ข้อควรปฏิบัติ เมื่อเกิดเหตุการณ์รถเสียบนทางด่วน

การเดินทางบนทางด่วนอาจเป็นเรื่องสะดวกและรวดเร็ว แต่หากเกิดเหตุการณ์รถเสียกลางทาง ก็อาจกลายเป็นประสบการณ์ที่น่าหวาดกลัวและอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณอยู่ท่ามกลางรถที่วิ่งด้วยความเร็วสูง บทความนี้จะแนะนำขั้นตอนสำคัญที่คุณควรปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุการณ์รถเสียบนทางด่วน รวมถึงการขอความช่วยเหลือบนทางด่วน เพื่อให้คุณสามารถรับมือกับสถานการณ์นี้ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

รักษาสติและเคลื่อนรถออกจากช่องทางจราจร

เมื่อคุณรู้สึกว่ารถมีปัญหา สิ่งแรกที่ต้องทำคือพยายามรักษาสติ อย่าตกใจหรือเบรกกะทันหัน ให้ค่อยๆ ลดความเร็วลงและเปิดไฟฉุกเฉิน (ไฟกระพริบ) ทันที เพื่อเตือนรถคันอื่นๆ จากนั้นพยายามนำรถเข้าไหล่ทางด้านซ้ายสุดอย่างระมัดระวัง หากไม่สามารถเคลื่อนรถไปยังไหล่ทางได้ ให้พยายามจอดในจุดที่ปลอดภัยที่สุดเท่าที่จะทำได้

เกร็ดความรู้ : หากคุณสังเกตเห็นควันหรือกลิ่นไหม้ ให้จอดรถและออกจากรถทันที เพราะอาจเกิดเพลิงไหม้ได้

แสดงสัญลักษณ์เตือนให้ชัดเจน

หลังจากจอดรถในที่ปลอดภัยแล้ว ให้เปิดไฟฉุกเฉินทิ้งไว้ และวางสามเหลี่ยมสะท้อนแสงหรือป้ายเตือนด้านหลังรถ ห่างจากตัวรถประมาณ 50-100 เมตร เพื่อให้รถคันอื่นมองเห็นได้แต่ไกล

คำเตือน : อย่าลืมสวมเสื้อสะท้อนแสงหรือใช้ไฟฉายส่องสว่างเมื่อต้องลงจากรถ โดยเฉพาะในเวลากลางคืนหรือสภาพอากาศที่ทัศนวิสัยไม่ดี

ประเมินสถานการณ์และตัดสินใจ

พิจารณาว่าคุณสามารถแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้หรือไม่ เช่น การเปลี่ยนยางอะไหล่ หากคุณมั่นใจว่าสามารถทำได้อย่างปลอดภัยและรวดเร็ว ก็อาจดำเนินการได้ แต่หากไม่แน่ใจหรือสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย ควรรอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ

ข้อควรระวัง : การซ่อมรถบนทางด่วนอาจเป็นอันตรายอย่างยิ่ง หากไม่จำเป็น ควรรอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่หรือช่างผู้เชี่ยวชาญ

ติดต่อการขอความช่วยเหลือบนทางด่วน

โทรแจ้งศูนย์ควบคุมทางด่วนหรือหน่วยกู้ภัยทางด่วนทันที โดยสามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 1543 (สำหรับทางด่วนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล) หรือ 1586 (สำหรับมอเตอร์เวย์) แจ้งตำแหน่งที่คุณจอดรถอย่างชัดเจน โดยสังเกตจากหลักกิโลเมตรหรือป้ายบอกทางใกล้เคียง

นอกจากนี้ ควรแจ้งบริษัทประกันภัยของคุณด้วย หลายบริษัทมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน ซึ่งอาจรวมถึงการลากรถฟรีภายในระยะทางที่กำหนด

เคล็ดลับ : บันทึกเบอร์โทรฉุกเฉินและเบอร์บริษัทประกันไว้ในโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้สามารถติดต่อได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุ

อยู่ในรถและรอความช่วยเหลือ

หลังจากแจ้งการขอความช่วยเหลือบนทางด่วนแล้ว ให้อยู่ในรถและล็อคประตูไว้ เพื่อความปลอดภัยบนทางด่วน ไม่ควรเดินบนทางด่วนหรือพยายามข้ามไปอีกฝั่งเด็ดขาด เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้

ข้อยกเว้น : หากคุณรู้สึกไม่ปลอดภัยที่จะอยู่ในรถ (เช่น กรณีที่มีควันหรือไฟไหม้) ให้ออกจากรถทางประตูด้านผู้โดยสาร และยืนให้ห่างจากถนนในบริเวณที่ปลอดภัย

เตรียมเอกสารสำคัญ

ในระหว่างรอความช่วยเหลือ ให้เตรียมเอกสารสำคัญที่อาจต้องใช้ เช่น ใบขับขี่ เอกสารประกันภัย และทะเบียนรถ เพื่อให้พร้อมแสดงต่อเจ้าหน้าที่เมื่อมาถึง

ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่

เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึง ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด พวกเขามีประสบการณ์และทราบวิธีจัดการสถานการณ์อย่างปลอดภัยที่สุด

การเตรียมพร้อมป้องกันเหตุรถเสียบนทางด่วน

นอกจากการรู้วิธีรับมือเมื่อเกิดเหตุแล้ว การเตรียมพร้อมก่อนเดินทางก็สำคัญไม่แพ้กัน

1. ตรวจสภาพรถก่อนขึ้นทางด่วน : ตรวจสอบน้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันเครื่อง น้ำหล่อเย็น และลมยางให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน

2. เตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉิน : ชุดปฐมพยาบาล ไฟฉาย แบตเตอรี่สำรอง สามเหลี่ยมสะท้อนแสง และเสื้อสะท้อนแสง ควรมีติดรถไว้เสมอ

3. ศึกษาเส้นทาง : รู้จักจุดพักรถหรือทางออกฉุกเฉินตลอดเส้นทาง เพื่อให้สามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วหากเกิดเหตุ

4. ทำประกันภัยที่ครอบคลุม : เลือกประกันภัยที่มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน เพื่อความอุ่นใจในการเดินทาง

สรุป

การเผชิญกับสถานการณ์รถเสียบนทางด่วนอาจเป็นประสบการณ์ที่น่าหวาดกลัว แต่หากคุณรู้วิธีรับมือที่ถูกต้อง ก็จะสามารถจัดการสถานการณ์ได้อย่างปลอดภัย จำไว้เสมอว่า ความปลอดภัยบนทางด่วนต้องมาก่อนเสมอ อย่าเสี่ยงทำอะไรที่อาจเป็นอันตรายต่อตัวคุณเองหรือผู้อื่น และอย่าลังเลที่จะมีการขอความช่วยเหลือบนทางด่วนเมื่อจำเป็น

สำหรับใครที่ต้องการเงินด่วน สินเชื่อรถแลกเงินเป็นหนึ่งในคำตอบและวิธีการที่ดีที่สุดของคุณ กับเงินให้ใจที่มีความน่าเชื่อถือจากบริษัท เงินให้ใจ จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสามารถขอใช้บริการได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คำนวณวงเงินสินเชื่อและสมัครสินเชื่อได้ทันทีที่ เงินให้ใจ

“กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนรถ 12.82% - 24.00% สินเชื่อโอนเล่มทะเบียนรถ แบ่งเป็นกรณีบุคคลธรรมดามีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการส่วนตัว 6.08% - 15.00% และกรณีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ 6.08% - 26.62%”

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Website : https://www.ngernhajai.com/

Line : https://bit.ly/3zDd5Kz

เงินให้ใจ โทร : 02 078 8899