ภาษีรถตู้ต้องรู้อะไรบ้าง? เช็กก่อนโดนปรับไม่รู้ตัว
รถตู้เป็นรถยนต์ที่ได้รับความนิยมสูงในประเทศไทย ทั้งสำหรับใช้งานในครอบครัวขนาดใหญ่ ธุรกิจรับส่งพนักงาน หรือธุรกิจท่องเที่ยว แต่หลายคนที่เป็นเจ้าของรถตู้อาจยังไม่เข้าใจเรื่องภาษีรถตู้อย่างละเอียด ซึ่งอาจทำให้เสียค่าปรับจากการค้างชำระโดยไม่รู้ตัว วันนี้ เงินให้ใจจะมาอธิบายทุกสิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับภาษีรถตู้ ตั้งแต่การคำนวณ ประเภทป้ายทะเบียน ไปจนถึงวิธีการต่อภาษีที่สะดวกที่สุด
รถตู้มีกี่ประเภท? แยกตามป้ายทะเบียน
ก่อนจะเข้าใจเรื่องภาษี ต้องรู้จักประเภทของรถตู้ก่อน เพราะแต่ละประเภทมีอัตราภาษีที่แตกต่างกัน
รถตู้แบ่งตามป้ายทะเบียนออกเป็น 2 ประเภทหลัก :
1. รถตู้ส่วนบุคคล (ป้ายขาวตัวหนังสือสีน้ำเงิน) เป็นรถยนต์ส่วนบุคคลที่มีที่นั่งเกิน 7 ที่นั่ง
2. รถบรรทุกส่วนบุคคลเกิน 7 ที่นั่ง (ป้ายขาวตัวหนังสือสีเขียว) เป็นรถตู้ที่ออกแบบมาเพื่อใช้ขนส่งสินค้าหรือใช้งานเชิงพาณิชย์ เช่น รถตู้ขนของ รถตู้รับจ้าง โดยจะมีพื้นที่ด้านหลังสำหรับบรรทุกสินค้า
ความแตกต่างสำคัญระหว่าง 2 ประเภท :
- อัตราภาษีต่างกัน (ป้ายน้ำเงินจ่ายสูงกว่า)
- การใช้งาน (ป้ายเขียวใช้เชิงพาณิชย์ได้)
- เอกสารที่ต้องใช้ในการจดทะเบียน
วิธีคำนวณภาษีรถตู้อย่างละเอียด
การคำนวณภาษีรถตู้จะคิดตามน้ำหนักรถ ไม่ใช่ตามขนาดเครื่องยนต์เหมือนรถเก๋ง และมีอัตราที่แตกต่างกันตามประเภทป้ายทะเบียน
ภาษีรถตู้ส่วนบุคคล (ป้ายขาวตัวหนังสือสีน้ำเงิน)
รถตู้ส่วนบุคคลมีการคำนวณภาษีแบบง่าย แบ่งตามน้ำหนักเพียง 2 เกณฑ์
1. น้ำหนักรถไม่เกิน 1,800 กิโลกรัม
- อัตราภาษี 1,300 บาท/ปี
- รถตู้ส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มนี้
2. น้ำหนักรถเกิน 1,800 กิโลกรัม
- อัตราภาษี 1,600 บาท/ปี
- รถตู้ขนาดใหญ่หรือรุ่นที่ติดตั้งอุปกรณ์เสริมจนทำให้น้ำหนักเพิ่ม
วิธีเช็กน้ำหนักรถ : ดูได้จากสมุดคู่มือจดทะเบียนรถ (เล่มทะเบียน) หน้า 8 จะระบุน้ำหนักรถไว้ชัดเจน
ภาษีรถบรรทุกส่วนบุคคลเกิน 7 ที่นั่ง (ป้ายขาวตัวหนังสือสีเขียว)
รถตู้ประเภทนี้มีอัตราภาษีที่ค่อนข้างซับซ้อน แบ่งเป็นหลายช่วงน้ำหนัก
- น้ำหนัก 0-500 กก. อัตราภาษี 300 บาท
- น้ำหนัก 501-750 กก. อัตราภาษี 450 บาท
- น้ำหนัก 751-1,000 กก. อัตราภาษี 600 บาท
- น้ำหนัก 1,001-1,250 กก. อัตราภาษี 750 บาท
- น้ำหนัก 1,251-1,500 กก. อัตราภาษี 900 บาท
- น้ำหนัก 1,501-1,750 กก. อัตราภาษี 1,050 บาท
- น้ำหนัก 1,751-2,000 กก. อัตราภาษี 1,350 บาท
- น้ำหนัก 2,001-2,500 กก. อัตราภาษี 1,650 บาท
- น้ำหนัก 2,501-3,000 กก. อัตราภาษี 1,950 บาท
ตัวอย่างการคำนวณ : รถตู้ขนส่งสินค้าน้ำหนัก 1,800 กก. จะอยู่ในช่วง 1,751-2,000 กก. จ่ายภาษี 1,350 บาท/ปี
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ นอกจากภาษีรถตู้
นอกจากภาษีประจำปีแล้ว เจ้าของรถตู้ยังต้องเตรียมค่าใช้จ่ายอื่นๆ ดังนี้
- ค่าพรบ. (ประกันภัยภาคบังคับ) ขึ้นอยู่กับบริษัทประกันและจำนวนที่นั่ง
- ค่าตรวจสภาพรถ (ถ้าครบกำหนด) 50 บาท รถตู้ทั่วไปต้องตรวจสภาพทุก 1 ปี หลังจากรถมีอายุครบ 7 ปี
- ค่าทำประกันภัยชั้น 1, 2, 3 (ถ้าต้องการ)
วิธีต่อภาษีรถตู้ออนไลน์ สะดวกไม่ต้องไปกรมขนส่ง
ปัจจุบันสามารถต่อภาษีรถตู้ออนไลน์ได้อย่างสะดวก ผ่านหลายช่องทาง
1. แอป DLT e-Service (แอปกรมการขนส่งทางบก)
ขั้นตอนการต่อภาษีผ่านแอป :
- ดาวน์โหลดแอป DLT e-Service (iOS/Android)
- ลงทะเบียนและยืนยันตัวตน
- เลือกเมนู "ต่อภาษีรถยนต์"
- กรอกข้อมูลทะเบียนรถและเอกสาร
- อัพโหลดรูปเล่มทะเบียน บัตรประชาชน
- ชำระเงินผ่านบัตรเครดิต/พร้อมเพย์
- รอรับป้ายภาษีทางไปรษณีย์
2. เว็บไซต์ กรมการขนส่งทางบก
เข้าผ่าน : www.dlt.go.th
- เลือกเมนู "บริการออนไลน์"
- เลือก "ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์"
- ปฏิบัติตามขั้นตอนเช่นเดียวกับแอป
3. ต่อภาษีที่เคาน์เตอร์บริการ
สถานที่ที่สามารถต่อภาษีได้ :
- สำนักงานขนส่งทุกจังหวัด
- เคาน์เตอร์ธนาคาร (ธนาคารที่ให้บริการ)
- ศูนย์บริการประชาชน (ในห้างสรรพสินค้าบางแห่ง)
เอกสารที่ต้องเตรียม :
- บัตรประชาชนตัวจริง
- เล่มทะเบียนรถตัวจริง
- ป้ายภาษีเดิม (ถ้ามี)
เคล็ดลับในการจัดการภาษีรถตู้
- ตั้งเตือนก่อนครบกำหนดล่วงหน้า 1 เดือน จดวันที่ต่อภาษีไว้ในปฏิทิน หรือตั้งแจ้งเตือนในมือถือ เพื่อไม่ให้พลาดและเสียค่าปรับ
- ต่อภาษีก่อนครบกำหนด 30 วัน กรมขนส่งอนุญาตให้ต่อภาษีล่วงหน้าได้ 30 วัน ช่วยให้มีเวลาเตรียมตัว
- เก็บเอกสารให้เป็นระเบียบ เก็บเล่มทะเบียน ป้ายภาษี และเอกสารต่างๆ ไว้ในรถ เพื่อความสะดวกในการใช้งาน
- ตรวจสอบข้อมูลรถก่อนต่อภาษี เช็กว่ามีค่าปรับจราจรค้างหรือไม่ เพราะต้องชำระให้หมดก่อนถึงจะต่อภาษีได้
สรุป
ภาษีรถตู้มีอัตราที่แตกต่างกันตามประเภทป้ายทะเบียนและน้ำหนักรถ การต่อภาษีตรงเวลาช่วยประหยัดค่าปรับและป้องกันปัญหาทางกฎหมาย ปัจจุบันสามารถต่อภาษีออนไลน์ได้สะดวก ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง และที่สำคัญ หากต้องการใช้รถตู้เป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อ ต้องแน่ใจว่าภาษีและเอกสารต่างๆ ครบถ้วนเสมอ
สำหรับใครที่ต้องการกู้สินเชื่อ สินเชื่อรถแลกเงินเป็นหนึ่งในคำตอบและวิธีการที่ดีที่สุดของคุณ กับเงินให้ใจที่มีความน่าเชื่อถือจากบริษัท เงินให้ใจ จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสามารถขอใช้บริการได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คำนวณวงเงินสินเชื่อและสมัครสินเชื่อได้ทันทีที่ https://www.ngernhaijai.com/
“กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนรถ 12.82% - 24.00% สินเชื่อโอนเล่มทะเบียนรถ แบ่งเป็นกรณีบุคคลธรรมดามีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการส่วนตัว 6.08% - 15.00% และกรณีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ 6.08% - 26.62%”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.ngernhaijai.com/
Line : https://bit.ly/3zDd5Kz
เงินให้ใจ โทร : 02 078 8899
เงินให้ใจ โทร : 02 078 8899
เผยแพร่ 17 ธ.ค. 2568
บทความอื่น ๆ
โบนัสใช้ยังไงให้คุ้มที่สุด? สูตร 4 ช่องทาง อัพเกรดการเงินแบบมือโปร
ได้เงินโบนัสก้อนใหญ่มาแล้วควรทำอย่างไร? เรียนรู้วิธีบริหารเงินโบนัสตามสูตร 4 ช่องทางเพื่อจัดการหนี้ สร้างความมั่งคั่ง และอัพเกรดการเงินส่วนบุคคลอย่างมืออาชีพ
เผยแพร่ 17 ธ.ค. 2568
ทำไมสิ้นปีถึงเงินช็อต? 7 ค่าใช้จ่ายที่คนชอบลืม พร้อมวิธีเอาตัวรอด
เตือน! เช็ก 7 ค่าใช้จ่ายสำคัญที่ทำให้อาจเงินช็อตช่วงปลายปี พร้อมเทคนิคการเงินส่วนบุคคล และการเงินธุรกิจในการบริหารเงินให้อยู่รอดจนถึงปีใหม่
เผยแพร่ 17 ธ.ค. 2568
รย.18 คืออะไร? มาตรการช่วยไรเดอร์ที่ต้องรู้ปีนี้
เจาะลึก รย.18 คืออะไร และความสำคัญต่ออาชีพไรเดอร์ ปีนี้มีมาตรการช่วยเหลืออะไรบ้าง? เช็กกฎหมายและ รย.18 ป้ายสีอะไรได้เงินช่วยเหลือเท่าไร
เผยแพร่ 17 ธ.ค. 2568