

รวมเบอร์ฉุกเฉินทางด่วนต้องเซฟ! ก่อนมีปัญหา
การเดินทางบนทางด่วน แน่นอนว่ามีโอกาสที่อาจจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ รถเสียกะทันหัน หรือเหตุฉุกเฉินอื่นๆ การมีเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉินติดตัวไว้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่อาจช่วยชีวิตคุณหรือผู้อื่นได้ในยามคับขัน แล้วเบอร์โทรศัพท์ไหนบ้างที่เราควรจดเอาไว้ให้พร้อมใช้? บทความนี้ เงินให้ใจจะมารวบรวมเบอร์ฉุกเฉินทางด่วนที่สำคัญที่คุณควรบันทึกไว้ก่อนออกเดินทาง
หมวดที่ 1 เบอร์ฉุกเฉินทางด่วนหลัก
1. 1543 - ศูนย์ควบคุมทางพิเศษ (กทพ.) เบอร์นี้เราจะสามารถแจ้งเหตุฉุกเฉินบนทางด่วน รถเสียบนทางด่วน อุบัติเหตุ ได้ตลอด24 ชั่วโมง ซึ่งสายด่วนนี้ครอบคลุมทางพิเศษทุกสายในความรับผิดชอบของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นทางด่วนเฉลิมมหานคร ทางพิเศษศรีรัช ทางด่วนฉลองรัช และอื่นๆ เจ้าหน้าที่พร้อมให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นการจัดการจราจร การเคลื่อนย้ายรถที่เกิดอุบัติเหตุ หรือการประสานงานกับหน่วยกู้ภัยและพยาบาลฉุกเฉิน
2. 1586 - ศูนย์ควบคุมและรักษาความปลอดภัยทางหลวง ใช้สำหรับแจ้งเหตุฉุกเฉินบนทางหลวง รวมถึงทางด่วนบางสายตลอด 24 ชั่วโมง โดยให้บริการครอบคลุมทางหลวงทั่วประเทศ รวมถึงทางด่วนบางสายที่อยู่ในความดูแลของกรมทางหลวง เช่น ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) นอกจากการรับแจ้งเหตุฉุกเฉิน ยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพการจราจร และเส้นทางเลี่ยงในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุหรือการจราจรติดขัด
3. 1193 - ตำรวจทางหลวง สำหรับแจ้งเหตุอุบัติเหตุ การจราจรติดขัด หรือเหตุด่วนเหตุร้ายบนทางด่วนและทางหลวงตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งตำรวจทางหลวงจะมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยบนทางหลวงและทางด่วนทั่วประเทศ นอกจากการรับแจ้งเหตุและให้ความช่วยเหลือแล้ว ยังมีหน้าที่ในการจับกุมผู้กระทำผิดกฎจราจร ตรวจจับความเร็ว และอำนวยความสะดวกในกรณีที่มีการขนย้ายวัตถุขนาดใหญ่บนทางหลวง
4. 1669 - สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ให้บริการการแพทย์ฉุกเฉิน กรณีเกิดอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งแน่นอนว่าบริการนี้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย โดยจะส่งทีมแพทย์ฉุกเฉินพร้อมรถพยาบาลไปยังจุดเกิดเหตุโดยเร็วที่สุด ทีมแพทย์สามารถให้การรักษาเบื้องต้นและนำส่งโรงพยาบาลที่เหมาะสมได้ทันที การโทรแจ้ง 1669 จะช่วยลดความเสี่ยงจากการเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บอย่างไม่ถูกวิธี
5. 191 - แจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย สำหรับแจ้งเหตุอาชญากรรม เหตุร้ายแรงต่างๆ 24 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามเบอร์นี้เราควรใช้ในกรณีฉุกเฉินจริงๆ เท่านั้น เช่น พบเห็นการก่ออาชญากรรม การทำร้ายร่างกาย หรือเหตุร้ายแรงอื่นๆ บนทางด่วนหรือบริเวณใกล้เคียง เจ้าหน้าที่ตำรวจจะรีบไปยังที่เกิดเหตุโดยเร็วที่สุด และสามารถประสานงานกับหน่วยงานอื่นๆ เช่น หน่วยกู้ภัย หรือดับเพลิงได้ตามความเหมาะสม
หมวดที่ 2 เบอร์ฉุกเฉินสำหรับรถเสียบนทางด่วน
1. 1543 - บริการช่วยเหลือรถเสียบนทางด่วน (กทพ.) ที่ให้การช่วยเหลือกรณีรถเสียบนทางด่วน เช่น ลากรถ เติมน้ำมัน บริการนี้จะฟรี 15 กิโลเมตรแรก หลังจากนั้นจึงคิดค่าบริการตามระยะทาง การทางพิเศษแห่งประเทศไทยมีรถบริการฉุกเฉินพร้อมให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นการเติมน้ำมันฉุกเฉิน การเปลี่ยนยาง หรือการลากจูงรถที่เสียหนักไปยังจุดที่ปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการฝึกอบรมพิเศษในการจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินบนทางด่วน เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้ทางจะได้รับความช่วยเหลืออย่างรวดเร็วและปลอดภัย
2. 1323 - ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางพิเศษ สำหรับรับเรื่องร้องเรียน ให้ข้อมูลเกี่ยวกับทางด่วนและนอกจากการรับเรื่องร้องเรียนและให้ข้อมูลแล้ว ศูนย์นี้ยังทำหน้าที่ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ บนทางด่วน เช่น การแจ้งซ่อมอุปกรณ์ที่ชำรุด การรายงานสภาพถนนที่ไม่ปลอดภัย หรือการขอความช่วยเหลือในกรณีที่ผู้ใช้ทางประสบปัญหาอื่นๆ ที่ไม่ใช่เหตุฉุกเฉิน เช่น การขอคืนเงินค่าผ่านทางกรณีที่เกิดปัญหาที่ด่านเก็บเงิน
เบอร์ฉุกเฉินเพิ่มเติมที่ควรทราบ
1. 199 - สายด่วนดับเพลิง สำหรับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ อัคคีภัย ซึ่งแม้ว่าเหตุเพลิงไหม้บนทางด่วนจะไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นบ่อย แต่ก็เป็นสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุรุนแรง หรือมีการขนส่งวัตถุไวไฟ การรู้เบอร์โทรฉุกเฉินนี้จะช่วยให้สามารถแจ้งเหตุและได้รับความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ หน่วยดับเพลิงยังมีอุปกรณ์พิเศษสำหรับช่วยเหลือผู้ประสบภัยในกรณีที่ติดอยู่ในรถยนต์หลังเกิดอุบัติเหตุด้วย
2. 1784 - สายด่วนกรมทางหลวงชนบท สำหรับแจ้งเหตุฉุกเฉินบนถนนในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงชนบท เบอร์นี้จะไม่ใช่เบอร์โทรสำหรับทางด่วนโดยตรง แต่ก็เป็นเบอร์ที่มีประโยชน์สำหรับผู้ที่ใช้ถนนในพื้นที่ชนบทหรือถนนสายรองที่เชื่อมต่อกับทางด่วน สามารถใช้แจ้งปัญหาเกี่ยวกับสภาพถนน ไฟส่องสว่าง หรือป้ายจราจรที่ชำรุด ซึ่งอาจส่งผลต่อความปลอดภัยในการเดินทาง
3. 1146 - สายด่วนกรมทางหลวง สำหรับแจ้งเหตุฉุกเฉิน ขอความช่วยเหลือบนทางหลวง โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องเดินทางต่อเนื่องจากทางด่วนสู่ทางหลวงสายสำคัญ สายด่วนนี้ให้ข้อมูลสภาพการจราจร เส้นทางเลี่ยง และรับแจ้งเหตุฉุกเฉินต่างๆ บนทางหลวง นอกจากนี้ยังสามารถใช้สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับจุดพักรถ สถานีบริการน้ำมัน หรือสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ บนเส้นทาง
เมื่อต้องใช้บริการเบอร์ฉุกเฉินเหล่านี้ โดยเฉพาะในกรณีรถเสียบนทางด่วน ควรปฏิบัติดังนี้
1. จอดรถให้ชิดขอบทางด้านซ้ายมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หากเป็นไปได้ให้จอดในช่องฉุกเฉิน
2. เปิดไฟฉุกเฉินเพื่อให้รถคันอื่นสังเกตเห็นได้ชัดเจน
3. หากมี ให้วางป้ายสามเหลี่ยมสะท้อนแสงด้านหลังรถในระยะที่เหมาะสม
4. ให้ผู้โดยสารทุกคนออกจากรถและยืนในที่ปลอดภัย เช่น ด้านหลังแบริเออร์
5. โทรแจ้งเหตุฉุกเฉินที่เบอร์ 1543 หรือเบอร์ฉุกเฉินอื่นๆ ตามความเหมาะสม
6. แจ้งตำแหน่งที่แน่ชัด โดยสังเกตจากป้ายบอกหลักกิโลเมตรหรือป้ายจราจรใกล้เคียง
7. รอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ในบริเวณที่ปลอดภัย อย่าพยายามซ่อมรถด้วยตัวเองบนทางด่วน
นอกจากเบอร์โทรฉุกเฉินแล้ว ผู้ใช้ทางด่วนควรทราบถึงบริการเสริมอื่นๆ ที่อาจเป็นประโยชน์ เช่น
- แอปพลิเคชันของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ซึ่งให้ข้อมูลสภาพจราจรแบบเรียลไทม์ และสามารถแจ้งเหตุฉุกเฉินผ่านแอปได้โดยตรง
- จุดบริการประชาชนบนทางด่วน ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ประจำการตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมให้ความช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน
- ระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) ที่ติดตั้งตลอดเส้นทาง ช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว
และนอกจากการรู้เบอร์ฉุกเฉินบนทางด่วน และบริการเสริมอื่นๆ แล้ว การเตรียมพร้อมก่อนใช้ทางด่วนก็เป็นสิ่งสำคัญ ผู้ขับขี่ควรที่จะเตรียมพร้อมก่อนการเดินทางขึ้นทางด่วนให้เป็นนิสัย เช่น
1. ตรวจสอบสภาพรถยนต์ให้พร้อมใช้งาน โดยเฉพาะระบบเบรก ยาง และไฟส่องสว่าง
2. ศึกษาเส้นทางและจุดออกฉุกเฉินบนทางด่วนที่จะใช้
3. เติมน้ำมันให้เพียงพอสำหรับการเดินทาง
4. พกอุปกรณ์ฉุกเฉิน เช่น ไฟฉาย ป้ายสามเหลี่ยมสะท้อนแสง และชุดปฐมพยาบาล
5. ชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือให้เต็ม และพกสายชาร์จสำรองไว้ในรถ
สรุป
การมีเบอร์ฉุกเฉินทางด่วนพร้อมใช้งานเป็นสิ่งสำคัญที่อาจช่วยชีวิตคุณหรือผู้อื่นได้ในยามคับขัน ไม่ว่าจะเป็นกรณีรถเสียบนทางด่วน เกิดอุบัติเหตุ หรือพบเหตุฉุกเฉินอื่นๆ การรู้จักเบอร์โทรที่ถูกต้องและวิธีการแจ้งเหตุอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้คุณได้รับความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย นอกจากนี้ เราควรขับขี่อย่างมีสติ ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด และการเตรียมพร้อมก่อนออกเดินทาง แล้วการเดินทางของคุณปลอดภัยและราบรื่นยิ่งขึ้น
สำหรับใครที่ต้องการเงินด่วน สินเชื่อรถแลกเงินเป็นหนึ่งในคำตอบและวิธีการที่ดีที่สุดของคุณ กับเงินให้ใจที่มีความน่าเชื่อถือจากบริษัท เงินให้ใจ จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสามารถขอใช้บริการได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คำนวณวงเงินสินเชื่อและสมัครสินเชื่อได้ทันทีที่ เงินให้ใจ
“กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนรถ 12.82% - 24.00% สินเชื่อโอนเล่มทะเบียนรถ แบ่งเป็นกรณีบุคคลธรรมดามีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการส่วนตัว 6.08% - 15.00% และกรณีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ 6.08% - 26.62%”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.ngernhaijai.com/
Line : https://bit.ly/3zDd5Kz
เงินให้ใจ โทร : 02 078 8899
เผยแพร่ 12 ก.ย. 2567
บทความอื่น ๆ

น้ำมันลดเร็วแต่ไม่ได้ขับหนัก? เช็กอาการนี้ ก่อนเงินไหลหมดถัง
หลายคนคงเคยสงสัยว่าทำไมรถของคุณถึงเป็นรถกินน้ำมันเร็วทั้งที่ไม่ได้ขับหนักหรือใช้งานมากกว่าปกติ บทความนี้ เงินให้ใจจะพาคุณไปตรวจสอบสาเหตุที่ทำให้รถกินน้ำมันผิดปกติ พร้อมวิธีแก้ไขเพื่อช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าของคุณ
เผยแพร่ 15 พ.ค. 2568

รถสตาร์ทยาก เกิดจากอะไรได้บ้าง?
รถสตาร์ทยาก มีสาเหตุจากอะไรได้บ้าง? 10 สาเหตุหลักที่ทำให้รถของคุณสตาร์ทไม่ติด พร้อมวิธีแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเพื่อป้องกันการเสียเวลาและค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
เผยแพร่ 15 พ.ค. 2568

เปลี่ยนยางเมื่อไหร่ดี? คู่มือดูแลยางรถสำหรับมือใหม่
6 สัญญาณที่บอกว่าถึงเวลาเปลี่ยนยางรถยนต์แล้ว พร้อมวิธีอ่านข้อมูลบนยางและตรวจสอบด้วยตัวเอง เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานรถของคุณ
เผยแพร่ 15 พ.ค. 2568