ผ่อนรถไม่ไหว ทําไงดี รถผ่อนไม่ไหว คืนได้ไหม

ผ่อนรถแล้วเงินช็อต! คุยกับไฟแนนซ์ยังไงให้ได้เงื่อนไขดีที่สุด

ผ่อนรถไม่ไหว ทําไงดี การผ่อนรถเป็นหนึ่งในภาระทางการเงินที่หนักที่สุดของหลายครอบครัว เพราะเป็นค่างวดที่สูง และต้องจ่ายทุกเดือนแบบไม่มีข้อยกเว้น แต่เมื่อรายได้สะดุด ค่าใช้จ่ายพุ่ง หรือเหตุการณ์ไม่คาดคิดเข้ามา หลายคนจึงเจอสถานการณ์ “ผ่อนรถแล้วเงินช็อต” จนไม่รู้ว่าจะเริ่มแก้อย่างไรดี

ข่าวดีคือ คนที่คุยกับไฟแนนซ์เป็น มักได้เงื่อนไขที่ดีกว่าคนที่เงียบจนถูกตามหรือถูกยึดรถ และสำคัญที่สุดคือ การผ่อนรถไม่ไหว คืนรถไม่ใช่ทางรอดเสมอไป ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือคุยกับไฟแนนซ์ก่อน และคุยให้ “ได้เงื่อนไขดีที่สุด” บทความนี้จะพาคุณไปทีละขั้น ว่า ควรเตรียมอะไร / บอกอะไร / ขอเงื่อนไขแบบไหน เพื่อให้รอดจากภาวะเงินช็อตอย่างมีแผนที่ชัดเจน

สัญญาณที่บอกว่า "ควรคุยกับไฟแนนซ์ด่วน"

หลายคนรอจนไฟแนนซ์โทรตาม หลายงวดค้าง จนทบซ้อนกันหลายๆ เดือน เพราะคิดว่า “เดี๋ยวเดือนหน้าก็คงจ่ายได้” แต่ความจริงคือยิ่งช้า ยิ่งเสียเปรียบ

หากคุณเจอสัญญาณเหล่านี้ ควรติดต่อไฟแนนซ์ทันที :

- ผ่อนไม่ไหว 1–2 เดือนแรก

- เงินเดือนลด รายได้ไม่คงที่

- กำลังเข้าสู่ช่วงตกงาน ช่วงเปลี่ยนงาน

- กำลังเจอหนี้ก้อนอื่นที่ต้องจัดการก่อน

- รถเริ่มเสี่ยงถูกยึด (ค้างเกิน 3 งวด)

เหตุผลคือ ไฟแนนซ์มักให้ความร่วมมือมากที่สุดกับคนที่แสดงความตั้งใจจะผ่อนต่อ และแจ้งปัญหาก่อนสาย

ผ่อนรถไม่ไหวทําไงดี? มีทางเลือกอะไรบ้าง

ก่อนตัดสินใจคืนรถ ควรพิจารณาทางเลือกอื่นๆ ที่อาจช่วยแก้ปัญหาได้

1. ผ่อนรถไม่ไหว ปรับโครงสร้างหนี้กับไฟแนนซ์ ติดต่อไฟแนนซ์เพื่อขอปรับเงื่อนไขการผ่อน เช่น

- ขยายระยะเวลาผ่อนให้นานขึ้น ทำให้ค่างวดรายเดือนลดลง

- พักชำระเงินต้นชั่วคราว จ่ายแต่ดอกเบี้ยก่อน

- ปรับลดอัตราดอกเบี้ย (กรณีมีประวัติการชำระดี)

2. ขายรถเองแทนการคืนรถ ขายรถในราคาตลาดจะได้เงินมากกว่าการให้ไฟแนนซ์ขายทอดตลาด นำเงินที่ได้มาปิดยอดกับไฟแนนซ์ หากขายได้สูงกว่ายอดคงเหลือ ยังมีเงินเหลือใช้

3. โอนสิทธิ์ผ่อนต่อให้คนอื่น หาคนรับช่วงผ่อนต่อ โดยต้องทำเรื่องเปลี่ยนชื่อผู้กู้กับไฟแนนซ์ ผู้รับช่วงต้องผ่านการพิจารณาสินเชื่อเหมือนกู้ใหม่

4. ขอปรับระดับค่างวด หากผ่อนมานานแล้ว มูลค่ารถลดลง อาจขอให้ไฟแนนซ์ประเมินมูลค่ารถใหม่และปรับค่างวดให้ต่ำลง

5. ใช้รถเป็นหลักประกันกู้เงินมาปิดยอด หากผ่อนรถมาระยะหนึ่งแล้ว อาจใช้รถเป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อจากแหล่งอื่นมาปิดยอดกับไฟแนนซ์ แล้วผ่อนใหม่ที่มีเงื่อนไขดีกว่า

เทคนิคการเจรจากับไฟแนนซ์ให้ได้เงื่อนไขดีที่สุด

การเจรจากับไฟแนนซ์ต้องมีเทคนิคและเตรียมตัวให้ดี เพื่อเพิ่มโอกาสได้ข้อตกลงที่ดี

ขั้นที่ 1 : เตรียมตัวก่อนติดต่อไฟแนนซ์

- รวบรวมข้อมูลทางการเงินของตัวเอง รายได้ปัจจุบันและแหล่งที่มาของรายได้ รายจ่ายคงที่ประจำเดือนทั้งหมด หนี้สินอื่นๆ ที่มีอยู่ และจำนวนเงินที่สามารถจ่ายได้จริงในแต่ละเดือน

- ตรวจสอบสัญญาเช่าซื้อ ดูยอดหนี้คงเหลือ ตรวจสอบจำนวนงวดที่ผ่อนมาแล้วและเหลืออีกกี่งวด อ่านเงื่อนไขการปรับโครงสร้างหนี้ในสัญญา แล้วเช็กอัตราดอกเบี้ยและค่าปรับต่างๆ

- ประเมินมูลค่าตลาดของรถ ค้นหาราคาขายของรถรุ่นเดียวกันในตลาด ดูว่าหากขายเองจะได้เงินเท่าไหร่ และเปรียบเทียบกับยอดหนี้คงเหลือ

ขั้นที่ 2 : วิธีพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ไฟแนนซ์

- เริ่มต้นด้วยการแจ้งปัญหาอย่างตรงไปตรงมา "ผม/ดิฉันกำลังประสบปัญหาทางการเงิน เนื่องจาก [ระบุเหตุผล] และไม่สามารถผ่อนรถได้ตามปกติ อยากขอคุยเพื่อหาทางออกร่วมกันครับ/ค่ะ"

- แสดงความจริงใจและความรับผิดชอบ อย่าหลบหนีหรือหลีกเลี่ยงการติดต่อ แสดงให้เห็นว่าคุณตั้งใจจะแก้ปัญหา ไม่ใช่หนีหนี้ บอกว่าคุณเข้าใจภาระผูกพันและต้องการหาทางจ่ายให้ได้

- เสนอแผนการชำระที่เป็นไปได้จริง "จากรายได้และค่าใช้จ่ายปัจจุบัน ผม/ดิฉันสามารถจ่ายได้เดือนละ [จำนวนเงิน] บาท หากไฟแนนซ์ช่วยปรับโครงสร้างหนี้ให้ ผม/ดิฉันมั่นใจว่าจะสามารถชำระได้อย่างสม่ำเสมอครับ/ค่ะ"

- อย่าข่มขู่หรือใช้อารมณ์ พูดด้วยน้ำเสียงสุภาพและมีเหตุผล อย่าบอกว่า "ถ้าไม่ช่วย จะคืนรถเลย" และแสดงออกว่าต้องการหาทางออกร่วมกัน

- ถามเงื่อนไขต่างๆ อย่างชัดเจน เช่น

"หากขยายระยะเวลาผ่อน ค่างวดจะลดลงเป็นเท่าไหร่?"

"การพักชำระเงินต้นจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหรือไม่?"

"มีเงื่อนไขอื่นที่ต้องปฏิบัติตามหรือไม่?"

- ขอเวลาพิจารณาข้อเสนอ อย่ารีบตอบตกลงทันที ขอเวลาไปคิดและเปรียบเทียบทางเลือกต่างๆ ก่อนตัดสินใจ

ขั้นที่ 3 : เงื่อนไขที่ควรเจรจา

- ขยายระยะเวลาผ่อนชำระ เป็นวิธีที่นิยมที่สุด เพราะทำให้ค่างวดรายเดือนลดลงทันที แม้ดอกเบี้ยรวมจะเพิ่มขึ้น แต่ช่วยให้บริหารเงินได้ง่ายขึ้น

- พักชำระเงินต้น 3-6 เดือน จ่ายแต่ดอกเบี้ย ช่วยให้มีเวลาปรับสภาพการเงินหรือหารายได้เพิ่ม

- ลดอัตราดอกเบี้ย หากมีประวัติการชำระหนี้ดี อาจขอลดดอกเบี้ยได้บ้าง โดยเฉพาะถ้าผ่อนมานานแล้ว

- ขอยกเว้นค่าปรับค้างชำระ หากมีการค้างชำระมาบ้าง อาจขอให้ยกเว้นหรือลดค่าปรับ เพื่อลดภาระหนี้

- ตรึงดอกเบี้ยแบบคงที่ กรณีที่สัญญาเดิมเป็นดอกเบี้ยลอยตัว อาจขอเปลี่ยนเป็นดอกเบี้ยคงที่เพื่อความแน่นอน

สิ่งที่ไฟแนนซ์ต้องการเห็นจากคุณ

- ความจริงใจในการแก้ปัญหา ไฟแนนซ์ต้องการลูกค้าที่ตั้งใจจ่าย ไม่ใช่หนีหนี้ การแสดงความจริงใจจะช่วยเพิ่มโอกาสได้รับความช่วยเหลือ

- แผนการชำระที่เป็นรูปธรรม มีตัวเลขชัดเจนว่าจะจ่ายได้เท่าไหร่ เมื่อไหร่ และมาจากไหน

- การติดต่อสื่อสารที่ต่อเนื่อง ไม่หายหัว ยินดีรับสาย ให้ข้อมูลเมื่อถูกขอ แสดงว่าให้ความสำคัญกับปัญหา

- หลักฐานประกอบที่น่าเชื่อถือ มีเอกสารแสดงว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นจริง ไม่ใช่การแต่งเรื่อง

ข้อผิดพลาดที่ต้องหลีกเลี่ยง

- อย่ารอจนค้างหลายเดือน ติดต่อไฟแนนซ์ทันทีเมื่อรู้ว่าจะมีปัญหา ยิ่งรอนาน ยิ่งเจรจายาก

- อย่าให้ข้อมูลเท็จ การโกหกจะทำให้สูญเสียความน่าเชื่อถือ และไฟแนนซ์จะไม่ให้ความช่วยเหลือ

- อย่าหลีกเลี่ยงการติดต่อ การไม่รับสายหรือไม่ตอบข้อความจะทำให้ไฟแนนซ์คิดว่าคุณหนีหนี้ และอาจเร่งดำเนินการยึดรถ

- อย่าตกลงในเงื่อนไขที่ทำไม่ได้ หากไฟแนนซ์เสนอเงื่อนไขที่หนักเกินไป อย่ารีบตกลง ให้เจรจาต่อหรือขอเวลาพิจารณา

- อย่าลืมขอเอกสารยืนยัน เมื่อตกลงเงื่อนไขใหม่แล้ว ต้องขอเอกสารยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษร อย่าเชื่อแค่คำพูด

รีไฟแนนซ์หรือปรับโครงสร้างหนี้

หากเจรจากับไฟแนนซ์เดิมไม่ได้ผล อาจพิจารณาทางเลือกอื่น

- รีไฟแนนซ์กับสถาบันการเงินอื่น นำรถที่กำลังผ่อนไปขอสินเชื่อใหม่กับสถาบันการเงินอื่น เพื่อให้ได้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า ขยายระยะเวลาผ่อนได้นานขึ้น และอาจได้วงเงินเพิ่มเพื่อนำไปใช้หมุนเวียน

- ใช้สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ หากผ่อนรถมาระยะหนึ่งแล้ว อาจใช้รถเป็นหลักประกันขอสินเชื่อจำนำทะเบียน โดยขยายระยะเวลาการผ่อนชำระเพื่อลดจำนวนค่างวดให้เหมาะสมกับรายได้ปัจจุบัน และนำเงินที่ได้มาปิดยอดกับไฟแนนซ์เดิม

สรุป

การผ่อนรถไม่ไหวไม่ใช่ทางตัน และการผ่อนรถไม่ไหว คืนรถไม่ใช่ทางเลือกเดียว การติดต่อไฟแนนซ์อย่างรวดเร็ว แสดงความจริงใจ และเจรจาด้วยข้อมูลที่เป็นจริง จะช่วยเพิ่มโอกาสในการปรับโครงสร้างหนี้ให้ผ่อนได้ง่ายขึ้น

สิ่งสำคัญคือต้องเตรียมตัวให้ดีก่อนเจรจา มีแผนการชำระที่ชัดเจน และพูดคุยด้วยเหตุผล ไม่ใช้อารมณ์ หากทำได้ คุณจะมีโอกาสรักษารถไว้ได้ พร้อมทั้งรักษาเครดิตและโอกาสทางการเงินในอนาคต

สำหรับใครที่ต้องการกู้สินเชื่อ สินเชื่อรถแลกเงินเป็นหนึ่งในคำตอบและวิธีการที่ดีที่สุดของคุณ กับเงินให้ใจที่มีความน่าเชื่อถือจากบริษัท เงินให้ใจ จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสามารถขอใช้บริการได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คำนวณวงเงินสินเชื่อและสมัครสินเชื่อได้ทันทีที่ https://www.ngernhaijai.com/

“กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนรถ 12.82% - 24.00% สินเชื่อโอนเล่มทะเบียนรถ แบ่งเป็นกรณีบุคคลธรรมดามีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการส่วนตัว 6.08% - 15.00% และกรณีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ 6.08% - 26.62%”

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Website : https://www.ngernhaijai.com/

Line : https://bit.ly/3zDd5Kz

เงินให้ใจ โทร : 02 078 8899

เผยแพร่ 17 ธ.ค. 2568

บทความอื่น ๆ

โบนัส

โบนัสใช้ยังไงให้คุ้มที่สุด? สูตร 4 ช่องทาง อัพเกรดการเงินแบบมือโปร

ได้เงินโบนัสก้อนใหญ่มาแล้วควรทำอย่างไร? เรียนรู้วิธีบริหารเงินโบนัสตามสูตร 4 ช่องทางเพื่อจัดการหนี้ สร้างความมั่งคั่ง และอัพเกรดการเงินส่วนบุคคลอย่างมืออาชีพ

เผยแพร่ 17 ธ.ค. 2568

เงินช็อต

ทำไมสิ้นปีถึงเงินช็อต? 7 ค่าใช้จ่ายที่คนชอบลืม พร้อมวิธีเอาตัวรอด

เตือน! เช็ก 7 ค่าใช้จ่ายสำคัญที่ทำให้อาจเงินช็อตช่วงปลายปี พร้อมเทคนิคการเงินส่วนบุคคล และการเงินธุรกิจในการบริหารเงินให้อยู่รอดจนถึงปีใหม่

เผยแพร่ 17 ธ.ค. 2568

รย18

รย.18 คืออะไร? มาตรการช่วยไรเดอร์ที่ต้องรู้ปีนี้

เจาะลึก รย.18 คืออะไร และความสำคัญต่ออาชีพไรเดอร์ ปีนี้มีมาตรการช่วยเหลืออะไรบ้าง? เช็กกฎหมายและ รย.18 ป้ายสีอะไรได้เงินช่วยเหลือเท่าไร

เผยแพร่ 17 ธ.ค. 2568