ปลดหนี วิธีปลด หนี้

เมื่อ “เดอะแบก” เริ่มไม่ไหว... รับมือหนี้ครอบครัวอย่างมีสติ

"เงินเดือนเข้าแล้วหรือยังลูก? ต้องจ่ายค่าบ้านวันพรุ่งนี้..." เสียงนี้คงคุ้นหูสำหรับใครหลายคนที่ตกอยู่ในสถานะ "เดอะแบก" ของครอบครัว คนที่เงินเดือนออกยังไม่ทันได้เห็นเงินในบัญชี ก็ต้องโอนให้พ่อแม่จ่ายค่าบ้าน ชำระบัตรเครดิตที่พ่อใช้ แบ่งค่าผ่อนรถให้น้อง และอีกสารพัดภาระที่ตัวเองไม่ได้ก่อ แต่ต้องรับผิดชอบแทนคนในครอบครัว ความจริงที่น่าตกใจคือ คนไทยจำนวนมากตกอยู่ในสถานะ "ผู้แบกหลัก" ของครอบครัว ต้องรับผิดชอบภาระหนี้สินของคนทั้งบ้าน ทั้งที่ตนเองอาจไม่ได้เป็นคนสร้างหนี้เหล่านั้น บทความนี้ เงินให้ใจ จะพา "เดอะแบก" ทุกคนมาทำความเข้าใจหนี้ครอบครัวอย่างมีสติ เรียนรู้วิธีจัดการปัญหาหนี้สินที่สะสมมาในครอบครัว และวางแผนปลดหนี้ร่วมกับคนในบ้านโดยไม่เสียสุขภาพกายและสุขภาพใจ เพราะการช่วยเหลือคนที่เรารักไม่ควรเป็นภาระที่ทำให้ชีวิตของเราเองล้มเหลว

เข้าใจก่อนว่า "หนี้ครอบครัว" คือภาระที่มีหลายชั้น

หนี้ครอบครัวไม่ได้เป็นแค่ "ตัวเลข" หรือยอดเงินที่ต้องจ่ายเท่านั้น แต่มีเรื่องของ "ความสัมพันธ์" และ "ความคาดหวัง" เข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้การจัดการมีความซับซ้อนมากกว่าหนี้ส่วนบุคคล การเข้าใจลักษณะของหนี้ครอบครัวจะช่วยให้เราจัดการได้ตรงจุดมากขึ้น

โดยทั่วไป หนี้ครอบครัวสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภทหลักคือ

1. หนี้ที่เกิดจากครอบครัว หมายถึง หนี้ที่เกิดจากความจำเป็นของครอบครัวโดยรวม เช่น สินเชื่อบ้าน ค่ารักษาพยาบาลของพ่อแม่ หรือค่าเล่าเรียนของลูกหลาน หนี้ประเภทนี้มักถูกมองว่าเป็น "หน้าที่ร่วมกัน" ที่ทุกคนควรช่วยกันแบกรับ

2. หนี้ที่ช่วยกันแบก หมายถึง หนี้ที่มีชื่อคนใดคนหนึ่งในครอบครัว แต่ทุกคนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน เช่น รถยนต์ที่พี่น้องใช้ร่วมกัน หรือเงินลงทุนในกิจการครอบครัว

3. หนี้ที่ต้องรับแทน หมายถึง หนี้ที่สมาชิกคนใดคนหนึ่งในครอบครัวก่อขึ้น แต่ไม่สามารถรับผิดชอบได้ จึงตกเป็นภาระของคนอื่นในครอบครัว ประเภทนี้มักสร้างความเครียดมากที่สุด เพราะคนจ่ายไม่ได้เป็นคนก่อหนี้

การเข้าใจ "ชนิดของหนี้" ในครอบครัวคือจุดเริ่มต้นของการแก้ปัญหาที่ตรงจุด ไม่ใช่แค่ยอมจ่ายไปเรื่อยๆ โดยไม่มีทางออก ซึ่งในระยะยาวอาจทำให้เกิดความขัดแย้งและความเครียดสะสม

หนี้เยอะไม่ใช่ปัญหา ถ้า "รู้ที่มาและเรียงลำดับได้"

การจัดการหนี้ครัวเรือนที่มีประสิทธิภาพเริ่มต้นจากการทำความเข้าใจภาพรวมทั้งหมดของหนี้สินที่มีอยู่ และจัดลำดับความสำคัญในการชำระ ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้

1. จดบันทึกหนี้ทั้งหมดให้ชัดเจน สิ่งแรกที่ต้องทำคือการรวบรวมข้อมูลหนี้สินทั้งหมดของครอบครัว โดยระบุรายละเอียดเช่น ใครเป็นผู้กู้ วงเงินเท่าไหร่ อัตราดอกเบี้ย กำหนดชำระ ผลกระทบหากผิดนัด

2. แยกหนี้ดี–หนี้เสีย หลังจากรวบรวมข้อมูลแล้ว ให้แยกประเภทหนี้ตามลักษณะและผลกระทบ

- หนี้ดี : คือหนี้ที่สร้างมูลค่าหรือคุณภาพชีวิตในระยะยาว เช่น หนี้บ้าน, หนี้การศึกษา, หนี้เพื่อการลงทุนที่มีผลตอบแทนชัดเจน หนี้เหล่านี้มักมีดอกเบี้ยต่ำและระยะเวลาผ่อนยาว

- หนี้เสีย : คือหนี้ที่ไม่สร้างมูลค่าระยะยาวหรือมีดอกเบี้ยสูง เช่น หนี้บัตรเครดิต, สินเชื่อส่วนบุคคล, หนี้นอกระบบ หรือหนี้จากการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย หนี้เหล่านี้ควรได้รับการจัดการก่อนเพราะมีต้นทุนสูงกว่า

3. จัดลำดับการจ่ายหนี้ เมื่อเข้าใจลักษณะของหนี้แล้ว ให้วางลำดับการชำระดังนี้

- อันดับ 1 : หนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงที่สุด เช่น บัตรเครดิต หรือสินเชื่อที่มีอัตราดอกเบี้ย 15-28% ต่อปี เพราะการจ่ายหนี้เหล่านี้ก่อนจะช่วยหยุดการเติบโตของหนี้ได้เร็วที่สุด

- อันดับ 2 : หนี้ที่มีผลกระทบรุนแรงหากผิดนัด เช่น หนี้ที่มีทรัพย์สินค้ำประกัน (บ้าน, รถ) หรือหนี้ที่มีผู้ค้ำประกัน เพื่อป้องกันความเสียหายต่อทรัพย์สินหรือความสัมพันธ์

- อันดับ 3 : หนี้ที่มีผลกระทบต่อเครดิตบูโรโดยตรง เช่น สินเชื่อธนาคาร เพื่อรักษาโอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อในอนาคตหากจำเป็น

- อันดับ 4 : หนี้ระยะยาวที่มีดอกเบี้ยต่ำ เช่น สินเชื่อบ้าน ซึ่งมักมีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าและระยะเวลาผ่อนยาว ทำให้มีความยืดหยุ่นในการจัดการมากกว่า

4. รับมือกับหนี้นอกระบบอย่างฉลาด หากครอบครัวมีหนี้นอกระบบ ซึ่งมักมีดอกเบี้ยสูงมากและอาจมีวิธีการทวงหนี้ที่รุนแรง ควรจัดการโดย

- เจรจาต่อรอง : พูดคุยกับเจ้าหนี้เพื่อขอลดดอกเบี้ยหรือขยายเวลาชำระ

- หาแหล่งเงินทุนที่ถูกกฎหมาย : พิจารณาสินเชื่อจากสถาบันการเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าเพื่อนำมาชำระหนี้นอกระบบ

- ขอคำปรึกษา : ติดต่อหน่วยงานช่วยเหลือผู้มีปัญหาหนี้สิน

แนวคิดสำคัญที่ควรจำไว้คือ อย่าใช้คำว่า "ช่วยบ้านก่อน" โดยไม่พิจารณาประเภทของหนี้และผลกระทบ เพราะการจ่ายหนี้ไม่ตรงจุดอาจทำให้ภาพรวมของหนี้ครัวเรือนแย่ลง และสุดท้ายอาจทำให้ทั้งครอบครัวจมปลักกับปัญหาหนี้สินไม่จบสิ้น

เมื่อภาระหนี้ครอบครัวเกินกำลัง

หากพบว่าภาระหนี้ที่ต้องแบกรับเกิน 50% ของรายได้ ซึ่งเป็นระดับที่อาจทำให้เกิดความเครียดทางการเงินและกระทบต่อคุณภาพชีวิต ควรพิจารณาแนวทางต่อไปนี้

1. ปรับโครงสร้างการจ่ายหนี้

- ปิดหนี้วงเล็กที่มีดอกเบี้ยสูงก่อน เพื่อลดจำนวนหนี้และภาระดอกเบี้ย

- พิจารณารวมหนี้หลายก้อนเข้าด้วยกัน (Debt Consolidation) เพื่อลดอัตราดอกเบี้ยโดยรวม

- เจรจากับสถาบันการเงินเพื่อขยายระยะเวลาผ่อนชำระ ทำให้ค่างวดต่อเดือนลดลง

2. เพิ่มรายได้

- หางานพาร์ทไทม์หรือฟรีแลนซ์ที่ไม่กระทบงานประจำ

- พัฒนาทักษะเพื่อโอกาสในการเลื่อนตำแหน่งหรือเพิ่มเงินเดือน

- พิจารณาทำงานล่วงเวลาในช่วงที่จำเป็นต้องเพิ่มรายได้

3. ลดรายจ่ายในครอบครัว

- วางแผนการใช้จ่ายร่วมกันในครอบครัว

- ตัดรายจ่ายฟุ่มเฟือยที่ไม่จำเป็น

- หาทางลดต้นทุนค่าครองชีพ เช่น การทำอาหารทานเองแทนการซื้อ

สรุป

การเป็น "เดอะแบก" ของครอบครัวเป็นบทบาทที่หนักหนาและท้าทาย แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องจมอยู่กับภาระนี้ตลอดไป ความจริงที่ต้องยอมรับคือ ไม่มีใครสามารถแบกบ้านได้ด้วยแรงคนเดียว แต่เราสามารถ "จัดระบบ" ให้ทุกคนในบ้านมีส่วนร่วมและรับผิดชอบร่วมกัน

การจัดการกับหนี้ครอบครัวเริ่มต้นจากการมีสติ ตามด้วยการวางแผนที่ชัดเจน และสุดท้ายคือการใช้เงินอย่างมีวินัยและสม่ำเสมอ ไม่มีสูตรสำเร็จที่จะปลดหนี้ได้ในชั่วข้ามคืน แต่ด้วยความตั้งใจและความอดทน คุณสามารถค่อยๆ ลดภาระหนี้และนำครอบครัวไปสู่อิสรภาพทางการเงินได้

สำหรับใครที่ต้องการกู้สินเชื่อ สินเชื่อรถแลกเงินเป็นหนึ่งในคำตอบและวิธีการที่ดีที่สุดของคุณ กับเงินให้ใจที่มีความน่าเชื่อถือจากบริษัท เงินให้ใจ จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการ สินเชื่อรถบรรทุก ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสามารถขอใช้บริการได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คำนวณวงเงินสินเชื่อและสมัครสินเชื่อได้ทันทีที่ https://www.ngernhaijai.com/

“กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนรถ 12.82% - 24.00% สินเชื่อโอนเล่มทะเบียนรถ แบ่งเป็นกรณีบุคคลธรรมดามีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการส่วนตัว 6.08% - 15.00% และกรณีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ 6.08% - 26.62%”

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Website : https://www.ngernhaijai.com/

Line : https://bit.ly/3zDd5Kz

เงินให้ใจ โทร : 02 078 8899

เผยแพร่ 13 พ.ย. 2568

บทความอื่น ๆ

ดอกเบี้ยผิดนัด

ดอกเบี้ยผิดนัดคืออะไร? ทำไม ยอดหนี้พุ่งเร็วกว่าที่คิด!

เข้าใจดอกเบี้ยผิดนัดภายใต้กฎหมายใหม่ ดอกเบี้ยสูงสุดคิดได้เท่าไร? ผิดนัดกี่วันเริ่มคิดดอก? และวิธีป้องกันไม่ให้ยอดหนี้บานแบบไม่รู้ตัว

เผยแพร่ 13 พ.ย. 2568

ค้ำประกัน

ก่อนจะ "ค้ำประกัน" ให้ใคร... คิดให้ดี! ไม่งั้นอาจเป็นหนี้แทนเพื่อนแบบงง ๆ

ค้ำประกันคืออะไร เสี่ยงแค่ไหน กระทบเครดิตยังไง เช็กให้ครบก่อนเซ็น พร้อมเช็กลิสต์ตัดสินใจที่ปลอดภัยกว่า

เผยแพร่ 13 พ.ย. 2568

แม่ค้า

แม่ค้า Street Food ยุคใหม่ต้องรู้! อัพเกรดการเงินให้เหลือเก็บทุกเดือน

ขายดีแต่ไม่รู้เงินหายไปไหน? รู้เทคนิคจัดการเงินแบบแม่ค้าสมัยใหม่ วางระบบเงินหมุน เก็บยังไงให้อยู่ เหลือกำไรทุกเดือนจริง

เผยแพร่ 13 พ.ย. 2568