สินเชื่อส่วนบุคคล
สินเชื่อส่วนบุคคล กสิกร

ดอกเบี้ยขาขึ้น! อุตสาหกรรมไหนรับทรัพย์? ใครต้องระวังตัว

เมื่อดอกเบี้ยสูงขึ้น เหมือนลมที่พัดผ่านเศรษฐกิจ บางคนรู้สึกเย็นสบาย บางคนกลับหนาวสั่น การปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยสูง ไม่ได้ส่งผลกระทบเหมือนกันต่อทุกภาคส่วน ในขณะที่ผู้กู้และผู้ถือสินเชื่อส่วนบุคคลอาจต้องแบกรับภาระหนักขึ้น แต่บางภาคธุรกิจกลับได้ประโยชน์อย่างคาดไม่ถึง บทความนี้ เงินให้ใจจะพาคุณสำรวจว่าใครได้ใครเสียเมื่อเราอยู่ในสภาวะดอกเบี้ยสูงพร้อมคำแนะนำในการปรับตัวรับมือกับคลื่นลูกใหม่นี้

ทำไมดอกเบี้ยสูงขึ้น และส่งผลต่อเศรษฐกิจอย่างไร?

เมื่อธนาคารกลางปรับขึ้นอัตรา ดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ผลกระทบจะส่งคลื่นไปทั่วระบบเศรษฐกิจ ดอกเบี้ยสูงขึ้นทำให้ต้นทุนการกู้ยืมเพิ่มขึ้น ซึ่งมีผลให้การใช้จ่ายและการลงทุนชะลอตัว สินเชื่อส่วนบุคคลมีดอกเบี้ยแพงขึ้น กำลังซื้อโดยรวมลดลง และกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม การปรับดอกเบี้ยขึ้นไม่ได้ส่งผลลบต่อทุกคน ในขณะที่ผู้กู้ต้องจ่ายดอกเบี้ยมากขึ้น แต่ผู้ออมกลับได้รับผลตอบแทนสูงขึ้นจากเงินฝาก ธุรกิจบางประเภทอาจเติบโตได้ดีในภาวะดอกเบี้ยสูงและนี่คือจุดที่เราจะมาค้นหากันว่าใครบ้างที่ "รับทรัพย์" จากสถานการณ์นี้

อุตสาหกรรมที่รับทรัพย์จากภาวะดอกเบี้ยสูง

1. ธนาคารและสถาบันการเงิน

ในช่วงดอกเบี้ยสูงสถาบันการเงินมักทำกำไรจากส่วนต่าง ดอกเบี้ย (Net Interest Margin) ที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากอัตรา ดอกเบี้ยเงินกู้ มักปรับตัวขึ้นเร็วกว่าอัตรา ดอกเบี้ยเงินฝาก ธนาคารได้ประโยชน์จากการให้สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อบ้าน และ สินเชื่อธุรกิจ ที่มีดอกเบี้ยสูงขึ้น

ผู้ประกอบการธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีการบริหารความเสี่ยงที่ดีจะสามารถทำกำไรได้มากขึ้น แม้ว่าจะต้องระมัดระวังเรื่องหนี้เสียที่อาจเพิ่มขึ้นตามภาระการผ่อนชำระที่สูงขึ้นของลูกค้า

2. บริษัทประกันชีวิต

บริษัทประกันชีวิตมักลงทุนในพันธบัตรระยะยาวและตราสารหนี้อื่นๆ เมื่อดอกเบี้ยสูงขึ้น พวกเขาสามารถลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มกำไรและความสามารถในการจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือกรมธรรม์

นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ที่มีอัตราดอกเบี้ยรับประกันจะดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้นในช่วงดอกเบี้ยสูง เพราะให้ผลตอบแทนที่แน่นอนและสูงกว่าเงินฝาก

3. กองทุนตลาดเงินและกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น

กองทุนตลาดเงิน (Money Market Funds) และกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นได้รับประโยชน์โดยตรงจากดอกเบี้ยสูงเนื่องจากสามารถลงทุนในตราสารที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีขึ้นในระยะสั้น โดยไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงมากเหมือนการลงทุนในหุ้น

ในภาวะเศรษฐกิจไม่แน่นอนที่มาพร้อมกับดอกเบี้ยสูงนักลงทุนมักจะลดความเสี่ยงโดยย้ายเงินไปยังกองทุนประเภทนี้ ทำให้กองทุนเติบโตทั้งในแง่ขนาดและผลกำไร

4. ธุรกิจรับจำนำและ สินเชื่อที่มีหลักประกัน

เมื่อสินเชื่อส่วนบุคคลจากธนาคารมีดอกเบี้ยสูงและเข้าถึงยากขึ้น ผู้บริโภคจำนวนมากหันไปใช้บริการสินเชื่อที่มีหลักประกัน เช่น ธุรกิจรับจำนำ สินเชื่อรถยนต์ หรือ สินเชื่อทอง ซึ่งมีเงื่อนไขผ่อนปรนกว่า

ธุรกิจเหล่านี้ได้ประโยชน์จากทั้งปริมาณลูกค้าที่เพิ่มขึ้นและดอกเบี้ยสูงที่สามารถเรียกเก็บได้ โดยยังมีความเสี่ยงต่ำกว่าเนื่องจากมีหลักประกัน

5. ธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management)

ในช่วงดอกเบี้ยสูงและเศรษฐกิจผันผวน คนมักแสวงหาคำแนะนำในการจัดการเงินและการลงทุน ธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง ที่ปรึกษาการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์จึงได้ประโยชน์จากความต้องการที่เพิ่มขึ้น

ผู้ประกอบการเหล่านี้สามารถเสนอทางเลือกการลงทุนที่หลากหลายซึ่งให้ผลตอบแทนสูงกว่าในภาวะดอกเบี้ยสูง เช่น พันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้ภาคเอกชน หรือผลิตภัณฑ์การลงทุนโครงสร้างซับซ้อน (Structured Products)

ใครต้องระวังตัวในภาวะดอกเบี้ยสูง?

1. ผู้ถือสินเชื่อส่วนบุคคลและ สินเชื่อบัตรเครดิต

ผู้ถือสินเชื่อส่วนบุคคลที่มี ดอกเบี้ยลอยตัว จะได้รับผลกระทบทันทีเมื่ออัตราดอกเบี้ยปรับขึ้น ทำให้ภาระการผ่อนชำระรายเดือนเพิ่มขึ้น สินเชื่อส่วนบุคคลแบบไม่มีหลักประกัน ยิ่งมีดอกเบี้ยสูงอยู่แล้ว ยิ่งทำให้ภาระหนี้ของผู้บริโภคหนักขึ้นไปอีก

สินเชื่อบัตรเครดิต ก็เช่นกัน เมื่อดอกเบี้ยสูงขึ้น ผู้ถือบัตรที่ไม่สามารถชำระยอดเต็มจะเผชิญกับต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น ทำให้วงจรหนี้บัตรเครดิตแก้ไขได้ยากขึ้น

วิธีรับมือ : พยายามชำระหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลที่มีดอกเบี้ยสูงให้เร็วที่สุด โดยเฉพาะหนี้บัตรเครดิต หรือพิจารณารวมหนี้เป็นสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีดอกเบี้ยต่ำกว่า

2. ผู้กู้ซื้อบ้านและอสังหาริมทรัพย์

ผู้ที่มี สินเชื่อบ้าน แบบ ดอกเบี้ยลอยตัว จะได้รับผลกระทบโดยตรงเมื่อดอกเบี้ยสูงขึ้น ค่างวดบ้านจะเพิ่มขึ้นทันที หรือระยะเวลาการผ่อนอาจยืดออกไป ในขณะที่ผู้ที่กำลังวางแผนซื้อบ้านจะพบว่าความสามารถในการกู้ลดลง เพราะธนาคารจะประเมินความสามารถในการชำระหนี้ตาม ดอกเบี้ยสูงในปัจจุบัน

ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็ได้รับผลกระทบจากทั้งต้นทุนการก่อสร้างที่สูงขึ้นและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง ทำให้อุปสงค์และราคาบ้านอาจปรับตัวลดลง

วิธีรับมือ : พิจารณาปรับเปลี่ยนจาก สินเชื่อบ้านดอกเบี้ยลอยตัว เป็น สินเชื่อบ้านดอกเบี้ยคงที่ หากเป็นไปได้ หรืออาจพิจารณารีไฟแนนซ์หากอัตรา ดอกเบี้ย มีแนวโน้มสูงขึ้นอีก

3. ธุรกิจที่มีหนี้สินสูง

บริษัทที่มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนสูงและต้องพึ่งพาเงินกู้ยืมจะมีต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้นในภาวะ ดอกเบี้ยสูงโดยเฉพาะธุรกิจที่มีการกู้ยืมระยะสั้นหรือมีภาระหนี้ที่ต้องรีไฟแนนซ์ เช่น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่ หรือบริษัทสตาร์ทอัพที่ยังไม่มีกำไร

ดอกเบี้ยสูงยังทำให้การระดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้หรือตราสารหนี้ยากขึ้น เพราะนักลงทุนคาดหวังผลตอบแทนที่สูงขึ้นเพื่อชดเชยความเสี่ยง

วิธีรับมือ : ธุรกิจควรพิจารณาลดสัดส่วนหนี้สิน (Deleveraging) หรือปรับโครงสร้างหนี้ให้เป็นหนี้ระยะยาวที่มี ดอกเบี้ยคงที่ มากขึ้น

4. ผู้ประกอบการรายย่อยและ SMEs

ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางที่ต้องพึ่งพา สินเชื่อธุรกิจ หรือสินเชื่อส่วนบุคคลในการดำเนินงานจะได้รับผลกระทบจากดอกเบี้ยสูงทั้งในแง่ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นและความยากในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนใหม่

นอกจากนี้ ภาวะดอกเบี้ยสูงยังส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง ทำให้ยอดขายของธุรกิจลดลงตามไปด้วย โดยเฉพาะธุรกิจที่ขายสินค้าฟุ่มเฟือยหรือไม่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต

วิธีรับมือ : ปรับแผนธุรกิจให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุน และพิจารณาแหล่งเงินทุนทางเลือกที่ไม่ใช่การกู้ยืม เช่น การหาพันธมิตรทางธุรกิจหรือการระดมทุนจากนักลงทุน

5. ผู้ลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาว

ผู้ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลหรือหุ้นกู้ระยะยาวที่มี ดอกเบี้ยคงที่ จะเผชิญกับความเสี่ยงด้านราคา (Price Risk) เมื่อดอกเบี้ยสูงขึ้น ราคาตราสารหนี้ในตลาดรองจะลดลง ทำให้มูลค่าพอร์ตการลงทุนลดลงตามไปด้วย

ยิ่งตราสารหนี้มีอายุยาวเท่าไร ผลกระทบจากดอกเบี้ยสูงยิ่งรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น นักลงทุนที่ต้องการขายตราสารหนี้ก่อนครบกำหนดจะขาดทุนมากกว่าในสภาวะปกติ

วิธีรับมือ : พิจารณาปรับพอร์ตการลงทุนให้มีอายุเฉลี่ย (Duration) สั้นลง หรือทยอยลงทุนในตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้นตามภาวะดอกเบี้ยสูงในปัจจุบัน

สรุป

ภาวะดอกเบี้ยสูงเป็นเหมือนดาบสองคม สร้างทั้งความท้าทายและโอกาสใหม่ๆ ขึ้นอยู่กับว่าคุณอยู่ในตำแหน่งไหนของระบบเศรษฐกิจ ความเข้าใจว่าใครได้ประโยชน์และใครเสียประโยชน์จะช่วยให้คุณวางแผนและปรับตัวได้อย่างเหมาะสม

สำหรับผู้บริโภคทั่วไป การจัดการหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลให้มีประสิทธิภาพ การเพิ่มเงินสำรอง และการปรับพอร์ตการลงทุนคือกุญแจสำคัญในการนำทางผ่านช่วงเวลาที่ท้าทายนี้ ในขณะที่ธุรกิจต้องเตรียมพร้อมรับมือกับกำลังซื้อที่ลดลงและต้นทุนการเงินที่เพิ่มขึ้น

ที่สำคัญที่สุด อย่าตื่นตระหนกกับภาวะดอกเบี้ยสูง ประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นว่าวัฏจักรดอกเบี้ยมาและไป การมีความรู้และการวางแผนที่ดีจะช่วยให้คุณไม่เพียงแค่อยู่รอด แต่ยังอาจรับทรัพย์ได้ในสถานการณ์ที่คนส่วนใหญ่มองว่าเป็นความท้าทาย

สำหรับใครที่ต้องการเงินด่วน สินเชื่อรถแลกเงินเป็นหนึ่งในคำตอบและวิธีการที่ดีที่สุดของคุณ กับเงินให้ใจที่มีความน่าเชื่อถือจากบริษัท เงินให้ใจ จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสามารถขอใช้บริการได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คำนวณวงเงินสินเชื่อและสมัครสินเชื่อได้ทันทีที่ https://www.ngernhaijai.com/

“กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนรถ 12.82% - 24.00% สินเชื่อโอนเล่มทะเบียนรถ แบ่งเป็นกรณีบุคคลธรรมดามีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการส่วนตัว 6.08% - 15.00% และกรณีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ 6.08% - 26.62%”

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Website : https://www.ngernhaijai.com/

Line : https://bit.ly/3zDd5Kz

เงินให้ใจ โทร : 02 078 8899

เผยแพร่ 15 พ.ค. 2568

บทความอื่น ๆ

สินเชื่อธุรกิจ

เศรษฐกิจชะลอ = โอกาสใหม่ของคนตัวเล็ก? คว้าโอกาสให้ทันก่อนหลุดมือ

ค้นพบโอกาสที่ซ่อนอยู่ในภาวะเศรษฐกิจชะลอ เรียนรู้ 6 โอกาสทองสำหรับผู้ประกอบการรายเล็กที่ช่วยให้คุณพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสก่อนที่จะสายเกินไป

เผยแพร่ 15 พ.ค. 2568

สินเชื่อรถยนต์

ค่าเสื่อมราคารถยนต์: ตัวการลับที่ทำให้รถคุณมูลค่าลดไม่รู้ตัว

เรียนรู้เรื่อง "ค่าเสื่อมราคารถยนต์" ตัวการร้ายที่ทำให้รถคุณมูลค่าลดลงถึง 60% ใน 5 ปี พร้อม 5 เทคนิคลดผลกระทบและวางแผนสินเชื่อรถยนต์อย่างชาญฉลาด

เผยแพร่ 15 พ.ค. 2568

วงเงินสินเชื่อ

Credit Utilization Rate สำคัญอย่างไร? ทำไมวงเงินเหลือเยอะ = โอกาสขอสินเชื่อผ่านมากขึ้น?

เรียนรู้ความสำคัญของ Credit Utilization Rate ต่อโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อ พร้อมเทคนิค 5 ข้อในการลดอัตราการใช้วงเงินเพื่อเพิ่มโอกาสให้คุณสมัครสินเชื่อผ่านมากขึ้น

เผยแพร่ 15 พ.ค. 2568