรวจสภาพรถล่วงหน้าก่อนต่อภาษี เพื่อให้แน่ใจว่ารถของคุณจะผ่านการตรวจสภาพโดยไม่มีปัญหา ไม่ต้องเสียค่าปรับหรือค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมจากการต่อภาษีล่าช้า
6. แยกบัญชี "รายได้จากรถ" และ "ค่าใช้จ่ายรถ" ให้ชัด
สำหรับผู้ที่ใช้รถในการทำมาหากิน เช่น พ่อค้าแม่ค้าเร่ คนขับรถรับจ้าง หรือผู้ให้บริการส่งอาหาร การแยกบัญชีรายรับ-รายจ่ายที่เกี่ยวกับรถเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะจะทำให้คุณเห็นภาพรวมของต้นทุนและกำไรได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
การเปิดบัญชีแยกเฉพาะสำหรับรายรับและรายจ่ายเกี่ยวกับรถจะช่วยให้คุณรู้ต้นทุนที่แท้จริงต่อวันหรือต่อเดือน ว่ารถหนึ่งคันใช้เงินเท่าไร และสร้างรายได้เท่าไร หากพบว่าค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับรถสูงเกินไปเมื่อเทียบกับรายได้ คุณอาจต้องพิจารณาปรับกลยุทธ์ในการทำงานหรือหาทางลดค่าใช้จ่าย
ข้อมูลจากบัญชีนี้ยังช่วยในการวางแผนเก็บเงินสำรองสำหรับค่าซ่อมบำรุงในอนาคต และช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่ารถคันปัจจุบันยังคุ้มค่าที่จะใช้งานต่อไปหรือไม่ หรือถึงเวลาที่ควรเปลี่ยนเป็นรถคันใหม่ที่ประหยัดเงินกว่าแล้ว
7. อย่าลืม "เก็บเงินสำรองฉุกเฉิน" เผื่อค่าซ่อมหนัก
การเก็บเงินสำรองไว้สำหรับกรณีฉุกเฉินเป็นหลักปฏิบัติที่สำคัญสำหรับคนใช้รถทำมาหากิน ควรเฉลี่ยเงินประมาณ 5-10% ของรายได้จากรถในแต่ละเดือน เพื่อเก็บเป็นกองทุนซ่อมบำรุงรถยนต์
รถที่ใช้งานหนักทุกวันย่อมมีโอกาสเสียหรือเกิดปัญหากลางทางได้ตลอดเวลา การมีเงินสำรองไว้จะทำให้คุณสามารถจัดการกับปัญหาได้ทันที โดยไม่ต้องพึ่งการกู้ยืมเงินนอกระบบที่มีดอกเบี้ยสูงหรือสินเชื่อฉุกเฉิน
"ขับรถแบบมืออาชีพ ต้องคิดเหมือนนักธุรกิจ" การมีทุนสำรองไม่ใช่เพียงแค่การเตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว ทุนสำรองที่คุณเก็บไว้วันนี้คือกำไรที่คุณจะได้รับในอนาคตนั่นเอง
สรุป
การประหยัดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับรถไม่ใช่เพียงแค่การลดรายจ่ายเท่านั้น แต่คือ "การบริหารต้นทุนให้มีกำไรเหลือมากขึ้น" ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจทุกประเภท
คนที่ใช้รถทำมาหากินได้กำไรมากกว่าคนอื่นไม่ใช่เพราะพวกเขารับงานมากกว่าหรือทำงานหนักกว่าเสมอไป แต่เป็นเพราะพวกเขา "ใช้ต้นทุนอย่างฉลาดกว่า" รู้จักวางแผนค่าใช้จ่าย บำรุงรักษารถอย่างสม่ำเสมอ และมีวินัยทางการเงิน
ไม่ว่าคุณจะเป็นคนขับแท็กซี่ คนส่งอาหาร พ่อค้าแม่ค้าเร่ หรือผู้ประกอบการที่ต้องเดินทางพบลูกค้า การนำเทคนิคทั้ง 7 ข้อนี้ไปปรับใช้จะช่วยให้ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับรถของคุณลดลง และทำให้คุณมีกำไรเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะเงินที่ประหยัดได้ทุกบาทคือกำไรที่เพิ่มขึ้นในกระเป๋าของคุณนั่นเอง
สำหรับใครที่ต้องการกู้สินเชื่อ สินเชื่อรถแลกเงินเป็นหนึ่งในคำตอบและวิธีการที่ดีที่สุดของคุณ กับเงินให้ใจที่มีความน่าเชื่อถือจากบริษัท เงินให้ใจ จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการ สินเชื่อรถตู้ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสามารถขอใช้บริการได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คำนวณวงเงินสินเชื่อและสมัครสินเชื่อได้ทันทีที่ https://www.ngernhaijai.com/
“กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนรถ 12.82% - 24.00% สินเชื่อโอนเล่มทะเบียนรถ แบ่งเป็นกรณีบุคคลธรรมดามีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการส่วนตัว 6.08% - 15.00% และกรณีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ 6.08% - 26.62%”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.ngernhaijai.com/
Line : https://bit.ly/3zDd5Kz
เงินให้ใจ โทร : 02 078 8899
เผยแพร่ 13 พ.ย. 2568
บทความอื่น ๆ
ดอกเบี้ยผิดนัดคืออะไร? ทำไม ยอดหนี้พุ่งเร็วกว่าที่คิด!
เข้าใจดอกเบี้ยผิดนัดภายใต้กฎหมายใหม่ ดอกเบี้ยสูงสุดคิดได้เท่าไร? ผิดนัดกี่วันเริ่มคิดดอก? และวิธีป้องกันไม่ให้ยอดหนี้บานแบบไม่รู้ตัว
เผยแพร่ 13 พ.ย. 2568
ก่อนจะ "ค้ำประกัน" ให้ใคร... คิดให้ดี! ไม่งั้นอาจเป็นหนี้แทนเพื่อนแบบงง ๆ
ค้ำประกันคืออะไร เสี่ยงแค่ไหน กระทบเครดิตยังไง เช็กให้ครบก่อนเซ็น พร้อมเช็กลิสต์ตัดสินใจที่ปลอดภัยกว่า
เผยแพร่ 13 พ.ย. 2568
แม่ค้า Street Food ยุคใหม่ต้องรู้! อัพเกรดการเงินให้เหลือเก็บทุกเดือน
ขายดีแต่ไม่รู้เงินหายไปไหน? รู้เทคนิคจัดการเงินแบบแม่ค้าสมัยใหม่ วางระบบเงินหมุน เก็บยังไงให้อยู่ เหลือกำไรทุกเดือนจริง
เผยแพร่ 13 พ.ย. 2568