ดอกเบี้ยผิดนัดคืออะไร? ทำไม ยอดหนี้พุ่งเร็วกว่าที่คิด!
"เดือนนี้มีเหตุฉุกเฉินนิดหน่อย เลยจ่ายบัตรช้าไปแค่ 2-3 วัน คงไม่เป็นอะไรมาก..."
หลายคนอาจเคยคิดแบบนี้ แต่พอได้รับใบแจ้งยอดในเดือนถัดไป กลับพบว่ามียอดค้างชำระที่สูงขึ้นอย่างน่าตกใจ ทั้งที่จ่ายล่าช้าเพียงไม่กี่วัน ยอดสุดท้ายกลับบานกว่าเดิมหลายร้อยบาท บางรายอาจเป็นพันบาทหากยอดค้างชำระมีมูลค่าสูง ความจริงที่หลายคนอาจไม่ทราบคือ "ดอกเบี้ยผิดนัด" คิดคำนวณในรูปแบบที่ต่างจากดอกเบี้ยปกติ และยิ่งปล่อยให้ค้างชำระนานเท่าไร ดอกเบี้ยยิ่งถูกทบต้นมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ยอดหนี้พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว บทความนี้ เงินให้ใจ จะพาคุณทำความเข้าใจกับ "ดอกเบี้ยผิดนัด" ว่ามันคืออะไร คำนวณอย่างไรภายใต้กฎหมายใหม่ และมีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยป้องกันไม่ให้ยอดหนี้บานปลายจนเกินควบคุม ซึ่งจะช่วยให้คุณบริหารการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ดอกเบี้ยผิดนัด คืออะไร?
ดอกเบี้ยผิดนัด คือ "ค่าปรับ" ที่เจ้าหนี้เรียกเก็บจากลูกหนี้ เมื่อลูกหนี้ชำระหนี้ล่าช้ากว่าระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อชดเชยความเสียหายที่เจ้าหนี้ได้รับจากการที่ไม่ได้รับชำระหนี้ตามกำหนด และเป็นมาตรการลงโทษหรือป้องปรามไม่ให้ลูกหนี้ผิดนัดชําระหนี้
ดอกเบี้ยผิดนัดมีความแตกต่างจาก "ดอกเบี้ยตามสัญญา" ซึ่งเป็นผลตอบแทนปกติที่ผู้ให้กู้ได้รับจากการให้ลูกหนี้ใช้เงิน กล่าวอีกนัยหนึ่ง
- ดอกเบี้ยปกติ = ค่าตอบแทนที่ลูกหนี้จ่ายให้เจ้าหนี้สำหรับการใช้เงิน
- ดอกเบี้ยผิดนัด = ค่าชดเชยความเสียหายที่เจ้าหนี้เรียกเก็บเมื่อลูกหนี้ชำระล่าช้า
ตัวอย่างการคำนวณดอกเบี้ยผิดนัดเบื้องต้น
สมมติว่าคุณกู้เงิน 100,000 บาท มีดอกเบี้ยปกติ 10% ต่อปี ผ่อนชำระเดือนละ 10,000 บาท แต่ในเดือนหนึ่ง คุณผิดนัดชําระหนี้เป็นระยะเวลา 2 เดือน
ในกรณีนี้ ดอกเบี้ยผิดนัดจะคิดเพิ่มเติมจากยอด 10,000 บาท ที่ค้างชำระในช่วง 2 เดือนนั้น (ไม่ใช่จากยอดหนี้ทั้งหมด) ซึ่งอัตราดอกเบี้ยผิดนัดจะขึ้นอยู่กับข้อกำหนดในสัญญาและกฎหมายที่ใช้บังคับในขณะนั้น
ดอกเบี้ยผิดนัดตามกฎหมายใหม่ คิดยังไง
กฎหมายเกี่ยวกับดอกเบี้ยผิดนัดในประเทศไทยได้มีการแก้ไขใหม่ เพื่อให้การคิดดอกเบี้ยผิดนัดมีความเป็นธรรมมากขึ้นสำหรับผู้บริโภค โดยแบ่งเป็น 2 กรณีหลักตามประเภทของเจ้าหนี้
1. หลักการคิดดอกเบี้ยผิดนัดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
สำหรับกรณีที่เจ้าหนี้ไม่ใช่ผู้ให้บริการภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย (เช่น การกู้ยืมระหว่างบุคคล สัญญาสร้างบ้าน สัญญาเช่า สัญญาชดใช้ค่าเสียหาย) การคิดดอกเบี้ยผิดนัด แก้ไขใหม่ จะเป็นไปตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224 ที่แก้ไขใหม่ ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2564 โดยมีหลักการดังนี้:
- อัตราดอกเบี้ยผิดนัดตามกฎหมาย = กรณีไม่ได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้ ใช้อัตราดอกเบี้ยตามมาตรา 7 (ร้อยละ 3 ต่อปี) บวกด้วยอัตราเพิ่มร้อยละ 2 ต่อปี เท่ากับร้อยละ 5 ต่อปี
- ไม่สามารถคิดดอกเบี้ยซ้อนดอกเบี้ยในระหว่างผิดนัดได้
- หากมีการระบุอัตราดอกเบี้ยไว้ในสัญญา จะคิดดอกเบี้ยผิดนัดเท่ากับดอกเบี้ยในสัญญาได้ แต่ต้องไม่เกินร้อยละ 15 ต่อปี
นอกจากนี้ ตามมาตรา 224/1 ระบุว่า ถ้าลูกหนี้ผ่อนชำระหนี้เป็นงวด และผิดนัดไม่ชำระงวดใด เจ้าหนี้สามารถเรียกดอกเบี้ยผิดนัดได้เฉพาะจากเงินต้นในงวดที่ลูกหนี้ผิดนัดเท่านั้น ไม่ใช่จากยอดหนี้ทั้งหมดที่เหลือ
2. หลักการคิดดอกเบี้ยผิดนัดตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
สำหรับสถาบันการเงินภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธนาคาร บริษัทเงินทุน บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ หรือผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล) จะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 โดยมีหลักการดังนี้:
- คิดดอกเบี้ยผิดนัดจากฐานเงินต้นของงวดที่ผิดนัดชำระจริงเท่านั้น ไม่ใช่จากยอดหนี้คงเหลือทั้งหมด
- อัตราดอกเบี้ยผิดนัด = อัตราดอกเบี้ยตามสัญญาบวกไม่เกินร้อยละ 3 ต่อปี (เช่น ถ้าดอกเบี้ยปกติร้อยละ 7 ดอกเบี้ยผิดนัดต้องไม่เกินร้อยละ 10)
- การตัดชำระหนี้จะเป็นแบบแนวนอน โดยตัดชำระงวดค้างชำระที่นานที่สุดก่อน
เพดานอัตราดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อประเภทต่างๆ
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กำหนดเพดานอัตราดอกเบี้ยสูงสุด (รวมดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการ และค่าธรรมเนียมทุกประเภท) ดังนี้:
- สินเชื่อส่วนบุคคล / สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ : ไม่เกินร้อยละ 25 ต่อปี
- บัตรเครดิต : ไม่เกินร้อยละ 16 ต่อปี
โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bot.or.th/th/satang-story/managing-debt/default-interest.html
ผิดนัดแค่ไม่กี่วัน... เริ่มคิดดอกเมื่อไหร่?
หลายคนอาจสงสัยว่า ถ้าชำระเงินล่าช้าเพียงไม่กี่วัน จะเริ่มมีการคิดดอกเบี้ยผิดนัดเมื่อไร คำตอบคือ โดยทั่วไปแล้ว ดอกเบี้ยผิดนัดจะเริ่มคำนวณ "ตั้งแต่วันถัดจากวันครบกำหนดชำระ" ไม่ว่าจะล่าช้าเพียง 1 วันหรือหลายวัน
วิธีป้องกันไม่ให้โดนดอกเบี้ยผิดนัด
การป้องกันไม่ให้ต้องเผชิญกับปัญหาดอกเบี้ยผิดนัดเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับปัญหานี้ นี่คือวิธีที่คุณสามารถทำได้
1. ตั้งเตือนการชำระเงินล่วงหน้า ตั้งการแจ้งเตือนในปฏิทินหรือโทรศัพท์มือถือล่วงหน้า 1-3 วันก่อนวันครบกำหนดชำระ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะไม่ลืมชำระหนี้ตามกำหนด
2. ใช้ระบบตัดบัญชีอัตโนมัติ สมัครบริการตัดบัญชีอัตโนมัติ (Auto Pay) สำหรับการชำระค่างวดสินเชื่อหรือบัตรเครดิตรายเดือน ซึ่งจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าเงินจะถูกตัดตามกำหนดเวลาโดยไม่ต้องกังวลว่าจะลืม
3. แจ้งเจ้าหนี้ล่วงหน้าหากคาดว่าจะชำระล่าช้า หากคุณคาดการณ์ว่าจะไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด ให้โทรแจ้งสถาบันการเงินล่วงหน้าก่อนถึงวันครบกำหนด เพื่อ "ขอเลื่อนการชำระ" หรือ "ขอปรับโครงสร้างชั่วคราว" ซึ่งอาจช่วยลดหรือยกเว้นดอกเบี้ยผิดนัดได้
4. จัดการหนี้ก้อนใหญ่ด้วยการรวมสินเชื่อ หากคุณมีภาระหนี้หลายก้อนและเริ่มรู้สึกว่ายากต่อการจัดการ ให้พิจารณารวมสินเชื่อ (Debt Consolidation) เพื่อรวมหนี้หลายก้อนเข้าด้วยกัน ซึ่งจะช่วยลดอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยและทำให้การชำระง่ายขึ้น
5. จัดทำงบประมาณและตั้งเงินสำรองฉุกเฉิน วางแผนการใช้จ่ายและจัดทำงบประมาณให้มีเงินเพียงพอสำหรับการชำระหนี้ทุกเดือน และพยายามสร้างเงินสำรองฉุกเฉินไว้อย่างน้อย 3-6 เดือนของค่าใช้จ่าย เพื่อรองรับสถานการณ์ไม่คาดฝัน
ถ้าผิดนัดชำระหนี้ไปแล้ว ควรทำอย่างไร
หากคุณได้ผิดนัดชําระหนี้ไปแล้ว นี่คือสิ่งที่ควรทำเพื่อจัดการกับสถานการณ์
1. ติดต่อเจ้าหนี้โดยเร็ว รีบติดต่อเจ้าหนี้ทันทีที่สามารถทำได้ และก่อนที่จะถึงรอบการชำระในงวดถัดไป อธิบายสถานการณ์และแสดงความตั้งใจที่จะชำระหนี้
2. ขอรับใบแจ้งยอดปัจจุบัน ขอรับใบแจ้งหนี้ใหม่เพื่อทราบยอดที่ต้องชำระทั้งหมด รวมถึงดอกเบี้ยผิดนัดและค่าปรับต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจภาระหนี้ทั้งหมดที่ต้องชำระ
3. พิจารณาขอปรับโครงสร้างหนี้ หากคุณพบว่ายอดผ่อนปัจจุบันสูงเกินไปและอาจส่งผลให้ผิดนัดชำระอีกในอนาคต ให้พิจารณาขอปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงิน ซึ่งอาจรวมถึงการขยายระยะเวลาผ่อนชำระ การลดอัตราดอกเบี้ย หรือการพักชำระเงินต้นชั่วคราว
4. ตรวจสอบความถูกต้องของยอดเรียกเก็บ หากคุณสงสัยว่ายอดเรียกเก็บอาจไม่ถูกต้องหรือสูงเกินไป ให้ตรวจสอบรายละเอียดและคำนวณด้วยตัวเอง หากพบความผิดปกติ ให้สอบถามเจ้าหนี้และขอคำอธิบาย
5. ขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากคุณถูกเรียกเก็บดอกเบี้ยผิดนัดหรือค่าปรับที่สูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม สามารถขอความช่วยเหลือจาก "ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ศคง.)" โทร. 1213
สรุป
ดอกเบี้ยผิดนัดอาจดูเหมือนเป็นจำนวนเงินเล็กน้อยในตอนแรก เช่น การผิดนัดชำระเพียงวันเดียวอาจทำให้คุณต้องจ่ายเพิ่มเพียงไม่กี่สิบบาท แต่หากปล่อยให้มีการผิดนัดชำระต่อเนื่องเป็นเดือนหรือหลายเดือน ยอดหนี้อาจบานปลายเป็นพันหรือหมื่นบาทได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากการคิดดอกเบี้ยทบต้นและค่าปรับต่างๆ
ถึงแม้กฎหมายใหม่จะช่วยจำกัดอัตราดอกเบี้ยผิดนัดให้เป็นธรรมมากขึ้น แต่การป้องกันไม่ให้เกิดการผิดนัดชําระหนี้ตั้งแต่แรกยังคงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับปัญหานี้
การจัดการหนี้อย่างมีประสิทธิภาพไม่เพียงแต่จะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าของคุณเท่านั้น แต่ยังช่วยรักษาสุขภาพทางการเงินและความสงบในจิตใจของคุณในระยะยาวอีกด้วย
สำหรับใครที่ต้องการกู้สินเชื่อ สินเชื่อรถแลกเงินเป็นหนึ่งในคำตอบและวิธีการที่ดีที่สุดของคุณ กับเงินให้ใจที่มีความน่าเชื่อถือจากบริษัท เงินให้ใจ จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสามารถขอใช้บริการได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คำนวณวงเงินสินเชื่อและสมัครสินเชื่อได้ทันทีที่ https://www.ngernhaijai.com/
“กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนรถ 12.82% - 24.00% สินเชื่อโอนเล่มทะเบียนรถ แบ่งเป็นกรณีบุคคลธรรมดามีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการส่วนตัว 6.08% - 15.00% และกรณีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ 6.08% - 26.62%”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.ngernhaijai.com/
Line : https://bit.ly/3zDd5Kz
เงินให้ใจ โทร : 02 078 8899
เผยแพร่ 13 พ.ย. 2568
บทความอื่น ๆ
รักษาสภาพรถให้ดี กู้ง่าย วงเงินสูง ดอกเบี้ยสบายกระเป๋า
รักษาสภาพรถให้ดี รับสินเชื่อรถแลกเงินวงเงินสูง ดอกเบี้ยต่ำ กระบวนการรวดเร็ว ยังใช้รถได้ตามปกติ สมัครกับเงินให้ใจ ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา
เผยแพร่ 18 ธ.ค. 2568
ทำไมคนถึงนิยมรีไฟแนนซ์รถยนต์เมื่อผ่อนมาสักระยะหนึ่ง
สินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์คืออะไร ทำไมนิยม ได้เงินก้อนใหญ่ ลดค่าผ่อน ดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติไว ยังใช้รถได้ สมัครสินเชื่อรีไฟแนนซ์กับเงินให้ใจวันนี้
เผยแพร่ 18 ธ.ค. 2568
5 เช็กลิสต์ก่อนขอสินเชื่อรถแลกเงิน เพื่อไม่ให้เป็นหนี้เกินตัว
ก่อนขอสินเชื่อรถแลกเงิน ต้องเช็กอะไรบ้าง? เงินให้ใจแนะนำ 5 เช็กลิสต์สำคัญ ช่วยวางแผนชำระหนี้ ให้คุณกู้อย่างฉลาด ไม่เป็นหนี้เกินตัว สมัครกับเงินให้ใจ
เผยแพร่ 18 ธ.ค. 2568