รีไฟแนนซ์รถยนต์ช่วงดอกเบี้ยพุ่ง! กลยุทธ์ลดภาระที่คนผ่อนรถต้องรู้

ในยุคที่ดอกเบี้ยขึ้นต่อเนื่อง หลายคนที่ต้องการรีไฟแนนซ์รถยนต์เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินเริ่มกังวลว่าจะได้เงื่อนไขที่คุ้มค่าหรือไม่ ความจริงคือ แม้ดอกเบี้ยจะสูงขึ้น แต่หากรู้วิธีเลือกและเจรจาอย่างถูกต้อง คุณยังสามารถได้ดีลที่คุ้มค่าและลดภาระผ่อนได้จริง

การรีไฟแนนซ์รถยนต์ คือ การนำรถยนต์ 4 ล้อ (เก๋ง รถกระบะ SUV/PPV) ที่มีอยู่ไปขอวงเงินสินเชื่อเพิ่มเติม โดยย้ายจากสถาบันการเงินเดิมไปยังที่ใหม่ เพื่อได้เงินก้อนออกมาใช้จ่ายอเนกประสงค์ พร้อมทั้งลดค่างวดรายเดือน แต่ในปัจจุบันนี้ ดอกเบี้ยที่พุ่งขึ้นสูงกว่าในยุคที่เจ้าของรถทำการซื้อรถครั้งแรก ทำให้เกิดคำถามใหญ่ว่า การรีไฟแนนซ์ในช่วงนี้จะยังคุ้มค่าอยู่หรือไม่ และต้องเลือกอย่างไรให้คุ้ม

ทำไมยุคดอกเบี้ยสูงถึงยังคุ้มค่าที่จะรีไฟแนนซ์

แม้ยุคนี้ ดอกเบี้ยจะสูงขึ้น แต่การปรับโครงสร้างการผ่อนชำระผ่านการรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมดยังคงเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้บริโภคในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงการบริหารกระแสเงินสดส่วนบุคคลในยุคที่การลดภาระการเงินถือเป็นเรื่องสำคัญ

การรีไฟแนนซ์รถยนต์ ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถยืดระยะเวลาการผ่อนชำระออกไป ทำให้สามารถลดภาระค่างวดรายเดือนได้อย่างมีนัยสำคัญ เช่น จากเดิมที่ต้องชำระ 15,000 บาทต่อเดือน เมื่อรีไฟแนนซ์แล้วมีการยืดระยะเวลาผ่อนออกไป ค่างวดอาจปรับลดลงเหลือเพียง 10,000-12,000 บาท ส่งผลให้มีเงินส่วนต่าง 3,000-5,000 บาทที่สามารถนำไปบริหารจัดการค่าใช้จ่ายจำเป็นอื่นๆ ได้

ประโยชน์ที่สำคัญคือการป้องกันไม่ให้ต้องพึ่งพาแหล่งเงินกู้ที่มีต้นทุนสูงกว่า อาทิ บัตรเครดิตที่มีอัตราดอกเบี้ย 16-20% หรือสินเชื่อนอกระบบที่มีดอกเบี้ยสูงถึง 20% ขึ้นไป การจัดการสภาพคล่องทางการเงินผ่านการรีไฟแนนซ์จึงเป็นกลยุทธ์ที่มีความสมเหตุสมผลด้วยเช่นกัน

วางแผน 'รีไฟแนนซ์รถยนต์' อย่างไร ให้ค่างวดลด แม้ในช่วงดอกเบี้ยขึ้น

แม้ว่าดอกเบี้ยขึ้น แต่การรีไฟแนนซ์รถยนต์ยังเป็นทางออกที่ดีสำหรับคนที่กำลังแบกรับภาระค่างวดหนัก โดยเฉพาะถ้าคุณวางแผนอย่างรอบคอบ การลดค่างวดรถเพียงเดือนละไม่กี่พันบาทอาจเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้คุณหายใจคล่องขึ้น มีเงินเหลือใช้ในยามจำเป็น และไม่ต้องพึ่งหนี้นอกระบบหรือบัตรเครดิตที่ดอกเบี้ยสูงลิ่ว มาดูว่าจะวางแผนรีไฟแนนซ์อย่างไรให้ได้ผลแม้ในช่วงเศรษฐกิจท้าทายแบบนี้

- เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย

ความผิดพลาดที่พบบ่อยคือการตัดสินใจรีไฟแนนซ์กับสถาบันการเงินแห่งแรกที่เสนอมา ทั้งที่ความจริงแล้ว แต่ละสถาบันการเงินมีนโยบายดอกเบี้ยที่แตกต่างกันมาก แม้ในยุคดอกเบี้ยขาขึ้น ลองเดินเข้าไปขอใบเสนอจากทั้งธนาคารใหญ่ บริษัทลิสซิ่ง และสหกรณ์ออมทรัพย์ที่คุณเป็นสมาชิก

ธนาคารมักให้ดอกเบี้ยต่ำกว่าแต่เข้มงวดในการพิจารณา ส่วนบริษัทลิสซิ่งอาจยืดหยุ่นกว่าแต่ดอกเบี้ยสูงกว่านิดหน่อย สำหรับสหกรณ์ออมทรัพย์ หากคุณเป็นสมาชิก นี่อาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเพราะมักมีดอกเบี้ยต่ำกว่าตลาดมาก

สิ่งสำคัญคือต้องดูอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา และตรวจสอบว่ามีค่าธรรมเนียมแฝงอื่นๆ หรือไม่ ที่อาจทำให้ต้นทุนรวมสูงขึ้น

- ยืดระยะเวลาการผ่อน

เคล็ดลับที่ช่วยลดค่างวดได้ทันทีคือการยืดระยะเวลาผ่อนให้ยาวขึ้น เมื่อคุณกระจายการชำระให้ยาวนานขึ้น แต่ละเดือนคุณก็จะจ่ายน้อยลง สร้างสภาพคล่องให้การเงินของคุณทันที

อย่างไรก็ตาม มีข้อควรระวังก็คือ การยืดระยะเวลามากเกินไปจะทำให้คุณเสียดอกเบี้ยรวมเพิ่มขึ้น และไม่ควรผ่อนนานเกินอายุการใช้งานที่เหลือของรถ เพราะอาจทำให้คุณยังผ่อนรถอยู่ ทั้งที่รถอาจจะเสื่อมสภาพไปแล้ว โดยทั่วไป ควรหาจุดสมดุลที่ทำให้ค่างวดลดลงพอสบายตัว แต่ไม่ยืดยาวจนเสียดอกเบี้ยโดยใช่เหตุ

- วงเงินประเมินรถ

ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อเงื่อนไขรีไฟแนนซ์คือมูลค่าประเมินของรถคุณ รถที่ได้รับการประเมินสูงจะได้วงเงินสูงและเงื่อนไขที่ดีกว่า เพราะเป็นหลักประกันที่มีค่ามากกว่า

ก่อนนำรถไปประเมิน ให้ทำความสะอาดทั้งภายในและภายนอกอย่างละเอียด ซ่อมแซมความเสียหายเล็กๆ น้อยๆ ที่มองเห็นได้ และเตรียมประวัติการบำรุงรักษาตามระยะให้พร้อม สิ่งเหล่านี้ช่วยเพิ่มมูลค่าประเมินได้

รถบางรุ่นมีความต้องการสูงในตลาดรถมือสอง เช่น รถญี่ปุ่นยอดนิยม รถอเนกประสงค์ หรือรถกระบะ ซึ่งมักได้รับการประเมินที่ดีกว่า หากเป็นไปได้ ขอรับการประเมินจากหลายสถาบันการเงินและนำตัวเลขที่ดีที่สุดไปต่อรองกับที่อื่น

- ประวัติการผ่อนชำระ

ประวัติการชำระเงินที่ดีคือทรัพย์สินที่ล้ำค่าในการเจรจารีไฟแนนซ์ หากคุณมีประวัติจ่ายตรงเวลามาตลอด ไม่เคยผิดนัด นี่คือจุดแข็งที่ควรนำมาใช้ในการต่อรอง

เตรียมหลักฐานการผ่อนชำระที่ดีย้อนหลังสัก 6-12 เดือน รวมถึงรายงานเครดิตบูโรที่แสดงประวัติทางการเงินที่น่าเชื่อถือ และเอกสารแสดงรายได้ปัจจุบันที่มั่นคงหรือเพิ่มขึ้น

เมื่อเข้าไปเจรจา อย่าลังเลที่จะบอกว่า "ผมมีประวัติการชำระเงินที่ดีมาตลอด ไม่เคยผิดนัดเลย ขอดอกเบี้ยพิเศษได้ไหม?" สถาบันการเงินมักมีอำนาจในการยืดหยุ่นเงื่อนไขสำหรับลูกค้าที่มีความเสี่ยงต่ำ

- อย่าลืมคิดค่าใช้จ่ายแฝง

กับดักที่หลายคนมองข้ามคือการมองแค่ค่างวดที่ลดลง แต่ลืมคำนวณค่าใช้จ่ายแฝงที่มากับการรีไฟแนนซ์รถยนต์ ซึ่งอาจทำให้ไม่คุ้มในระยะยาว

ค่าใช้จ่ายเหล่านี้รวมถึงค่าธรรมเนียมปิดบัญชีก่อนกำหนด (มักคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของยอดคงเหลือ) ค่าจัดการสินเชื่อ (ค่าเปิดบัญชีใหม่) ค่าโอนกรรมสิทธิ์ที่กรมการขนส่ง และค่าใช้จ่ายในการทำประกันภัยรถยนต์ (บางแห่งบังคับทำประกันชั้น 1 ซึ่งอาจแพงกว่าที่คุณทำอยู่ปัจจุบัน)

อย่างไรก็ตาม การรีไฟแนนซ์รถยนต์อย่างฉลาด แม้ในช่วงดอกเบี้ยสูง สามารถช่วยลดภาระทางการเงินของคุณได้จริง ถ้าคุณเปรียบเทียบข้อเสนอจากหลายแหล่ง พิจารณาทุกปัจจัยอย่างรอบด้าน และไม่รีบตัดสินใจ

เทคนิคเจรจาข้อดีในช่วงดอกเบี้ยสูง

ช่วงที่ตลาดการเงินผันผวน สถาบันการเงินต่างก็ต้องการรักษาลูกค้าคุณภาพไว้ นี่คือโอกาสทองในการเจรจาข้อดีที่ไม่มีในช่วงปกติ แต่ต้องรู้จุดอ่อนจุดแข็งของตัวเองก่อน

เทคนิคที่ 1 : ใช้ประวัติการชำระที่ดีเป็นจุดต่อรอง

หากคุณไม่เคยผิดนัดชำระและมีเครดิตดี ใช้จุดนี้เจรจาเพื่อขอดอกเบี้ยพิเศษหรือลดค่าธรรมเนียมต่างๆ

เทคนิคที่ 2 : เสนอทำประกันภัยกับสถาบันการเงินเดียวกัน

การทำประกันและรีไฟแนนซ์กับสถาบันการเงินเดียวกันจะช่วยให้คุณได้รับเงื่อนไขที่ดีกว่า อาจได้ส่วนลดค่าเบี้ยประกันหรือดอกเบี้ยพิเศษซึ่งคุ้มค่ามากขึ้น

สรุป

การรีไฟแนนซ์รถยนต์แม้ในช่วงดอกเบี้ยขึ้นยังเป็นทางเลือกที่มีประโยชน์หากวางแผนอย่างรอบคอบ กุญแจสำคัญคือการเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยจากหลายแหล่ง การวางแผนระยะเวลาผ่อนที่เหมาะสม การดูแลให้รถได้รับการประเมินมูลค่าสูงสุด และการใช้ประวัติการเงินที่ดีเป็นจุดต่อรอง

อย่าลืมคำนวณค่าใช้จ่ายแฝงทั้งหมด และเตรียมตัวให้พร้อมทั้งด้านเอกสารและการปรับปรุงเครดิตก่อนยื่นขอรีไฟแนนซ์ เพราะแม้ว่าดอกเบี้ยตลาดจะสูงขึ้น แต่ด้วยการเตรียมตัวที่ดีและการเลือกจังหวะเวลาที่เหมาะสม การรีไฟแนนซ์รถยนต์ยังคงเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการจัดการภาระทางการเงิน เพิ่มสภาพคล่อง และสร้างทางเลือกในการบริหารการเงินส่วนบุคคลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

สำหรับใครที่ต้องการกู้สินเชื่อ สินเชื่อรถแลกเงินเป็นหนึ่งในคำตอบและวิธีการที่ดีที่สุดของคุณ กับเงินให้ใจที่มีความน่าเชื่อถือจากบริษัท เงินให้ใจ จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสามารถขอใช้บริการได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คำนวณวงเงินสินเชื่อและสมัครสินเชื่อได้ทันทีที่ https://www.ngernhaijai.com/

“กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนรถ 12.82% - 24.00% สินเชื่อโอนเล่มทะเบียนรถ แบ่งเป็นกรณีบุคคลธรรมดามีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการส่วนตัว 6.08% - 15.00% และกรณีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ 6.08% - 26.62%”

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Website : https://www.ngernhaijai.com/

Line : https://bit.ly/3zDd5Kz

เงินให้ใจ โทร : 02 078 8899