ปิดหนี้เร็ว
แก้หนี้

3 สิ่งต้องรู้จบหนี้ให้ไว ไม่ให้กลายเป็นหนี้เสีย

“เป็นหนี้” คำนี้อาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องใหญ่สำหรับหลายๆ คน แต่รู้หรือไม่ว่าการเป็นหนี้กลายเป็นเรื่องปกติสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่ปัญหาจะเกิดขึ้นเมื่อไม่สามารถจัดการหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนกลายเป็น "หนี้เสีย" ที่ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อชีวิตและอนาคตทางการเงิน บทความนี้ เงินให้ใจจะมาแนะนำ 3 สิ่งสำคัญที่คุณต้องรู้เพื่อจบหนี้ให้ไวและป้องกันไม่ให้กลายเป็นหนี้เสีย!

ปิดหนี้เร็ว

เริ่มจาก การเข้าใจสถานะหนี้ของตัวเอง

การแก้หนี้อย่างมีประสิทธิภาพเริ่มต้นจากการเข้าใจสถานะหนี้ของตัวเองอย่างถ่องแท้ นี่คือสิ่งที่คุณต้องทำเพื่อให้รู้ว่า “ตัวเองมีหนี้ในระดับไหน”

1. สำรวจและจัดทำบัญชีหนี้ทั้งหมด รวบรวมข้อมูลหนี้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นหนี้บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล หนี้กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) หรือแม้แต่หนี้นอกระบบ และอย่าลืมจดบันทึกรายละเอียดสำคัญ เช่น ยอดหนี้คงเหลือ อัตราดอกเบี้ย กำหนดชำระ และเงื่อนไขการชำระเงินของแต่ละหนี้

2. ประเมินความเสี่ยงในการกลายเป็นหนี้เสีย โดยการตรวจสอบประวัติการชำระเงิน ดูว่ามีการผิดนัดชำระหรือชำระล่าช้าบ่อยแค่ไหน แล้วมาคำนวณสัดส่วนภาระหนี้ต่อรายได้ หากสัดส่วนนี้สูงเกิน 50% ถือว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะกลายเป็นหนี้เสีย และวิเคราะห์แนวโน้มรายได้และค่าใช้จ่ายของตัวเอง ประเมินว่าในอนาคตจะมีความสามารถในการชำระหนี้เพิ่มขึ้นหรือลดลง

3. ตรวจสอบเครดิตบูโร อาจจะขอรายงานเครดิตบูโร เพื่อดูภาพรวมประวัติการชำระหนี้และสถานะปัจจุบัน แล้วมาวิเคราะห์คะแนนเครดิต ทำความเข้าใจว่าคะแนนเครดิตของคุณอยู่ในระดับใด และมีผลต่อการขอสินเชื่อในอนาคตอย่างไร

การเข้าใจสถานะหนี้อย่างละเอียดจะช่วยให้คุณวางแผนแก้หนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และป้องกันไม่ให้หนี้ลุกลามจนกลายเป็นหนี้เสียในที่สุด

ขั้นตอนต่อไป วางแผนจัดการหนี้อย่างเป็นระบบ

เมื่อเข้าใจสถานะหนี้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการวางแผนจัดการหนี้อย่างเป็นระบบ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการแก้หนี้ให้ได้ผล

1. จัดลำดับความสำคัญของหนี้ แยกหนี้ดีและหนี้ร้าย หนี้ดี เช่น สินเชื่อบ้าน มักมีดอกเบี้ยต่ำและสร้างมูลค่าในระยะยาว ส่วนหนี้ร้าย เช่น บัตรเครดิต มักมีดอกเบี้ยสูงและควรจัดการก่อน และแน่นอนว่าเราควรเน้นชำระหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงก่อน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยโดยรวม และที่สำคัญ ต้องให้ความสำคัญกับหนี้ที่มีผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ หรือค่าเช่าบ้านด้วย เพื่อไม่ให้การดำเนินชีวิตประจำวันของเราสะดุดจากหนี้เหล่านี้

2. เลือกวิธีการชำระหนี้ที่เหมาะสม ซึ่งมีอยู่หลายวิธีด้วยกัน

- วิธีหิมะก้อนกลิ้ง (Snowball Method) : เริ่มจากชำระหนี้ก้อนเล็กที่สุดให้หมดก่อน เพื่อสร้างแรงจูงใจให้พร้อมที่จะชำระหนี้ก้อนใหญ่ๆ 

- วิธีหิมะถล่ม (Avalanche Method) : เน้นชำระหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อน เพื่อประหยัดดอกเบี้ยในระยะยาว และคุณก็จะรู้สึกสบายใจขึ้นด้วย

- พิจารณาการรวมหนี้ : หากมีหนี้หลายก้อน การรวมหนี้อาจช่วยลดอัตราดอกเบี้ยโดยรวมและทำให้การจัดการง่ายขึ้น

3. สร้างแผนการชำระหนี้ที่ชัดเจน ให้กำหนดเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาว เช่น ต้องการปลดหนี้บัตรเครดิตภายใน 6 เดือน และปลดหนี้ทั้งหมดภายใน 3 ปี แล้วจัดทำตารางการชำระหนี้ ระบุจำนวนเงินที่จะชำระให้แต่ละหนี้ในแต่ละเดือน ซึ่งวิธีที่เราจะสามารถชำระหนี้ได้ตรงต่อเวลาก็คือการตั้งการแจ้งเตือนการชำระเงิน เพื่อไม่ให้พลาดการชำระและกลายเป็นหนี้เสีย

4. ปรับแผนการใช้จ่ายเพื่อเพิ่มเงินสำหรับชำระหนี้ โดยตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เช่น ค่าสมาชิกที่ไม่ได้ใช้ หรือค่าอาหารนอกบ้าน แล้วหารายได้เพิ่ม พิจารณาทำงานพิเศษหรือขายของที่ไม่ได้ใช้ เมื่อปรับการใช้จ่ายแล้ว ให้นำเงินที่ประหยัดได้หรือรายได้พิเศษไปชำระหนี้ทันที ไม่นำไปใช้จ่ายในเรื่องอื่น

การวางแผนจัดการหนี้อย่างเป็นระบบจะช่วยให้คุณมีเป้าหมายชัดเจนและมีแนวทางปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการแก้หนี้ให้สำเร็จ

ขั้นตอนต่อมา คือการรู้จักใช้เครื่องมือและความช่วยเหลือที่มี

นอกจากการวางแผนด้วยตัวเอง การรู้จักใช้เครื่องมือและความช่วยเหลือที่มีอยู่จะช่วยให้การจัดการหนี้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

1. ใช้แอปพลิเคชันจัดการการเงิน ไม่ว่าจะเป็นแอปบันทึกรายรับรายจ่าย แอปวางแผนชำระหนี้ หรือแอปแจ้งเตือนการชำระเงิน เพื่อป้องกันการลืมจ่ายหนี้ซึ่งอาจนำไปสู่การเป็นหนี้เสีย

2. ศึกษาและใช้มาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐ ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ รัฐบาลอาจมีมาตรการช่วยเหลือผู้มีหนี้ อย่างเช่นโครงการพักชำระหนี้ โครงการคลินิกแก้หนี้ หรือบริการให้คำปรึกษาทางการเงินฟรี

3. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เช่น นักวางแผนการเงินที่สามารถให้คำแนะนำในการจัดการหนี้และวางแผนการเงินระยะยาว ที่ปรึกษาทางกฎหมายในกรณีที่มีปัญหาหนี้ซับซ้อนหรือถูกฟ้องร้อง หรือนักจิตวิทยาการเงิน ที่ช่วยจัดการกับความเครียดและพฤติกรรมทางการเงินที่ไม่เหมาะสม

4. เจรจากับเจ้าหนี้ เพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้ เช่น ขอลดดอกเบี้ย ขยายระยะเวลาผ่อนชำระ หรือพักชำระหนี้ชั่วคราว

การรู้จักใช้เครื่องมือและความช่วยเหลือที่มีอยู่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการแก้หนี้ให้สำเร็จ และลดความเสี่ยงในการกลายเป็นหนี้เสีย นอกจากนี้ ยังช่วยให้คุณไม่รู้สึกโดดเดี่ยวในการต่อสู้กับปัญหาหนี้สิน

สรุป

การจัดการหนี้ให้สำเร็จไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ การเข้าใจสถานะหนี้ของตัวเอง วางแผนจัดการหนี้อย่างเป็นระบบ และรู้จักใช้เครื่องมือและความช่วยเหลือที่มีอยู่ เป็น 3 สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณจบหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และป้องกันไม่ให้กลายเป็นหนี้เสีย และยังรวมถึงการสร้างนิสัยทางการเงินที่ดีเพื่อป้องกันไม่ให้กลับไปเป็นหนี้อีกในอนาคต 

สำหรับใครที่ต้องการเงินด่วน สินเชื่อรถแลกเงินเป็นหนึ่งในคำตอบและวิธีการที่ดีที่สุดของคุณ กับเงินให้ใจที่มีความน่าเชื่อถือ บริษัท เงินให้ใจ จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสามารถขอใช้บริการได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คำนวณวงเงินสินเชื่อและสมัครสินเชื่อได้ทันทีที่ เงินให้ใจ

“กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนรถ 12.82% - 24.00% สินเชื่อโอนเล่มทะเบียนรถ แบ่งเป็นกรณีบุคคลธรรมดามีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการส่วนตัว 6.08% - 15.00% และกรณีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ 6.08% - 26.62%”

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Website : https://www.ngernhaijai.com/

Line : https://bit.ly/3zDd5Kz

เงินให้ใจ โทร : 02 078 8899

เผยแพร่ 12 ก.ย. 2567

บทความอื่น ๆ

วางแผนการเงิน

ไม่มีทุนแต่อยากอัปเกรดร้าน? แจก 5 แนวคิดการเงินเจ้าของกิจการยุคใหม่

ไม่มีทุนไม่ใช่ปัญหา! แจก 5 แนวคิดวางแผนการเงินให้เจ้าของกิจการอัปเกรดร้านได้ทันที โดยไม่ต้องใช้เงินก้อนใหญ่

เผยแพร่ 15 ส.ค. 2568

รถโดนน้ำท่วม

รถยังผ่อนไม่หมดแต่น้ำท่วม! เคลมประกันได้ไหม?

รถน้ำท่วมแต่ยังผ่อนไม่หมด? รู้สิทธิเคลมประกัน ซ่อมรถ และจัดการหนี้ไฟแนนซ์อย่างชาญฉลาด เพื่อฟื้นตัวกลับมาได้เร็วขึ้น

เผยแพร่ 15 ส.ค. 2568

ต่อ พ.ร.บ. รถยนต์

ต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ 2568 ยังไงไม่ให้โดนค่าปรับ? เช็กครบในบทความเดียว

ต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ 2568 อย่างไรให้ไม่โดนค่าปรับ? เรารวมทุกขั้นตอน เอกสารที่ต้องเตรียม ราคา ช่องทางต่อทั้งออนไลน์และออฟไลน์ พร้อมวิธีหลีกเลี่ยงค่าปรับหากขาดต่อ

เผยแพร่ 15 ส.ค. 2568