

Credit Utilization Rate สำคัญอย่างไร? ทำไมวงเงินเหลือเยอะ = โอกาสขอสินเชื่อผ่านมากขึ้น?
คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมบางคนมีรายได้ดี แต่กลับสมัครสินเชื่อไม่ผ่าน? หรือทำไมคนที่ใช้บัตรเครดิตไม่มาก กลับได้รับการอนุมัติวงเงินสินเชื่อง่ายกว่า? คำตอบอาจเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เรียกว่า Credit Utilization Rate หรืออัตราการใช้วงเงินสินเชื่อซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สถาบันการเงินใช้พิจารณาความน่าเชื่อถือทางการเงินของคุณ บทความนี้ เงินให้ใจจะพาคุณไปทำความเข้าใจเรื่องนี้อย่างละเอียด พร้อมเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อ
Credit Utilization Rate คืออะไร?
Credit Utilization Rate หรืออัตราการใช้วงเงินสินเชื่อคือ สัดส่วนของวงเงินสินเชื่อที่คุณใช้ไปเทียบกับ วงเงินสินเชื่อทั้งหมดที่คุณมี โดยคำนวณจาก
Credit Utilization Rate = (ยอดหนี้คงค้าง ÷ วงเงินสินเชื่อทั้งหมด) × 100%
ตัวอย่างเช่น หากคุณมี วงเงินบัตรเครดิต รวม 100,000 บาท และมียอดค้างชำระ 30,000 บาท Credit Utilization Rate ของคุณคือ 30%
สถาบันการเงินมักใช้ตัวเลขนี้เป็นตัวชี้วัดสำคัญในการพิจารณาว่าคุณบริหารการเงินได้ดีเพียงใด และมีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้มากน้อยแค่ไหน
ทำไม Credit Utilization Rate จึงสำคัญ?
1. ผลกระทบต่อคะแนนเครดิต
Credit Utilization Rate มีน้ำหนักประมาณ 30% ในการคำนวณคะแนนเครดิตบูโร ซึ่งเป็นรองเพียงประวัติการชำระหนี้เท่านั้น นั่นหมายความว่าแม้คุณจะใช้บัตรเครดิตและชำระตรงเวลาทุกเดือน แต่หากอัตราการใช้วงเงินสินเชื่อสูงเกินไป คะแนนเครดิตของคุณก็อาจไม่ดีเท่าที่ควร
2. บ่งบอกถึงพฤติกรรมทางการเงิน
สถาบันการเงินมองว่าผู้ที่ใช้วงเงินสินเชื่อในสัดส่วนต่ำมีวินัยทางการเงินที่ดีกว่า และมีความเสี่ยงน้อยกว่าในการผิดนัดชำระหนี้ ในทางกลับกัน ผู้ที่ใช้วงเงินสินเชื่อในสัดส่วนสูงอาจกำลังประสบปัญหาทางการเงิน หรือพึ่งพาวงเงินสินเชื่อมากเกินไป
3. โอกาสในการได้รับอนุมัติสินเชื่อ
หากคุณต้องการยื่นขอวงเงินสินเชื่อเพิ่มเติม เช่น สินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ หรือแม้แต่ บัตรเครดิต ใบใหม่ Credit Utilization Rate ต่ำจะเพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติ นี่คือเหตุผลว่าทำไมบางคนถึงสมัครสินเชื่อไม่ผ่านแม้จะมีรายได้สูง
อัตราการใช้ วงเงินสินเชื่อ ที่เหมาะสมควรเป็นเท่าไร?
ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินแนะนำให้รักษา Credit Utilization Rate ไว้ที่ไม่เกิน 30% โดยยิ่งต่ำยิ่งดี แต่ไม่ควรเป็น 0% เพราะจะไม่มีข้อมูลให้สถาบันการเงินประเมินพฤติกรรมการใช้สินเชื่อของคุณ
การใช้บัตรเครดิตในสัดส่วนที่เหมาะสมจะแสดงให้เห็นว่าคุณสามารถบริหารจัดการการเงินได้ดี ไม่ใช้จ่ายเกินตัว และมีวินัยทางการเงิน
5 เทคนิคลด Credit Utilization Rate เพิ่มโอกาสอนุมัติสินเชื่อ
1. ชำระหนี้บัตรเครดิตให้มากกว่ายอดขั้นต่ำ
หลายคนยังเข้าใจผิดว่าการชำระเงินขั้นต่ำตามที่กำหนดในใบแจ้งหนี้เพียงพอแล้ว แต่จริงๆ แล้ว การทำเช่นนี้จะทำให้คุณมียอดค้างชำระสูง ส่งผลให้ Credit Utilization Rate สูงตามไปด้วย การ ใช้บัตรเครดิตอย่างมีประสิทธิภาพคือการชำระเต็มจำนวนทุกเดือน
2. ขอเพิ่ม วงเงินบัตรเครดิต
หากคุณมีประวัติการชำระเงินที่ดี สามารถขอเพิ่ม วงเงินบัตรเครดิต ได้ การมีวงเงินสินเชื่อสูงขึ้นโดยที่ยอดใช้จ่ายเท่าเดิมจะช่วยลด Credit Utilization Rate ลงได้
3. กระจายการใช้จ่ายในหลายบัตร
แทนที่จะใช้ บัตรเครดิต ใบเดียวจนเต็มวงเงินสินเชื่อ ลองกระจายการใช้จ่ายในหลายบัตร เพื่อให้แต่ละบัตรมี Credit Utilization Rate ต่ำ ทั้งนี้ ต้องระวังไม่ให้ตัวเองมีภาระค่าธรรมเนียมรายปีมากเกินไป
4. ชำระบัตรเครดิตก่อนรอบบัญชี
หากคุณรู้ว่าเดือนนี้มีการใช้บัตรเครดิตสูงกว่าปกติ อาจชำระเงินบางส่วนก่อนที่จะถึงวันสรุปยอด เพื่อลดยอดหนี้คงค้างที่จะถูกรายงานไปยังเครดิตบูโร วิธีนี้จะช่วยรักษา Credit Utilization Rate ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
5. ไม่ปิดบัตรเครดิตที่ไม่ได้ใช้
หลายคนเข้าใจผิดว่าการปิด บัตรเครดิต ที่ไม่ได้ใช้แล้วจะดีต่อประวัติเครดิต แต่จริงๆ แล้ว การปิดบัตรจะทำให้วงเงินสินเชื่อรวมของคุณลดลง ส่งผลให้ Credit Utilization Rate สูงขึ้น หากบัตรนั้นไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี ควรเก็บไว้และใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ เป็นครั้งคราวเพื่อให้บัตรยังคงมีสถานะใช้งานได้
ข้อควรระวังเกี่ยวกับ Credit Utilization Rate
1. อย่าขอเพิ่มวงเงินสินเชื่อเพื่อใช้จ่ายมากขึ้น
การขอเพิ่ม วงเงินบัตรเครดิต ควรทำเพื่อลด Credit Utilization Rate ไม่ใช่เพื่อให้ตัวเองใช้จ่ายมากขึ้น มิฉะนั้นจะเป็นการเพิ่มภาระหนี้และความเสี่ยงทางการเงิน
2. อย่า สมัครบัตรเครดิต หลายใบในเวลาเดียวกัน
การ สมัครสินเชื่อ หรือ บัตรเครดิต หลายใบในช่วงเวลาใกล้เคียงกันจะทำให้สถาบันการเงินมองว่าคุณกำลังต้องการเงินอย่างเร่งด่วน ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของปัญหาทางการเงิน
3. ระวังการตรวจสอบเครดิตบ่อยเกินไป
ทุกครั้งที่คุณ สมัครสินเชื่อ หรือ บัตรเครดิต สถาบันการเงินจะตรวจสอบประวัติเครดิตของคุณ การตรวจสอบบ่อยเกินไปในช่วงเวลาสั้นๆ อาจส่งผลเสียต่อคะแนนเครดิต
การลดลงของ Credit Utilization Rate ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาระยะสั้น
หากคุณกำลังวางแผน สมัครสินเชื่อ ก้อนใหญ่ เช่น สินเชื่อบ้านหรือรถยนต์ ควรเริ่มลด Credit Utilization Rate ล่วงหน้าอย่างน้อย 3-6 เดือน เพราะประวัติเครดิตไม่ได้ปรับปรุงในทันที และสถาบันการเงินมักจะพิจารณาพฤติกรรมการใช้วงเงินสินเชื่อในช่วงเวลาหนึ่ง ไม่ใช่เพียงเดือนล่าสุด
เมื่อไหร่ที่ Credit Utilization Rate สูงอาจไม่เป็นปัญหา?
ในบางกรณี การมี Credit Utilization Rate สูงอาจไม่ส่งผลเสียมากนัก เช่น
1. คุณไม่มีแผนจะ สมัครสินเชื่อ เพิ่มในอนาคตอันใกล้
2. คุณสามารถชำระหนี้ได้เต็มจำนวนในรอบบัญชีถัดไป
3. เป็นการใช้จ่ายครั้งพิเศษที่ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นประจำ
อย่างไรก็ตาม การรักษา Credit Utilization Rate ให้ต่ำอยู่เสมอจะเป็นผลดีต่อสุขภาพทางการเงินโดยรวมของคุณ
สรุป
Credit Utilization Rate เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อคะแนนเครดิตและความน่าเชื่อถือทางการเงินของคุณ ทั้งหมดนี้ทำให้สถาบันการเงินมั่นใจที่จะอนุมัติวงเงินสินเชื่อให้กับคุณมากขึ้น ลดโอกาสที่คุณจะ สมัครสินเชื่อไม่ผ่านแม้ว่าจะมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อการพิจารณาสินเชื่อด้วย แต่ Credit Utilization Rate เป็นปัจจัยที่คุณสามารถควบคุมได้ง่ายที่สุด
การใช้บัตรเครดิตอย่างฉลาดและรักษา Credit Utilization Rate ให้ต่ำ ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติสินเชื่อ แต่ยังช่วยให้คุณมีสุขภาพทางการเงินที่ดีในระยะยาวอีกด้วย
สำหรับใครที่ต้องการเงินด่วน สินเชื่อรถแลกเงินเป็นหนึ่งในคำตอบและวิธีการที่ดีที่สุดของคุณ กับเงินให้ใจที่มีความน่าเชื่อถือจากบริษัท เงินให้ใจ จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสามารถขอใช้บริการได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คำนวณวงเงินสินเชื่อและสมัครสินเชื่อได้ทันทีที่ https://www.ngernhaijai.com/
“กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนรถ 12.82% - 24.00% สินเชื่อโอนเล่มทะเบียนรถ แบ่งเป็นกรณีบุคคลธรรมดามีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการส่วนตัว 6.08% - 15.00% และกรณีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ 6.08% - 26.62%”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.ngernhaijai.com/
Line : https://bit.ly/3zDd5Kz
เงินให้ใจ โทร : 02 078 8899
เผยแพร่ 15 พ.ค. 2568
บทความอื่น ๆ

เศรษฐกิจชะลอ = โอกาสใหม่ของคนตัวเล็ก? คว้าโอกาสให้ทันก่อนหลุดมือ
ค้นพบโอกาสที่ซ่อนอยู่ในภาวะเศรษฐกิจชะลอ เรียนรู้ 6 โอกาสทองสำหรับผู้ประกอบการรายเล็กที่ช่วยให้คุณพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสก่อนที่จะสายเกินไป
เผยแพร่ 15 พ.ค. 2568

ดอกเบี้ยขาขึ้น! อุตสาหกรรมไหนรับทรัพย์? ใครต้องระวังตัว
เจาะลึกผลกระทบของดอกเบี้ยสูงต่อแต่ละภาคธุรกิจ ค้นพบอุตสาหกรรมที่รับทรัพย์ในภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น ให้คุณสามารถบริหารเงินและสินเชื่อส่วนบุคคลในยุคดอกเบี้ยพุ่ง
เผยแพร่ 15 พ.ค. 2568

ค่าเสื่อมราคารถยนต์: ตัวการลับที่ทำให้รถคุณมูลค่าลดไม่รู้ตัว
เรียนรู้เรื่อง "ค่าเสื่อมราคารถยนต์" ตัวการร้ายที่ทำให้รถคุณมูลค่าลดลงถึง 60% ใน 5 ปี พร้อม 5 เทคนิคลดผลกระทบและวางแผนสินเชื่อรถยนต์อย่างชาญฉลาด
เผยแพร่ 15 พ.ค. 2568