โดนทวงหนี้
กฎหมายทวงถามหนี้

โดนโทรทวงหนี้ทุกวัน ต้องทำยังไง? เทคนิคจัดการหนี้อย่างเป็นระบบ ไม่เครียดซ้ำ

การโดนโทรทวงหนี้ทุกวันเป็นสถานการณ์ที่สร้างความเครียดและกดดันอย่างมาก ทำให้หลายคนรู้สึกสิ้นหวังและไม่รู้จะจัดการอย่างไร แต่ความจริงแล้ว ยังมีวิธีรับมือและจัดการปัญหาหนี้สินอย่างเป็นระบบได้ โดยไม่ต้องหลบหนีหรือทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก บทความนี้ เงินให้ใจจะแนะนำเทคนิคและวิธีการจัดการเมื่อคุณโดนโทรทวงหนี้ เพื่อให้คุณสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดความเครียด

กฎหมายทวงถามหนี้

รู้สิทธิของคุณตามกฎหมาย พ.ร.บ.ทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558

พระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 ได้กำหนดกรอบการทวงหนี้ที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อคุ้มครองลูกหนี้จากการถูกเอาเปรียบหรือคุกคาม โดยกำหนดว่าผู้ทวงหนี้ต้องปฏิบัติดังนี้

ช่วงเวลาทวงหนี้ที่ถูกกฎหมาย

- วันทำงาน (จันทร์-ศุกร์) : ทวงได้ระหว่าง 08.00 - 20.00 น.

- วันหยุดราชการ : ทวงได้ระหว่าง 08.00 - 18.00 น.

วิธีการทวงหนี้ที่ถูกกฎหมาย

- ต้องแสดงหลักฐานการมอบอำนาจให้ทวงหนี้ (กรณีเป็นตัวแทน)

- ทวงได้ตามสถานที่ที่ลูกหนี้แจ้งไว้ หรือภูมิลำเนา ที่อยู่ สถานที่ทำงาน

- ต้องทวงตรงกับลูกหนี้เท่านั้น ไม่ใช่บุคคลอื่น (ยกเว้นกรณีที่ลูกหนี้ระบุตัวแทนไว้)

สิ่งที่ผู้ทวงหนี้ไม่สามารถทำได้ตามกฎหมาย

กฎหมายได้ระบุข้อห้ามสำหรับผู้ทวงหนี้ไว้ชัดเจน การกระทำต่อไปนี้ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย

1. การข่มขู่และคุกคาม

- ข่มขู่ว่าจะทำร้ายร่างกายหรือทรัพย์สิน

- ใช้ความรุนแรงทางกายหรือวาจา

- ใช้วาจาดูหมิ่น เหยียดหยาม หรือสร้างความอับอาย

2. การประจาน

- เปิดเผยข้อมูลหนี้สินแก่บุคคลที่สาม (ยกเว้นคนในครอบครัวลูกหนี้ เช่น สามี ภริยา บุพการี ผู้สืบสันดาน)

- ใช้เครื่องหมายหรือสัญลักษณ์บนซองจดหมายที่ทำให้ผู้อื่นรู้ว่าเป็นการทวงหนี้

- โพสต์ข้อมูลลูกหนี้บนโซเชียลมีเดียหรือที่สาธารณะ

3. การหลอกลวง

- แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทนายความ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ

- ปลอมแปลงเอกสารให้ดูเหมือนเอกสารทางกฎหมาย

- แจ้งจำนวนหนี้เกินจริง

5 ขั้นตอนจัดการเมื่อโดนทวงหนี้

1. ตรวจสอบข้อมูลหนี้ให้ถูกต้อง

ก่อนเจรจาใดๆ ต้องแน่ใจว่าคุณเข้าใจสถานการณ์หนี้ของตัวเองอย่างชัดเจน

- ขอรายละเอียดหนี้เป็นลายลักษณ์อักษร – จำนวนเงินที่ค้างชำระ ดอกเบี้ย ค่าปรับ และระยะเวลาค้างชำระ

- ตรวจสอบความถูกต้อง – บางครั้งอาจมีการคำนวณผิดพลาด หรือคุณอาจชำระไปแล้วแต่ไม่มีการบันทึก

- ขอเอกสารยืนยันหนี้ – ใบแจ้งหนี้ สัญญาเงินกู้ หรือหลักฐานการเป็นหนี้ ในกรณีที่ไม่ชัดเจนว่าทวงหนี้จากหนี้ก้อนไหน

2. ติดต่อเจ้าหนี้โดยตรงเพื่อเจรจา

อย่าหลีกเลี่ยงการติดต่อเจ้าหนี้ ทวงหนี้ไม่รับสาย เพราะจะทำให้ปัญหาแย่ลง ควรเป็นฝ่ายเข้าไปเจรจาเพื่อหาทางออกที่เหมาะสม

- โทรหรือเข้าพบเจ้าหนี้โดยตรง – แสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา

- อธิบายสถานการณ์ของคุณ – ปัญหาทางการเงินที่คุณกำลังประสบ เหตุผลที่ทำให้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด

- แสดงให้เห็นว่าคุณพยายามแก้ไขปัญหา – ไม่ได้ตั้งใจหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ

3. เสนอแผนการชำระหนี้ที่เป็นไปได้

นำเสนอแผนการชำระหนี้ที่สอดคล้องกับความสามารถในการจ่ายของคุณ

- ขอปรับโครงสร้างหนี้ – ขยายระยะเวลาชำระ ลดดอกเบี้ย หรือลดยอดหนี้

- เสนอจำนวนเงินที่สามารถชำระได้จริง – อย่าให้คำมั่นที่ไม่สามารถทำได้

- เริ่มชำระเงินทันทีตามที่ตกลง – แม้จะเป็นจำนวนน้อย เพื่อแสดงความตั้งใจ

4. ขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ

บางกรณีคุณอาจต้องการคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ

- ปรึกษาที่ปรึกษาทางการเงิน – ช่วยวางแผนการเงินและจัดการหนี้

- ปรึกษานักกฎหมาย – หากคุณเชื่อว่าถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม

- ติดต่อองค์กรคุ้มครองผู้บริโภค – เช่น สคบ. หรือ ศูนย์ดำรงธรรม

5. จัดทำแผนการเงินระยะยาว

การแก้ปัญหาหนี้ไม่ใช่แค่ระยะสั้น คุณต้องวางแผนป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นปัญหาอีก

- จัดทำงบประมาณรายรับ-รายจ่าย – ควบคุมค่าใช้จ่ายให้น้อยกว่ารายได้

- ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น – หาวิธีประหยัดในทุกด้าน

- หารายได้เพิ่ม – อาจทำงานพิเศษหรือขายของที่ไม่ได้ใช้

- สร้างเงินออมฉุกเฉิน – เพื่อรับมือกับปัญหาในอนาคต

สร้างสุขภาพทางการเงินที่ดีหลังจัดการหนี้

เมื่อคุณเริ่มจัดการหนี้ได้แล้ว ควรวางแผนเพื่อป้องกันไม่ให้กลับไปเป็นหนี้อีก

1. จัดทำงบประมาณที่เป็นระบบ ทำบันทึกรายรับ-รายจ่ายทุกวัน ตั้งเป้าหมายการใช้จ่ายในแต่ละหมวด ทบทวนและปรับปรุงงบประมาณเป็นประจำ อย่างน้อยเดือนละครั้ง

2. สร้างนิสัยการออมที่ดี ตั้งเป้าหมายการออมที่ชัดเจน เช่น 10% ของรายได้ ออมก่อนใช้ และสร้างเงินสำรองฉุกเฉินอย่างน้อย 3-6 เดือนของค่าใช้จ่าย

3. เพิ่มความรู้ทางการเงิน ศึกษาเรื่องการจัดการเงินผ่านหนังสือ บทความ หรือคอร์สออนไลน์ เรียนรู้เรื่องการลงทุนเพื่อสร้างรายได้เพิ่มในอนาคต และติดตามข่าวสารทางการเงินเพื่อรับรู้โอกาสและความเสี่ยงใหม่ๆ

สรุป

การโดนโทรทวงหนี้ทุกวันเป็นสถานการณ์ที่สร้างความเครียด แต่ไม่ใช่ทางตัน คุณสามารถจัดการปัญหานี้และแก้ไขหนี้นอกระบบได้ด้วยการเข้าใจสิทธิของตนเอง เจรจากับเจ้าหนี้อย่างตรงไปตรงมา และวางแผนการชำระหนี้ที่เป็นระบบ

สิ่งสำคัญคือ อย่าหลีกเลี่ยงปัญหา ทวงหนี้ไม่รับสาย แต่ให้เผชิญหน้าและแก้ไขอย่างมีสติ แสดงความรับผิดชอบด้วยการติดต่อกับเจ้าหนี้และพยายามหาทางออกร่วมกัน ไม่ว่าสถานการณ์ทางการเงินของคุณจะยากเพียงใด ยังมีทางออกเสมอ และการลงมือจัดการอย่างเป็นระบบคือก้าวแรกสู่อิสรภาพทางการเงินในอนาคต

สำหรับใครที่ต้องการเงินด่วน สินเชื่อรถแลกเงินเป็นหนึ่งในคำตอบและวิธีการที่ดีที่สุดของคุณ กับเงินให้ใจที่มีความน่าเชื่อถือจากบริษัท เงินให้ใจ จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสามารถขอใช้บริการได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คำนวณวงเงินสินเชื่อและสมัครสินเชื่อได้ทันทีที่ https://www.ngernhaijai.com/

“กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนรถ 12.82% - 24.00% สินเชื่อโอนเล่มทะเบียนรถ แบ่งเป็นกรณีบุคคลธรรมดามีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการส่วนตัว 6.08% - 15.00% และกรณีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ 6.08% - 26.62%”

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Website : https://www.ngernhaijai.com/

Line : https://bit.ly/3zDd5Kz

เงินให้ใจ โทร : 02 078 8899

เผยแพร่ 15 พ.ค. 2568

บทความอื่น ๆ

บริหารเงิน

จัดพอร์ตการเงินยังไงให้ไม่เจ๊ง! ปลอดภัยแต่โตได้ในยุคเสี่ยง

จัดพอร์ตการเงินแบบปลอดภัยแต่โตได้ เรียนรู้เทคนิคบริหารเงินที่ช่วยสร้างความมั่นคงทางการเงินส่วนบุคคล พร้อมกลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสำหรับยุคเศรษฐกิจผันผวน

เผยแพร่ 19 มิ.ย. 2568

เงินเฟ้อ

เงินเฟ้อ 2025 มาหนักแน่! วางแผนการเงินยังไงให้รอดทุกสภาพเศรษฐกิจ

เงินเฟ้อ 2025 จะส่งผลกระทบยังไง? เงินเฟ้อคืออะไร และวางแผนการเงินอย่างไรให้รอดทุกสภาพเศรษฐกิจ จากเงินให้ใจ

เผยแพร่ 19 มิ.ย. 2568

หนี้ครัวเรือน

เจาะลึกหนี้ครัวเรือนไทย ทำไมเราถึงติดกับดักหนี้กันทุกปี?

หนี้ครัวเรือนไทยอยู่ในระดับสูง ทำไมคนไทยยังติดกับดัก? วิเคราะห์สาเหตุและแนวทางแก้หนี้อย่างยั่งยืน จากเงินให้ใจ

เผยแพร่ 19 มิ.ย. 2568